“ชวนนท์” บี้ “ปู” ปล่อยคุกคามสื่อ จี้ตบปาก “ปึ้ง-จิรายุ” จ้อเข้าทางเขมร ติงที่พิพาทถูกบุก

โฆษก ปชป.ร้องนายกฯ เตือน รมว.กต.ทำตัวเป็นเบี้ยให้กัมพูชา ส่วน ส.ส.ถิ่นคลองสามวาโชว์ความรู้ไม่ถึงวิจารณ์ไทยรุกรานเขมร อ้างความสัมพันธ์มอบสิทธิจัดประชุมมรดกโลก บี้พูดฐานะใด เหตุประเทศเสียหาย ไล่ดูข้อมูลมีแบ่งเค้กประโยชน์จริง หลังป้องนายใหญ่ลงทุนกัมพูชาปกติ ถามจุดยืน รบ.หลังทหารร้องเขมรละเมิดเอ็มโอยู 43 และคำสั่งศาลโลก พื้นที่ทับซ้อน ดักนิ่งถือว่าซูเอี๋ยกัน-อัด รบ.ไม่จริงใจจัดการ หลังสื่อที่ติง รบ.ถูกคุกคาม ปลุก ผบ.ตร. นายกฯทำงาน หลัง กทม.มีเหตุใกล้เคียง จชต.

วันนี้ (27 ม.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาตักเตือนคนของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ทั้งนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ยังนำคำกล่าวของผู้นำกัมพูชามาโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศอย่างรุนแรง จึงเห็นว่านายกฯ ต้องทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของ รมว.ต่างประเทศก่อนที่ไทยจะกลายเป็นเบี้ยให้กัมพูชาอย่างเต็มตัว ส่วนนายจิรายุที่ออกมายอมรับว่าไทยรุกรานเขมรทั้งที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติ เพราะการระบุว่าไทยให้กัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดประชุมกรรมการมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวเป็นเรื่องปกติ เพราะมีการหมุนเวียนในแต่ละปี แสดงถึงความไม่รู้ เพราะในความเป็นจริงจะต้องมีการเสนอตัวแข่งกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งไทยรักษาสิทธิเสนอตัวแข่งไม่ให้กัมพูชาได้สิทธิมาโดยตลอด แต่พรรคเพื่อไทยไม่แข่งขันทำผิดมติ ครม.อภิสิทธิ์ และยังยอมเป็นรองประธานให้กับกัมพูชาด้วย จึงต้องสั่งสอนนายจิรายุด้วย อีกทั้งการที่ออกมาระบุว่าต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์และให้พรรคประชาธิปัตย์ตอบว่ารุกรานกัมพูชาหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องถามว่านี่คือท่าทีของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ เพราะหากเป็นคำตอบของรัฐบาลจะทำให้ไทยเสียท่าในเวทีระดับระหว่างประเทศและศาลโลกแน่ จึงอยากให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบว่านายจิรายุพูดในฐานะลูกกะจ๊อกหรือพูดแทนรัฐบาล เพราะการยอมรับดังกล่าวประเทศไทยจะเสียหายอย่างรุนแรง

นายชวนนท์ยังตอบโต้นายจิรายุ ที่อ้างว่าพรรคประชาธิปัตย์วิตกจริตโดยยืนยัน พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเล และแก้ตัวว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะลงทุนในกัมพูชาเป็นเรื่องปกตินั้น ถือเป็นการอ่านข้อมูลไม่ครบเพราะในคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมกัมพุชา ระบุชัดว่าจะลงทุนธุรกิจพลังงานในกัมพูชาและเว็บไซด์วิกิลีกส์รายงานบันทึกสถานทูตสหรัฐฯ ระบุว่า หากไม่มีการปฏิวัติไทยกับกัมพูชาจะแบ่งปันผลประโยชน์ทับซ้อนทางทะเลได้ภายใน 6 เดือน

“เราไม่เคยเอาเรื่องนี้มาเป็นเกมการเมือง แต่รัฐบาลไม่เคยตอบคำถาม ดังนั้น นายกฯ ต้องหยุดลิ่วล้อปลายแถว และ รมว.ต่างประเทศ เพราะสร้างภาระให้กับประเทศ ไม่เช่นนั้นความพยายามของทีมกฎหมายที่ต่อสู้ในคดีศาลโลกจะสูญเปล่า” นายชวนนท์กล่าว

นายชวนนท์กล่าวว่า ตนอยากเรียนถามนายกฯ โดยตรงว่า วันศุกร์ที่มีการประชุมคดีปราสาทเขาพระวิหาร มีการรายงานจากกองกำลังสุรนารีในที่ประชุมว่ากัมพูชาสร้างเพิงพักพิงหรือกระต๊อบสองหลังเพิ่มเติมบริเวณวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ซึ่งเป็นการละเมิดเอ็มโอยู 43 ที่ไม่ให้มีการกระทำใดๆ ในพื้นที่ รวมถึงยังขัดคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลกด้วย โดยกองกำลังสุรนารีได้มีการท้วงติงไปยังทหารกัมพูชาในพื้นที่แล้ว แต่กระทรวงการต่างประเทศไทยได้ดำเนินการในระดับรัฐบาลแล้วหรือยัง เพราะเป็นหน้าที่ที่ควรจะทำเพื่อให้เกิดการประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรใช้ในเวทีระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบนายสุรพงษ์ยังไม่ดำเนินการ หากนายกฯ จะรักษาสิทธิให้ประเทศต้องสั่งการให้ รมว.ต่างประเทศดำเนินการโดยด่วน ไม่เช่นนั้นปฏิเสธข้อหาสมยอมหรือซูเอี๋ยกับกัมพูชาไม่ได้ เพราะแข็งแต่ปาก แต่การกระทำอ่อนปวกเปียก ปล่อยให้กัมพูชาขี่คอประเทศไทยอย่างรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงเหตุการณ์ที่คนร้ายยิงปืนใส่รถข่าวเอเอสทีวี 4 คัน ว่านับเป็นการคุกคามสื่อมวลชนครั้งแล้วครั้งเล่าในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่มีพิธีกรคนเสื้อแดงบุกไปข่มขู่นายกนก รัตน์วงศ์สกุล แบนละครเหนือเมฆ เซ็นเซอร์ซิตคอมที่มีเนื้อหาก่อให้เกิดความไม่สบายใจต่อผู้มีอำนาจทางการเมือง ล่าสุดคือการที่มีคนร้ายเดินไปยิงรถของสำนักข่าวเอเอสทีวี สิ่งเหล่านี้รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้สื่อมวลชนซึ่งเป็นความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไม่เอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ และยังมีการถอดผังรายการของนายกนกออกจากช่อง 9 ด้วย

“ผมขอขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงมากำกับดูแลหาตัวผู้กระทำความผิด เพราะกำลังจะทำให้ กทม.ใกล้เคียงกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีพฤติกรรมอุกอาจใช้อาวุธสงครามยิงใส่รถสื่อมวลชน และเหตุการณ์ที่เกิดมีกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ชัดเจน หากกรณีนี้ยังจับกุมตัวไม่ได้ก็ต้องตั้งข้อสงสัยว่ารัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วยหรือไม่” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว