เอเอฟพี - รัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาตให้ชาวอเมริกันบริจาคอาหารและยารักษาโรคแก่ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในอิหร่าน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเอาผิดฐานฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตร วานนี้(13)
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เปิดไฟเขียวให้พลเมืองอเมริกันส่งความช่วยเหลือไปยังชาวอิหร่านที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว 2 ระลอก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (11) แม้วอชิงตันจะมีนโยบายคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านเพื่อกดดันให้ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ก็ตาม
“เราขอส่งความห่วงใยไปถึงประชาชนอิหร่านที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว” วิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงต่อสื่อมวลชน
“ชาวอเมริกันที่ปรารถนาจะส่งความช่วยเหลือไปยังชาวอิหร่านในเวลานี้ สามารถบริจาคอาหารและยารักษาโรคไปได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำธุรกรรมกับอิหร่าน” นูแลนด์ระบุ พร้อมชี้แจงว่า “ธุรกรรมทางการเงินที่มิใช่เพื่อการค้ากับอิหร่านยังสามารถทำได้ตามกฎหมาย”
โฆษกหญิงกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ พร้อมเสมอที่จะส่งความช่วยเหลือให้อิหร่าน แม้เตหะรานจะยืนยันว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากต่างชาติก็ตาม
สภาชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่านแห่งชาติ (National Iranian American Council) ซึ่งเป็นตัวแทนชุมชนชาวอิหร่านในสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลโอบามารับรองว่า การส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ “จะไม่ถูกปิดกั้นด้วยข้อขัดแย้งระหว่างรัฐบาล 2 ประเทศ” พร้อมอ้างถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2003 ที่รัฐบาล จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ออกใบอนุญาตให้องค์กรบรรเทาทุกข์ต่างๆ มอบความช่วยเหลือแก่เตหะราน หลังเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองแบม ซึ่งคร่าชีวิตชาวอิหร่านไปราว 31,000 คน
สภาชาวอเมริกันเชื้อสายอิหร่านเปิดเผยว่า คนส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ โดยเจ้าหน้าที่ธนาคาร, พนักงานร้านค้า หรือแม้กระทั่งไปรษณีย์บางราย ยังเข้าใจว่าพวกเขาไม่สามารถติดต่อกับอิหร่านได้เลยในทุกกรณี
ทางการอิหร่านระบุว่า แผ่นดินไหวทางตะวันตกเฉียงเหนือ 2 ระลอกได้คร่าชีวิตพลเมืองอิหร่านไป 306 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก และยังมีความกังวลว่าจะเกิดโรคระบาดตามมาด้วย