xs
xsm
sm
md
lg

“สุกำพล” ยันไม่ปรับแผน รปภ.ครูใต้ ร้อง ปชช.ช่วยดูแล รับห่วงคำตัดสินศาลโลก “เขาพระวิหาร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม (ภาพจากแฟ้ม)
รมว.กลาโหม ร้องประชาชนช่วยดูแล หลังโจรใต้ยิงครูอุกอาจ แต่ยันไม่ปรับแผน รปภ.ครู อ้างดีอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเขาพระวิหารยอมรับห่วงคำตัดสินศาลโลก แต่ยังมั่นใจในหลักฐาน “รัฐบาล-กองทัพ” เตรียมแจง เผยยกหู “เตีย บัญ” ไม่มีปัญหา วอนสื่ออย่างเสนอข่าวแง่ลบ ขณะเดียวกันมั่นใจโรงเรียนนายร้อย จปร.ไม่นิ่งถอดยศ “มาร์ค”

วันนี้ (24 ม.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 08.00 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องการให้หน่วยงานความมั่นคงปรับแผนรักษาความปลอดภัยครู ภายหลังจากที่มีกลุ่มก่อความไม่สงบเข้าไปจ่อยิงครูถึงในโรงเรียนอย่างอุกอาจว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการปรับแผนรักษาความปลอดภัยครู ตนบอกแล้วว่าไม่ใช่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นที จะต้องมีการปรับแผนการทำงานที เพราะแผนการรักษาความปลอดภัยครูนั้นดีอยู่แล้ว ซึ่งครูที่ถูกยิงเป็นครูมุสลิม และเป็นโรงเรียนมุสลิม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยการก่อเหตุครั้งนี้อุกอาจมากที่ยิงครูคนดังกล่าวต่อหน้าลูกสาว อีกทั้งยังก่อเหตุต่อหน้านักเรียนกว่า 100 คน อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ส่งผลให้กระทบต่อเรื่องการศึกษา ซึ่งเราพยายามดูแลทุกอย่าง แต่กองทัพไม่ได้เป็นผู้ดูแลโรงเรียนดังกล่าวนี้ เพราะไม่ได้มีการลงนามเอ็มโอยูร่วมกัน ทราบว่ามีหน่วยอื่นทำหน้าที่ดูแลอยู่ ทั้งนี้ไม่ว่าใครจะทำหน้าที่ดูแล เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การศึกษาของชาติสะดุดไป

“ขอให้พี่น้องภาคใต้ต้องลุกขึ้นมาช่วยกัน ไม่ให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบกระทำกับครูแบบนี้อีก เพราะทำให้การศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวนไปหมด ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกที่มีการยิงครูมุสลิมหลังจากหายไปนาน ส่วนแนวคิดที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เข้าไปทำหน้าที่สอนหนังสือเพื่อทดแทนครูนั้นเป็นเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ในส่วนของกองทัพมีความพร้อม ถ้ากระทรวงศึกษาธิการขอร้องมาก็พร้อมดำเนินการให้ แต่หากมีทางแนวทางอื่นก็เป็นเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ อะไรช่วยได้ก็พร้อมช่วย ส่วนการติดกล้องวงจรปิดซีซีทีวีจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของทุกภาคส่วน ไม่ใช่หน่วยใดหน่วยหนึ่งเป็นผู้ติด ทุกอย่างต้องทำตามแผน” รมว.กลาโหม กล่าว

ส่วนกรณีที่กองทัพมีความเป็นห่วงการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารของศาลโลกจึงได้มีการเตรียมพร้อมดูแลอธิปไตย พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนไม่เห็นห่วงอะไรเลย มีแต่เพียงผู้สื่อข่าวห่วง บริเวณปราสาทพระวิหารทหารไทยและกัมพูชายังพูดคุยกันรู้เรื่อง ปัญหาเล็กน้อยแก้ไขร่วมกันก็จบไม่ต้องถึงระดับข้างบน ทั้งนี้ขอร้องสื่อว่าอย่าไปเขียนว่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้มีอะไรเลย ที่มีความเป็นห่วงคือการเมืองไทยภายในประเทศที่ยังมีปัญหาอยู่ ต่างคนต่างแสดงความคิดเห็น ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณปราสาทพระวิหารเขารู้เรื่องดี ไม่ต้องห่วง ส่วนจะมีการถอนทหารอย่างไรก็ต้องมีหารือร่วมกัน โดยมีหน่วยงานดูแลทุกอย่าง การที่มาพูดว่ามีความเป็นห่วงอย่างนั้นอย่างนี้มันเป็นปัญหาที่น่าเศร้าอยู่ตลอดเวลา

เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ก็ว่ากันไป แต่ตนไม่ต้องการฉีกปัญหาอะไรไปให้มาก กองทัพดำเนินการตามคำสั่งรัฐบาล ที่ผ่านมารัฐบาลได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน กระทรวงกลาโหมไม่ได้ดำเนินการอะไรโดยพลการ เพราะมีการหารือกับทุกภาคส่วน รวมทั้งกระทรวงการต่างประเทศด้วย เรื่องนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่องว่าจะดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามว่า หากศาลโลกตัดสินให้ไทยแพ้คดีและมีการยกพื้นที่บางส่วนให้กับทางกัมพูชา ทางกองทัพมีการเตรียมแผนรับมืออย่างไร พล.อ.อ.สุกำพลถามย้อนกลับว่า “ถ้ากรณีชนะล่ะ พูดบ้างสิ ไปมองและเขียนในสิ่งที่ไม่ดีตลอดเวลา มันก็แย่ สิ่งที่ยังไม่เกิดอย่าไปเขียน อย่าไปเผื่อไกล หากคิดขอให้คิดอยู่ในใจ กองทัพก็คิดอยู่ในใจ อย่าเพิ่งมาบอกตอนนี้”

เมื่อถามว่า รมว.กลาโหมไม่รู้สึกห่วงคำตัดสินของศาลโลกใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลย้อนถามกลับว่า “คุณถามอย่างนี้ได้อย่างไร มันต้องห่วงกันทุกคน ใครจะไม่ห่วง เขาห่วงกันทุกคน ไม่มีใครอยากให้แพ้คดี ความเป็นห่วงนั้นอยู่ในใจไม่แสดงออก ไม่เขียนมาให้มีปัญหาทำให้ทุกคนเห็นภาพลบมาโดยตลอด ผมอยากให้ทุกคนคิดอยู่ในใจ และผมก็รู้ว่าจะปฏิบัติอย่างไร ไม่ต้องบอกว่าหากมีการตัดสินว่าแพ้คดีแล้วจะต้องทำอย่างไร ผมไม่พูดหรอก เป็นเรื่องที่ทหารทุกคนคุยกันอยู่ การพูดออกไปในสิ่งที่เป็นภาพลบของประเทศไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ผมถามสื่อว่าเขียนข่าวแบบนี้มีอะไรดีขึ้นหรือไม่ เขียนแต่แพ้คดีๆ นั้นขอร้องสื่อว่าอย่างเขียนเลย ขอให้สู้กันหน่อย แพ้ค่อยว่ากันอีกที”

เมื่อถามว่า มั่นใจในหลักฐานสำคัญที่จะนำไปชี้แจงต่อศาลโลกหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า แน่นอน ตนจะขึ้นชกตนต้องมั่นใจ แต่ถ้าจะขึ้นชกแล้วคิดว่าตนเองจะแพ้ ก็ขอให้โยนผ้าขาว การที่จะขึ้นชกแล้วจะกลัวแพ้ทำไม เมื่อถามย้ำอีกว่า ถ้าศาลโลกตัดสินในเชิงว่าไทยแพ้คดี การสู้รบก็ไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ไม่มีถ้าแพ้ ให้เกิดขึ้นมาก่อนขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น ขอไม่พูดอะไร ทั้งนี้จะให้ พล.ท.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ เจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเผยแพร่ข้อมูลและข้อเท็จจริงกับการต่อสู้คดีเขาพระวิหารของกระทรวงกลาโหม ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงรายละเอียดอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ภายหลังการประชุมร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

“ทั้งนี้ไม่มีรัฐบาลไหนไม่ห่วง เพราะห่วงกันหมดทุกคน จะบอกว่ารัฐบาลไม่ห่วงก็ไม่ได้ และผู้ปฏิบัติโดยตรงยิ่งมีความเป็นหน่วย ซึ่งจะต้องดำเนินการเต็มที่ตามขอบเขตของกฎหมาย ทุกคนมีความรักชาติและไม่อยากเสียดินแดน วันนี้ผมก็ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมของกัมพูชา ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรคุยกันง่าย โดยคุยกันในหลักการว่าไทยและกัมพูชาต้องอยู่ร่วมกันแบบนี้ แยกไม่ออกจนโลกสลาย และอีก 2 ปีจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เรารู้ว่าคนจะเป็นเพื่อนต้องทำอย่างไร ลูกไปทะเลาะกันก็แก้ไขกันไป แต่ผู้ใหญ่เข้าใจดี ชายแดนมีปัญหาเล็กน้อย เมื่อหารือกันก็จบ ปัญหาสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องเขาพระวิหารเราจะทำให้ดีที่สุด ขอให้รอดูเหตุการณ์ แต่ไม่ได้รอดูเฉยๆ เรื่องแบบนี้พูดทุกวันไม่ได้” รมว.กลาโหมกล่าว

พล.อ.อ.สุกำพลยังกล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการถอนยศร้อยตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการของกองทัพบก ซึ่งไม่ได้มีกรอบระยะเวลาแต่อย่างใด ทั้งนี้ตนเชื่อมั่นว่าทางโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะได้ส่งคำสั่งไปแล้ว

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินการดังกล่าวนั้นไม่ได้ต้องการให้ถึงที่สุด พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า หากถามแบบนี้จะให้ตนตอบอย่างไร อะไรที่ควรจะเป็นอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน


กำลังโหลดความคิดเห็น