xs
xsm
sm
md
lg

การทูตยุคใหม่แบบขี้ข้า!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
เกาะกระแส

00 ได้เห็นได้ยินทั้งกิริยาท่าทางและคำพูดของคนที่เป็น รมว.ต่างประเทศของไทย อย่าง สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แล้วมันทำให้เจ็บปวดรวดร้าวหัวใจจริงๆ เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความไร้ความสามารถ ไร้ภูมิความรู้ ไร้ชั้นเชิงทางการทูตอย่างสิ้นเชิง พูดมาทุกคำก็เห็นแต่ลิ้นไก่ว่าไทยในยุคนี้ต้องยอมตกอยู่ภายใต้เบี้ยล้างของต่างชาติ ยอมเป็นลูกน้องขององค์กรระหว่างประเทศอย่าง “ยูเอ็น” โดยที่ไม่มีทางที่จะไปมีศักดิ์ศรีเทียบเทียมเสมอภาคตามกฎบัตรการก่อตั้งได้เลย

00 คำพูดของนายคนนี้ที่บอกว่าหากเราไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกแล้วจะทำให้ถูกนานาชาติคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดสงครามกับเขมร แล้วทำให้เกิดผลเลวร้ายทำให้ ยูเอ็นส่งทหารเข้ามาแทรกแซง เพราะคำพูดแบบนี้แหละที่ไม่สมควรเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของราชอาณาจักรไทย น่าจะเป็นรมว.ต่างประเทศของฮุนเซน เพราะคำสองคำก็ดีแต่บอกว่ากลัวกระทบความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน “บิดาเอ็ง” แน่ะ แทนที่จะย้ำว่าศักดิ์ศรีและอธิปไตยของชาติย่อมอยู่เหนือสิ่งใด อยู่เหนือข้อแลกเปลี่ยนเรื่อง “สัมปทานพลังงาน” ในอ่าวไทย ย่อมอยู่เหนือสัมปทานบน “เกาะกง” ย่อมอยู่เหนือ ทักษิณ ชินวัตร เหนือทุกอย่าง

00 เคยอ่านข่าวต่างประเทศบ้างหรือไม่ ทั้งกรณีของเกาะเตียวยู เซนตากุ หมู่เกาะสแปรตลี หรือหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ไม่เห็นมีประเทศไหนเขายอมขายศักดิ์ศรีหรอก รบเป็นรบ ไม่เห็นเขากล่าวหาประชาชนที่รักชาติ หวงแผ่นดินว่าเป็นพวก “คลั่งชาติ” ทำลายธุรกิจการค้าหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใดไม่ กรณีของยูเอ็นก็เช่นเดียวกันการจะเข้ามาแทรกแซงประเทศไหนสักประเทศมันก็ต้องมีเหตุมีผล และที่สำคัญในฐานะที่ไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์ในอาเซียนในทวีป มีความสำคัญ ในอดีตถือว่าเป็นมหาอำนาจประเทศหนึ่งด้วยซ้ำไปทำไมต้องหงอกับ “ผู้นำเจ้าเล่ห์” อย่างฮุนเซน เราเหนือกว่าทุกด้าน ทำไมต้องยอม ทำไมไม่มีปัญญาใช้ศักยภาพที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ และที่ต้องยืนยันก็คือเราต่อสู้รักษาดินแดนของเรา ไม่ใช่สนับสนุนให้ไปรุกรานเขมร เข้าใจผิดหรือเปล่า ปึ้ง

00 การแต่งตั้งคนที่เป็นรมว.ต่างประเทศออกมาแบบนี้อีกด้านหนึ่งมันก็ต้องบริภาษ ทักษิณ ชินวัตร ที่คิดแต่ผลประโยชน์ส่วนตัว หน้ามืดทำได้ทุกอย่าง ทำลายทุกอย่างทั้งกระบวนการยุติธรรมในบ้านตัวเอง ย่ำยีสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมไปถึงบงการตั้งรมต.และข้าราชการสำคัญ ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น คราวก่อนเมื่อถูกวิจารณ์เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนเรื่องการ “อุ้มฆ่า” ก็ด่ากราดว่า “ยูเอ็นไม่ใช่พ่อ” มาคราวนี้เมื่อต้องการเอาใจยูเอ็น เนื่องจากตัวเองอาจได้ประโยชน์จากธุรกิจข้ามชาติจากประเทศที่เป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรี ก็สั่งให้ “ตวัดลิ้น”ไปอีกแบบ หรือว่านี่คือการทูตยุคใหม่เป็น “การทูตแบบขี้ข้า”ไปแล้ว ทุด !!

00 ได้สมัครจับเบอร์ไปเรียบร้อยแล้วสำหรับผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับบรรยากาศที่กำลังสร้างให้ “คนกรุงเทพฯไม่มีทางเลือก” ต้องเลือกระหว่าง “เสาไฟฟ้า” คือ พงศพัศ พงษ์เจริญ กับ “แมลงสาบ” ต้องถามว่าสมัยที่ พงศพัศ รับราชการตำรวจเคยทำอะไรเป็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง นอกจากเสนอหน้าออกสื่อเลียนายคนนั้นคนนี้ หรือ รมต.ที่ให้คุณให้โทษคนนั้นคนนี้ คุ้นเคยจากสื่อไม่ใช่คุ้นจากผลงาน ขณะที่อีกฝ่ายลองถามคนกรุงก็แล้วกันว่าผ่านมาสี่ปีรู้สึกเป็นไงบ้าง ไม่ต้องตอบก็ได้ แต่ขอให้นึกในใจ จะเลือกใครขอให้ตัดสินใจนานๆหน่อย และต้องเลือกอย่างมียุทธศาสตร์ อย่าอยู่ภายใต้แรงกดดันเป็นอันขาด

00 อีกไม่นาน ครม.ก็จะไฟเขียวให้กระทรวงการคลังภายใต้การคุมทีมของ กิตติรัตน์ ณ ระนองกู้เงินอีกล็อตใหญ่กว่า 2.2 ล้านล้านบาทมาละลาย อ้างว่านำมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อขับเคลื่อนประเทศ แต่ขอโทษชักเปอร์เซ็นต์ “หักค่าหัวคิว” อีกเท่าไหร่ สารพัดเจ๊-นาย สวาปามกันพุงปลิ้น ขอให้ท้องแตกตายก็แล้วกัน เพี้ยง !!
ทักษิณ ชินวัตร
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ
 กิตติรัตน์ ณ ระนอง
กำลังโหลดความคิดเห็น