xs
xsm
sm
md
lg

รู้ทันแผนอุบาทว์ “ไอ้ปื๊ด” เสี้ยมชนทหาร!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ผ่าประเด็นร้อน

ผ่านมา 2-3 วันเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงรถข่าวและสำนักงานเอเอสทีวี ตั้งแต่เช้ามืดวันเสาร์มาจนถึงวันนี้ (29 มกราคม) หากจะบอกว่าคืบหน้าก็ได้ แต่ในความหมายที่รู้ทันว่า นี่คือแผน “เสี้ยม” ให้ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” เดินหน้าปะทะกับอีกฝ่ายต่อไป เพื่อทำลายทั้งสองฝ่ายในคราวเดียวกัน

แน่นอนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฝ่ายทหารที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เมื่อต้นเดือนมกราคมแม้ว่าจะดูดุเดือดเข้มข้น แต่ในที่สุดเมื่อมีคำขอโทษออกมาอย่างลูกผู้ชาย ก็ย่อมได้รับการตอบสนองกลับไปด้วยดีเช่นเดียวกัน เป็นการจบลงด้วยคำยืนยันว่าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ขณะเดียวกัน “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ยังสงวนสิทธิ์ที่จะวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาต่อไปในอนาคตหากเห็นว่าเกิดความไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมขึ้นอีก เพราะเรายืนยันว่าเป็น “สื่อที่ไม่มีความเป็นกลาง” แต่จะ “ยืนข้างความถูกต้องและประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่” และเฉพาะกรณีที่ผ่านมาถือว่า “เคลียร์” เข้าใจกันดี ไม่มีใครติดใจ

อย่างไรก็ดี ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว มันก็ทำให้ “บางคน” ไม่อยากให้จบ คิดจะฉกฉวยประโยชน์จากความขัดแย้งต่อไป จึงเป็นที่มาของ “แผนเสี้ยม” เพื่อหวังทำลายทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงสนองอารมณ์ “ความขี้ขลาด”ตาขาวของตัวเองที่ไม่กล้าลงมือกับทหาร เนื่องจากความ “กลัวฝังใจ” ในอดีตที่ต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน

แน่นอนว่าในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หน้าสำนักงานเอเอสทีวี ต้องสรุปในเบื้องต้นก่อนว่าทั้งคนที่ลงมือและคนที่สั่งการให้ลงมือย่อมต้อง “ไม่ธรรมดา” และแน่นอนเช่นเดียวกันว่าหลังเกิดเหตุก็ย่อมมีสายตาไม่น้อยที่เพ่งมองไปที่ทหาร เพราะเพิ่งเกิดเหตุ “หมางใจ” กันไม่นาน และเชื่อว่าเจตนาของฝ่ายที่ลงมือก็หวังให้เข้าใจอย่างนั้น

ดังนั้น เมื่อประเมินสถานการณ์และความไปได้แล้วไม่ใช่ฝีมือทหารก็ต้องเพ่งกลับมามองที่ฝ่าย “อำนาจรัฐ” ที่ถือว่ามีศักยภาพในการทำเรื่องแบบนี้เช่นเดียวกัน ส่วนจะมีเหตุผลและแรงจูงใจให้ลงมือก็ต้องมาวิเคราะห์กันอีกทีหนึ่ง

อีกทั้งคำยืนยันที่บอกว่าไม่ใช่ฝีมือทหารก็ได้รับการการันตีรีบสรุปทันควันก็คือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รวมทั้งประกาศว่าจะเร่งจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

เพราะอย่างที่บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า สถานที่ตั้งของเอเอสทีวีอยู่ในเขตพื้นที่ “พระนครชั้นใน” อีกทั้งพื้นที่ข้างเคียงในรัศมีก็ถือว่าเป็นสถานที่ราชการสำคัญ คนที่ลงมือและคนสั่งก็ต้องมั่นใจขั้นสูงสุดว่า “ทำแล้วไม่โดนจับ” หรือไม่ก็ถือว่าหากสถานการณ์จวนตัวก็ต้องมี “แพะ” มารองรับได้ไม่ยาก ความหมายก็คือคนพวกนี้ไม่ธรรมดา และต้อง “เหิมเกริม” ลำพองถึงขีดสุด อาจเป็นเพราะมั่นใจว่ามีทุกอย่างอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว

ถ้าให้สรุปแบบฟันธงว่าเป็นใครก็ต้องบอกได้แค่ว่าเป็นฝีมือ “สั่งการ”ของ “พ่อไอ้ปื๊ด” ที่เวลานี้ว่ากันว่าแม้ว่าจะเป็นระดับแค่ “ขี้ข้า” แต่ก็ถือว่าอยู่เหนือคนอื่นแทบทั้งประเทศ ขณะเดียวกัน หากไปสืบค้นในโลกออนไลน์ในชื่อ “โอรสออนไลน์” ก็จะพบข้อมูลที่น่าตกใจกับตัวละครในชื่อ “ก็อตพ่อเหลิม” ที่ถูกนำไปอวดโอ่ข่ม “แก๊งอันธพาล” อีกฝ่ายว่าตัวเองมี “แบ็กดี” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค้ายาเสพติด หรือทำสิ่งผิดกฎหมายใดก็ตามก็ไม่มีทางโดนจับ เพราะหากมีการจับกุมก็จับแต่ “แก๊งฝ่ายตรงข้าม” เท่านั้น เหมือนกับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตกับการจับกุม “แก๊งขนมหวาน” ที่หัวโจกเจอรวบยกชุดเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีคนร้ายลงมือกับเอเอสทีวี ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ประกาศว่าจะเร่งจับคนร้ายมาให้ได้โดยเร็ว และล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ก็ได้เร่งรัดมาอีกแรง ก็ต้องให้โอกาส ให้เวลา แม้ว่าจะเชื่อลึกๆล่วงหน้าว่า “เหลวตามเคย” ทางหนึ่งเป็นเพราะเชื่อว่าคดีนี้คนสั่งการเป็นถึง “พ่อไอ้ปื๊ด” มีอิทธิพลสูง อีกทั้งเอเอสทีวี ก็ “ให้อะไรน้องไม่ได้” มันถึงไม่ได้คาดหวังมากนัก

แต่ถึงอย่างไรนาทีนี้ก็พอรู้ทันแผนอุบาทว์ที่ต้องการ “เสี้ยม” ให้เอเอสทีวีผู้จัดการขัดแย้งกับทหารต่อไป เพื่อหวังทำลายทั้งสองฝ่าย

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังสะท้อนให้เห็นว่านี่เป็นยุคที่เข้าใกล้บ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่ต่างจากยุคอันธพาลครองเมืองเข้าไปทุกที เพราะเป็นการลงมือคุกคามฝ่ายตรงข้ามอย่างอุกอาจ ป่าเถื่อน อีกทั้งถ้าหากจะตั้งคำถามไปถึงรัฐบาลในฐานะผู้ที่กำกับนโยบายสูงสุด รวมไปถึงผู้ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าจะมีท่าทีอย่างไร เพราะหากบอกว่าที่ผ่านมามีผลงานมากมาย ก็ต้องตอกกลับไปแบบตรงข้ามว่า มีแต่ความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงต่างหาก!!
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง
กำลังโหลดความคิดเห็น