“สุกำพล” ไฟเขียว “มะกัน” ใช้สนามบินอู่ตะเภา แต่ย้ำกรอบแค่ช่วยเหลือมนุษยธรรม เผยเตรียมใช้ช่วงฝึกคอบร้าโกลด์ปี 56 ทดสอบสถานการณ์ภัยพิบัติโยน กต. ทำ “เอ็มโอยู” กลาโหมไม่เกี่ยว เชื่อไม่กระทบสัมพันธ์จีน ยันไม่เกี่ยวแลกเปลี่ยนวีซ่า “ทักษิณ” เข้าอเมริกา เหตุเพื่อนแม้วเข้าอังกฤษได้แล้ว หากแลกเปลี่ยนต้องขอมากกว่านี้
วันที่ 5 มิ.ย. เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาจะขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์บรรเทาสาธารณภัยและมนุษยธรรมว่า สหรัฐอเมริกาไม่ได้มาใช้เป็นฐานทัพ แต่สหรัฐอเมริกาขอมาเรื่องเกี่ยวกับมนุษยธรรม โดยทำเรื่องมาที่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งในหลักการคนที่จะมาช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเราก็จะต้องให้อยู่แล้ว แต่รายละเอียดจะต้องมาพูดคุยกันว่าจะเข้ามาดำเนินการอย่างไร ซึ่ง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้คุยกับ พล.อ.มาร์ติน อี. เดมป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมสหรัฐอเมริกาว่า เราจะใช้การฝึกคอบร้าโกล์ดทดสอบกันก่อนว่าเป็นอย่างไรในเรื่องของการทำงาน อย่าคิดว่ามาแล้วเป็นการตั้งฐานทัพเหมือนกับสมัยโบราณไม่ใช่อย่างนั้น ซึ่งสนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินระดับชาติใครๆ ก็มาได้หรือจะเอาเครื่องมาลงทำอะไรก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่จะต้องดูว่าเขามาตั้งอย่างไร
“หากจะมาอยู่กันเป็นปีก็จะต้องดูกันว่ามากไปหรือไม่ แต่ถ้ามา 3-4 เดือนแล้วกลับไปก็คงไม่ว่าอะไรกัน ทั้งนี้คิดว่าจะไม่ผิดใจกับกับสาธารณะรัฐประชาชนจีนเพราะไม่เกี่ยวกัน เพราะเป็นเรื่องของประเทศไทย เป็นเรื่องของมนุษยธรรม และไม่ได้มีการมาตั้งฐานทัพเพราะไม่มีอาวุธแต่อย่างใด”
เมื่อถามว่าจะต้องมีการลงนามในเอ็มโอยู หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ก็คงจะมี agreement ซึ่งอาจจะเป็นเอ็มโอยูกัน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าของเรื่องไม่ใช่กระทรวงกลาโหม เพียงแต่เป็นพื้นที่ของกระทรวงกลาโหมที่ดูแลอยู่ คือเป็นพื้นที่ของกองทัพเรือซึ่งต้องให้ความเห็นไป เมื่อถามว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติและประเทศที่อยู่รอบๆ ไทยหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เขามาเรื่องมนุษยธรรม ไม่ได้มาเรื่องอื่น มีกรอบอยู่แล้ว ถ้าเราไม่มั่นใจ จะให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่สหรัฐอเมริกาไปขอใช้พื้นที่ประเทศอื่นๆ และทำให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคงนั้น พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า สหรัฐฯ ไมได้ขอเรื่องนี้ แต่ขอเรื่องอื่น เช่นที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งทางออสเตรเลียให้หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ เข้ามาปฏิบัติการในพื้นที่ได้เลย ในส่วนของไทยก็ขอในเรื่องของความช่วยเหลือเรื่องมนุษยธรรม อีกทั้งประเทศไทยอยู่ในโลเกชันที่อยู่ตรงกลาง และเป็นพื้นที่คมนาคมของโลก สหรัฐฯ มองว่าถ้าไปอยู่ไกลๆ คงช่วยเหลือใครไม่ทัน สิ่งสำคัญอยู่ที่รายละเอียดเท่านั้นเอง ชาติอื่นก็ไม่ได้มีการต่อต้าน หากอินโดนีเซีย หรือ ประเทศอื่นมีเหตุการณ์ เขาก็จะไปช่วยได้ทัน เพราะฉะนั้น เราต้องมีกรอบให้เขามาในเรื่องมนุษยธรรม
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า รัฐบาลไทยยอมให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยมีการแลกเปลี่ยนให้วีซ่ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ข่าวที่สื่อระบุไม่มี ไม่เกี่ยวกันเลย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถเดินทางเข้าไปได้อยู่แล้ว แม้แต่ประเทศอังกฤษ พ.ต.ท.ทักษิณก็เข้าไปได้เลย ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก ถ้าจะขอแลกเปลี่ยนต้องขอมากกว่านั้น