วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายขยายมาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับอิหร่าน ด้วยการห้ามนานาประเทศติดต่อซื้อขายน้ำมันดิบจากอิหร่าน ซึ่งถือเป็นแหล่งรายได้หลัก หวังกดดันให้รัฐบาลอิหร่านยกเลิกการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งสหรัฐฯ เชื่อว่านำไปสู่การพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
มาตรการใหม่นับเป็นการขยายการคว่ำบาตรเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับอิหร่านในหลายข้อ ซึ่งล้วนแต่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของอิหร่าน แต่มาตรการดังกล่าวก็มิได้ทำให้อิหร่านล้มเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ ทำให้หลายฝ่ายไม่มั่นใจว่ามาตรการใหม่นี้จะสามารถทำให้อิหร่านล้มเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ได้หรือไม่
มาตรการดังกล่าวรวมอยู่ในร่างนโยบายด้านความมั่นคงประจำปีของสหรัฐฯ ซึ่งวุฒิสมาชิกลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 94-0 ในการผ่านร่างนโยบายดังกล่าว รายละเอียดในการมาตรการคว่ำบาตรยังรวมถึงการคุมเข้มการค้าโลหะราคาสูง เหล็ก อะลูมิเนียม กราไฟต์ ถ่านหิน และซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตพลังงานนิวเคลียร์และภาคการขนส่ง ตลอดจนเส้นทางการค้าทองจากตุรกีเข้าไปยังอิหร่านด้วย
ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงความเห็นต่อร่างมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวโดยตรง แต่ได้แสดงความวิตกถึงความไม่หยืดหยุ่นของการบังคับใช้ โดยหลังจากการรับรองจากวุฒิสภาแล้ว ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ พิจารณาเพื่อลงนามรับรอง จึงจะมีผลบังคับใช้ต่อไป
มาตรการใหม่นับเป็นการขยายการคว่ำบาตรเป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับอิหร่านในหลายข้อ ซึ่งล้วนแต่กระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของอิหร่าน แต่มาตรการดังกล่าวก็มิได้ทำให้อิหร่านล้มเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ ทำให้หลายฝ่ายไม่มั่นใจว่ามาตรการใหม่นี้จะสามารถทำให้อิหร่านล้มเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ได้หรือไม่
มาตรการดังกล่าวรวมอยู่ในร่างนโยบายด้านความมั่นคงประจำปีของสหรัฐฯ ซึ่งวุฒิสมาชิกลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 94-0 ในการผ่านร่างนโยบายดังกล่าว รายละเอียดในการมาตรการคว่ำบาตรยังรวมถึงการคุมเข้มการค้าโลหะราคาสูง เหล็ก อะลูมิเนียม กราไฟต์ ถ่านหิน และซอฟต์แวร์สำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตพลังงานนิวเคลียร์และภาคการขนส่ง ตลอดจนเส้นทางการค้าทองจากตุรกีเข้าไปยังอิหร่านด้วย
ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ได้แสดงความเห็นต่อร่างมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวโดยตรง แต่ได้แสดงความวิตกถึงความไม่หยืดหยุ่นของการบังคับใช้ โดยหลังจากการรับรองจากวุฒิสภาแล้ว ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อไปให้ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ พิจารณาเพื่อลงนามรับรอง จึงจะมีผลบังคับใช้ต่อไป
