กกต.กทม.สั่งห้ามเผยผลโพลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตั้งแต่ 24 ก.พ. หรือ 7 วันก่อนเลือกตั้งตามกฎหมายทุกช่องทาง เตือนนำเสนอข้อมูลซี้ซั้วผิดกฎหมายฐานหลอกลวงให้เข้าใจผิด
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) กล่าวถึงผลโพลสำรวจการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) สามารถทำการศึกษาและเผยแพร่ก่อน 7 วันที่ทำการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 3 มี.ค. 2556 แต่เมื่อเข้าสู่ระยะ 7 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้งห้ามมีการเผยแพร่ ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดฐานชี้นำเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้ง ตามมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี ส่วนการสำรวจเอ็กซิตโพล สามารถทำการสำรวจได้นอกหน่วยเลือกตั้ง และต้องสำรวจภายหลังที่ประชาชนลงคะแนนเสียงแล้ว หากสำรวจหรือสอบถามก่อนลงคะแนนจะถือว่ามีความผิดในฐานเดียวกัน
“สำหรับผู้ที่สำรวจต้องมีความถูกต้องตามหลักวิชาการ ไม่มีการนำเสนอข้อมูลซี้ซั้ว เพราะถ้ามีการตรวจสอบภายหลังและพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้อง จะมีความในมาตรา 57 (5) ฐานหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด มีโทษเช่นเดียวกับข้างต้น” พล.ต.ท.ทวีศักดิ์กล่าว
ด้านนายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.กทม.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากขณะนี้มีการเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของหน่วยงานและสถาบันการศึกษาต่างๆ เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้มีข้อระวังในการทำโพล ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องแนะนำวิธีการและลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับการเปิดเผยหรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2551 ซึ่งห้ามไม่ให้มีการเปิดเผยหรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง ในระหว่างเวลา 7 วันก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการลงคะแนนเลือกตั้ง
ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้คือวันที่ 3 มี.ค. 2556 ดังนั้นจึงห้ามทำการเปิดเผยหรือเผยแพร่ผลสำรวจ ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. 2556 เป็นต้นไป จนกว่าจะถึงเวลาปิดหีบเลือกตั้ง ทั้งนี้ เนื่องจากเพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครหรือผู้ใดจะกระทำการเปิดเผยหรือเผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของ ประชาชนเกี่ยวกับการลงคะแนนเลือกตั้ง ต้องไม่เป็นการกระทำการใด ๆ อันเป็นการหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัคร เพื่อจูงใจผู้มีสิทธิให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครใด หรือให้งดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครใด ซึ่งจะเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 57 (5) แห่ง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545
นายวีระกล่าวต่อว่า ทการเปิดเผยหรือเผยแพร่ตามประกาศดังกล่าวห้ามเผยแพร่ในทุกช่อง ไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานที่ทำโพลหรือสถานศึกษาต่างๆ พึงระมัดระวังและปฏิบัติตามประกาศอย่างเคร่งครัด หากมีการร้องเรียนก็จะต้องมีการสอบสวนและดำเนินคดีต่อผู้ฝ่าฝืน