นายกฯ พร้อมด้วย รมว.คมนาคม เปิดเดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์ “เจ้าพระยา” รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ก่อนนั่งกินกาแฟที่สตาร์บัคส์ เดอะมอลล์ ท่าพระ จากนั้นเดินดูสภาพการจราจรฝั่งตรงข้าม ถือโอกาสพูดคุยคนตาบอด แม่ค้า ขอทาน มอเตอร์ไซค์รับจ้าง “ชัชชาติ” เผยมีคนร้องเรียนรถติดจุดนี้ อีกทั้งตำรวจ สน.บุคคโลร้องให้เลิกบีอาร์ที อ้างทำรถติด แต่ขอไปศึกษาเพราะเป็นอำนาจ กทม.
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่บริเวณสถานที่ก่อสร้าง คัท แอนด์ คัพเวอร์ (Cut & Cover) สำนักงานสนามท่าพระ ถนนเพชรเกษม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเริ่มเดินเครื่องหัวเจาะอุโมงค์ “เจ้าพระยา” โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายสัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระ โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมต.คมนาคม, พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. คอยให้การต้อนรับ จากนั้นนายกฯ และคณะได้ลงไปดูการทำงานของเครื่องขุดเจาะในบริเวณก่อสร้าง ซึ่งอยู่ลึกในพื้นดิน 18 เมตร
สำหรับอุโมงค์เจ้าพระยา โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายสัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย-ท่าพระนี้ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง โดยได้นำหัวเจาะอุโมงค์ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6.43 เมตร พร้อมอุปกรณ์สนับสนุน มีสมรรถภาพในการขุดเจาะเฉลี่ยวันละ 14 เมตร หรือเดือนละ 350 เมตร ดำเนินการขุดเจาะที่ระดับความลึก 20-30 เมตร เริ่มจากสถานีท่าพระไปยังสถานีอิสรภาพ บริเวณซอยอิสรภาพ 23 แล้วลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร สิ้นสุดที่สถานีสนามไชย รวมระยะทาง 2.6 กิโลเมตร
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าว เวลา 15.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมด้วยนายชัชชาติ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มานั่งที่ร้านสตาร์บัคส์ ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ท่าพระ โดยให้เหตุผลกับสื่อมวลชนที่ติดตามว่ามานั่งคุยงานกันเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าต่อ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ได้มีประชาชนให้ความสนใจพร้อมกับขอถ่ายรูปนายกรัฐมนตรีด้วย และระหว่างที่นายกฯ จะเดินทางกลับได้มีประชาชนบางคนถามถึงเรื่องเส้นทางขับขี้จักรยานที่ปลอดภัยใน กทม. ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่าในนโยบายมีแน่นอน
เมื่อออกจากห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ท่าพระแล้ว นายกฯ และนายชัชชาติได้เดินข้ามสะพานลอยถนนรัชดาภิเษก-บุคคโลมายังตลาดไทยช่วยไทยพลาซ่า ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพื่อดูการคับคั่งของการจราจรช่วงเลิกงาน และได้ทักทายแม่ค้าและประชาชนบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ระหว่างเดินนายกรัฐมนตรีได้พบกับยายตาบอดมานั่งร้องเพลงหาเงิน ทราบชื่อภายหลังว่านางชยานิสา แก่นจันทร์ อายุ 66 ปี ภูมิลำเนาเดิมจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ถามว่าทำไมถึงมานั่งตรงนี้ ยายจึงได้บอกว่าถ้าไม่ลำบากไม่มานั่งตรงนี้ เมื่อก่อนทำอาชีพขายลอตเตอรี่ แต่ตอนนี้ไม่มีทุน นายทุนเอาลอตเตอรี่คืนจึงต้องมานั่งร้องเพลงข้างถนน ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้ให้ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รับเรื่องเพื่อประสานช่วยเหลือต่อไป
ขณะที่แม่ค้าในตลาดได้ร้องทุนกับนายกรัฐมนตรีว่าถูกธนาคารออมสินทวงหนี้ ที่เวลานี้เป็นหนี้หมื่นกว่าบาท จึงอยากให้ช่วยประสานผ่อนปรนเวลาให้ จากนั้นได้เดินพบนางเฮียง แซ่เฮ้ง อายุ 77 ปี เป็นคนพิการขานั่งขอทานอยู่ริมถนน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทีมงานรวบรวมข้อมูล และให้การช่วยเหลือต่อไป ขณะเดียวกันได้พบกับวินมอเตอร์ไซค์บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 15 ซึ่งตัวแทนวินมอเตอร์ไซค์ได้ขอบคุณกับนายกรัฐมนตรีว่าตั้งแต่ที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาก็วิ่งวินมอเตอร์ไซค์ได้ดีขึ้น ไม่มีมาเฟียมาเก็บเงิน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเสร็จภารกิจช่วงเวลา 17.20 น. พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าวันนี้มาภารกิจเปิดเครื่องเจาะอุโมงค์ที่ท่าพระ มาแวะกินกาแฟพร้อมกับคุยงานเรื่องโครงการรถไฟฟ้าที่จะต่อขยาย เลยถือโอกาสเดินเยี่ยมเยือนประชาชน ขณะที่นายชัชชาติกล่าวว่า ประชาชนร้องเรียนเรื่องปัญหาการจราจรในจุดนี้มาก จึงถือโอกาสชวนนายกรัฐมนตรีมาดูสภาพการจราจร ทั้งนี้ มีตำรวจจราจร สน.บุคคโลร้องเรียนกับ รมว.คมนาคม ให้ยกเลิกเส้นทางเดินรถบีอาร์ที เพราะทำให้การจราจรติดขัดมาก ซึ่ง รมว.คมนาคมระบุว่าการยกเลิกหรือไม่ เป็นอำนาจของกรุงเทพมหานคร แต่จะขอข้อมูลดังกล่าวไปศึกษา