ส.ว.ปัตตานี ถามค่าตอบแทนเสี่ยงภัยผู้ปฏิบัติภารกิจดับไฟใต้ วอนรัฐช่วยดูแลครูเอกชนอิสลามด้วย ชี้ผู้บาดเจ็บไร้การเหลียวแลเท่าที่ควร ด้าน “ส.ว.ตรึงใจ” เตือนรัฐบาลจริงใจแก้ปัญหาพระวิหาร หวั่นเสียดินแดนเพิ่ม ซัดทุบศาลฎีกาทำลายประวัติศาสตร์ชาติ
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลี้ยงชัย รองประธานคนที่ 1 เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ นายวรวิทย์ บารู ส.ว.ปัตตานี หารือต่อกรณีค่าตอบแทนเสี่ยงภัยสำหรับผู้ที่ทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ว่า ค่าตอบแทนเหล่านี้มีมานาน แต่บุคลากรกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับการจัดสรร ถึงแม้ว่าหลักเกณฑ์ก็ครอบคลุม คือบุคลากรที่สอนอยู่ในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ดังนั้นจึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย นอกจากนั้น ข้าราชการชั้นผู้น้อยและทหารเกณฑ์ที่ปฏิบัติหน้าที่จนเสียชีวิตและพิการก็ไม่ได้รับการเหลียวแลเท่าที่ควร ผู้ที่เสียชีวิตก็ยังไม่ได้รับการดูแล หรือคนที่พิการก็ไมได้รับการจัดสรรงานให้
ด้าน ศ.เกียรติคุณ ตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารว่า หากรัฐบาลไม่ดำเนินการอย่างจริงจัง ไทยอาจเสียดินแดนไปได้ รัฐบาลอาจจะคิดว่าเรื่องดังกล่าวไม่สำคัญเท่ากับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและนโยบายประชานิยม ที่ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่อย่าลืมว่าการเริ่มเจาะและชอนไชของพวกมอด ปลวก และหนอนนั้น เริ่มจากจุดเล็กๆ เพียงจุดเดียวแล้วลุกลามใหญ่โตได้ และที่สำคัญอย่าลืมว่ารัฐบาลมีหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ
ศ.เกียรติคุณ ตรึงใจ ยังกล่าวอีกว่า การที่อาคารของศาลฎีกาถูกทุบไปแล้ว 1 หลัง ขอให้อย่าคิดว่าเป็นเพียงการทุบอิฐทุบปูน แต่คือการทำลายประวัติศาสตร์ทั้งของชาติ ศาล และสถาปัตยกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์โลก สำหรับอาคารใหม่ที่จะสร้างขึ้นก็ไม่กลมกลืนกับอาคารโดยรอบ ทั้งยังมีความสูงใหญ่ ส่งผลให้ทำลายทัศนียภาพที่งดงามของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และศาลหลักเมือง ฉะนั้นขอให้อย่าได้ทุบอาคารที่เหลือ
