“สุกำพล” เผยนายกฯ ยิ่งลักษณ์เรียกทีมทนายสู้คดีเขาพระวิหาร พร้อมบิ๊กฝ่ายความมั่นคงหารือแนวทางสู้คดี วันศุกร์ที่ 25 ม.ค.นี้ ก่อนแถลงต่อสาธารณชน มั่นใจการชุมนุมต้านศาลโลกไม่กระทบสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา เชื่อไทยชนะคดีแน่
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยี่ยมหน่วยทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ว่า เป็นธรรมเนียมที่ต้องลงพื้นที่เดือนละครั้ง เพราะต้องการเร่งรัดให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น เพราะคาดหวังว่าปีนี้ต้องดีกว่าปีที่ผ่านมา จึงต้องลงไปดูด้วยตนเอง ส่วนสาเหตุการเผากล้องซีซีทีวี เป็นเพราะการขัดแย้งทางธุรกิจหรือสร้างสถานการณ์ของผู้ก่อความไม่สงบนั้น พล.อ.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนก็จะไปติดตามและสอบถามเรื่องนี้ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นเรื่องของธุรกิจ เบื้องต้นเท่าที่รับรายงานอาจจะเชื่อมโยงกับผู้ก่อความไม่สงบ
พล.อ.อ.สุกำพลยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมว่าเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ของประเทศที่กำลังเดินหน้าต่อไป ร่วมถึงการวางงบประมาณปี 2557 ทั้งการบูรณาการในภาพรวม อย่างไรก็ตาม เรื่องของความมั่นคงเราตั้งจุดมุ่งหมายอยู่ คือ เรื่องสถานการณ์ในภาคใต้ต้องทำให้ดีขึ้น และเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งถือเป็นงานหลัก และทางกระทรวงกลาโหม กองทัพต้องมีบทบาทสูงสุด และตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่ายังมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านคำสั่งศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหาร พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า คิดว่าไม่ส่งผลกระทบถึงความสัมพันธ์กับกัมพูชา เพราะเขาเข้าใจดีว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นอย่างไร แต่ก็ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเราได้อธิบายและชี้แจงไปแล้ว อย่างกรณีนายสมปอง สุจริตกุล ทีมทนายที่เคยมีบทบาทในการขึ้นศาลโลกเมื่อปี 2505 ได้อธิบายแล้วว่าเป็นอย่างไร ซึ่งท่านก็เป็นคนกลางคนหนึ่งแต่ก็ไม่ยอมรับฟังกัน ทุกคนมีความกังวลกันหมด ทั้งนี้เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับคนในประเทศของเราเอง
“อย่าไปบอกว่ามวยยังไม่ทันขึ้นชกแล้วบอกว่าแพ้ ถ้าอย่างนั้นจะไปขึ้นชกทำไม เราต้องมั่นใจว่าการขึ้นเวทีครั้งนี้เราจะไม่แพ้ ส่วนผลที่ออกมาก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การขึ้นเวทีต้องมีความพร้อมเต็มเปี่ยม ซึ่งในวันศุกร์ที่ 25 ม.ค. 2556 จะมีการพบกับทีมทนายที่เคยไปว่าความ และอาจจะมีการแถลงร่วมกันเป็นครั้งแรก เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนไม่อยากให้มีการพูดกันมาก”
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันศุกร์ที่ 25 มกราคมนี้ ช่วงเวลา 14.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญคณะดำเนินคดีปราสาทพระวิหารของไทย ที่มีนายวีรชัย พลาดิศัย ทูตไทยประจำกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วมหารือแนวทางการทำงานในเรื่องคดีปราสาทพระวิหาร ที่ทำเนียบรัฐบาล และสอบถามความคืบหน้าข้อมูลที่จะนำไปชี้แจงให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในวันที่ 15-19 เมษายนนี้
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมจะมีการแถลงข่าวถึงร่วมกันถึงความคืบแนวทางการทำงานสู้คดีปราสาทพระวิหารให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้งนี้คณะทนายจะเดินทางไปหารือกับทีมทนายต่างชาติที่ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 6-12 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งรัฐบาลมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้เดินทางไปด้วย