โฆษก ทบ.แถลงข่าวผลการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรง เผย “ประยุทธ์” สั่งบันทึกประวัติสิทธิกำลังพลและครอบครัว จัดแข่งขันหน่วยทหารทรหด เตรียมพร้อมใช้พื้นที่ ทภ.3 ฝึกคอบร้าโกล์ด 11-22 ก.พ. สั่งทหารจับตาชายแดนพระวิหารใกล้ชิด ห่วงข้อมูล กต.-ภาคประชาชนไม่ตรงกัน ขณะเดียวกันสั่งหน่วยทหารเร่งแก้ภัยพิบัติอย่างยั่งยืน ไฟเขียวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ดีเบตในหน่วยทหาร
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 15.30 น. พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานว่า ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยทุกหน่วยดูแลงานด้านกำลังพล โดยเฉพาะเรื่องสิทธิกำลังพลและครอบครัว เนื่องจากกำลังพลในกองทัพบกต้องพร้อมที่จะสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จึงต้องมีการบันทึกประวัติให้ครบถ้วน รวมถึงสิทธิกำลังพลในระหว่างและหลังปฏิบัติหน้าที่จะต้องได้รับครบถ้วนและรวดเร็ว เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีแก่กำลังพลและครอบครัว สำหรับกำลังพลของกองทัพบกที่ปลดประจำการจากสาเหตุต่างๆ หากประสบปัญหาความล่าช้าในการขอรับสิทธิ หรือมีข้อขัดข้องใดๆ ในเรื่องดังกล่าว ให้ติดต่อหน่วยต้นสังกัดเดิมทันที
พ.ท.วันชนะกล่าวต่อว่า ทั้งนี้เพื่อให้การฝึกของกองทัพบกมุ่งไปสู่ผลสัมฤทธิ์ตามนโยบาย และให้กำลังพลมีความตื่นตัวในการฝึกในทุกระดับ จึงมีการจัดการแข่งขันและมอบรางวัลให้กับการฝึกของกองทัพบกในทุกประเภท เช่น การแข่งขันหน่วย หมู่ ตอน หมวด ของเหล่าทหารราบ และเหล่าทหารม้า การแข่งขันหน่วยทหารขนาดเล็ก การแข่งขันการสวนสนามในพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล การแข่งขันหน่วยทหารทรหดให้หน่วยทหารทุกหน่วยปฏิบัติหน้าที่มุ่งสู่การเป็นหน่วยทหารสามมิติ คือ มิติที่ 1 การปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดน มิติที่ 2 การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ และมิติที่ 3 การช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ ในส่วนของการเตรียมความพร้อมการฝึกคอบร้าโกล์ด 13 ระหว่าง 11-22 ก.พ.นี้ ทางกองทัพบกได้ใช้พื้นที่ของกองทัพภาคที่ 3 เป็นพื้นที่การฝึก ส่วนการบริหารจัดการคลังสิ่งอุปกรณ์ รวมถึงการควบคุมกระสุนและวัตถุระเบิด ให้มีความปลอดภัย เรียบร้อย และทันสมัย
นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยติดตามสถานการณ์ความคืบหน้ากรณีประสาทพระวิหาร และให้ทุกหน่วยปฎิบัติตามผลการประชุมสภากลาโหมที่ผ่านมา โดย ผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำกับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าพื้นที่ใดที่เป็นพื้นที่ที่มีเขตแดนชัดเจนอยู่แล้วขอให้รักษาเขตแดนนั้น แต่ส่วนไหนที่ยังไม่ชัดเจน ขอให้รอฟังผลการตัดสินจากศาลโลกเสียก่อน ส่วนการทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องปราสาทพระวิหารนั้น เราทำในส่วนของกองทัพบกที่เป็นกลไกของรัฐบาลโดยให้ติดตามในเรื่องคำถาม-ตอบ 50 ข้อของกระทรวงการต่างประเทศ โดยเน้นย้ำว่าหากมีข้อขัดข้องหรือมีคำตอบใดไม่ตรงกัน ขอให้เอาข้อมูลจากหลายส่วนมารวมกัน และสรุปว่าคำตอบที่ไม่ตรงกันเพราะอะไร รวมถึงการทำความเข้าใจกับประชาชน ทั้งนี้ที่ผ่านมา ผบ.ทบ.เป็นห่วงเรื่องนี้ตลอดเวลา และเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติหน้าที่เสมอ
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า ผบ.ทบ.ได้กำชับให้ทุกหน่วยบูรณาการ การแก้ปัญหาภัยพิบัติอย่างยั่งยืน โดยขณะนี้กองทัพบกดำเนินการใน 2 ลักษณะ คือ ลักษณะแรกเป็นการนำเสนอข้อมูล หรือองค์ความรู้ที่หน่วยได้รับจากประสบการณ์ที่ออกในการช่วยเหลือประชาชนในภัยพิบัติต่างๆ ไปยังส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาจัดทำเป็นแผนงานโครงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ส่วนลักษณะที่สอง คือ กองทัพบกสนับสนุนหน่วยทหารช่างในการก่อสร้าง หรือพัฒนาแหล่งน้ำ ตามที่รัฐบาลมอบหมายหรือตามที่ส่วนราชการต่างๆขอรับการสนับสนุน ล่าสุดในปี 2556 กองทัพบกได้รับมอบหมายให้ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำตามนโยบายของรัฐบาล โดยมีงบประมาณ 770 ล้านบาท ซึ่ง ผบ.ทบ.ได้ให้ความสำคัญ โดยให้ทุกหน่วยยึดความโปร่งใส ได้มาตรฐานไม่ซ้ำซ้อนกับส่วนราชการอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำเป็นโครงการย่อย 162โครงการ ครอบคลุม 39 จังหวัด และประชาชนจะได้รับประโยชน์ 837 หมู่บ้าน จำนวน 5,405,000 คน และพื้นที่ทางการเกษตรได้รับประโยชน์ 2,640,000 ไร่เศษ โดยขณะนี้หน่วยทหารช่างจากกรมการทหารช่าง กองทัพภาคที่ 1, 2, 3 และ 4 เป็นหน่วยดำเนินการระหว่างเดือน ม.ค.-มิ.ย. และจะมีพิธีเปิดโครงการอย่างเป็นทางการในเดือน ก.พ.นี้
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามผลการประชุมสภากลาโหม ในเรื่องการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ ขณะนี้กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจควบคุมไฟป่าและหมอกควัน เพื่อดูแล ควบคุม และออกช่วยเหลือประชาชนเมื่อมีปัญหาไฟป่าและหมอกควันโดยทันทีด้วย
ขณะเดียวกัน ผบ.ทบ.สั่งการให้ทุกหน่วยปฎิบัติตามผลการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ในส่วนของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยขณะนี้ยังไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.คนใดมายื่นหนังสืออย่างเป็นทางการ เพื่อขอใช้พื้นที่ของกองทัพบกในการหาเสียง อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยทหารของกองทัพบกยินดีเปิดโอกาสให้ผู้สมัครผู้ว่าฯ เข้าไปชี้แจ้งนโยบายเป็นส่วนรวมอยู่แล้ว โดยสามารถติดต่อกับหน่วยทหารโดยตรง ซึ่งหน่วยทหารจะประสานกับผู้สมัครท่านอื่น เพื่อจัดสถานที่และเวลาที่เหมาะสมในการให้เข้าไปนโยบาย โดย ผบ.ทบ.สั่งการให้ทุกหน่วยให้การสนับสนุนในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และการให้กำลังพลไปใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างเต็มที่