“โฆสิต” อ้างบทเรียนน้ำท่วมทำอยากลงผู้ว่าฯ กทม. ชี้ถ้าสังกัดพรรคจะไม่อิสระ ต้องปลดแอก ชูนโยบาย 24 ชั่วโมง รองรับอาเซียน โอ่จับเบอร์ได้ตามคอนเซ็ปต์นักประสานสิบทิศ ด้าน “เสรีพิศุทธ์” รับหนักใจ แต่ชู 1 ปี เปลี่ยนแปลง จัดระเบียบเยาวราช เอาที่ดินราชพัสดุมาเป็นตลาด ลั่นถ้าได้เป็นจราจรไม่ติดขัด ขณะที่ “ดีเจเด็กแนว” โชว์ 5 นโยบาย ขอคืนทางเท้า แก้จราจรเริ่มที่หน้าบ้าน ใช้ขยะแลกสวน ดูแลโรงเรียน และ 50 เขต 50 เสน่ห์ ลั่นไม่ใช้ป้ายหาเสียงรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหาเสียง 1 ล้านก้าว ขอล้านเสียงเปลี่ยนกรุง
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายโฆสิต สุวินิจจิต ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในนามอิสระ เปิดเผยว่า การลงสมัครครั้งนี้เพราะตนเห็นจากบทเรียนอุทกภัย ประชาชนเบื่อความขัดแย้งของนักการเมือง และการแก้ไขน้ำท่วม ปัญหานี้แก้ไม่ได้หากผู้ว่าฯ กทม.มาจากพรรคการเมือง ตอนนี้ท้องถิ่นทั่วโลกเป็นอิสระ โดยหากสังกัดพรรคจะทำงานกันคนละขั้ว และกลัวการตรวจสอบจากพรรคเดียวกัน ดังนั้น กทม.ควรมีผู้ว่าฯ กทม.อิสระ เพราะ กทม.เป็นเมืองหลวงพิเศษ ควรจะปลดแอกจากพรรคการเมืองได้แล้ว
ส่วนนโยบายชู กทม.24 ชั่วโมงนั้น นายโฆสิตกล่าวว่า ตนต้องการให้ กทม.บริการแบบ 24 ชั่วโมง เพราะเรามีคนกว่า 4 ล้านคนต้องบริการ ที่เน้นคือความปลอดภัยต้อง 24 ชม. การพัฒนา กทม.ให้รองรับความเป็นอาเซียน รองรับการเข้า-ออก ต่างชาติที่เราเปิด 24 ชม.อยู่แล้ว
“ผมก็ดีใจเพราะผมประกาศเป็นนักบริหารประสานสิบทิศ เลือกโฆสิตเบอร์ 10 พอดีครับ” นายโฆสิตกล่าว
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ กล่าวก่อนยอมรับว่ารู้สึกหนักใจจากการเป็นผู้สมัครอิสระ อย่างไรก็ตาม นโยบายตนชูว่าภายใน 1 ปีจะเห็นความเปลี่ยนแปลง อาทิ การจัดระเบียบบริเวณเยาวราช การเอาที่ราชพัสดุมาพัฒนาเป็นตลาดให้กับผู้ค้าขาย และหากได้เป็นผู้ว่าฯ 4 ปีกรุงเทพฯ จะเปลี่ยนโฉม เช่น รถเมล์ฟรี การจราจรไม่ติดขัด
ต่อมาในเวลา 11.00 น. นายสุหฤท สยามวาลา ผู้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามอิสระ ออกแถลง 5 นโยบายสำคัญที่จะเร่งดำเนินการหากได้รับโอกาสจากชาว กทม. ได้แก่ 1. การขอคืนความปลอดภัยให้สาธารณะ ซึ่งจะเป็นนโยบายแรกในการเร่งดำเนินการเพื่อพี่น้องชาวกรุงเทพฯ เพื่อความปลอดภัยบนทางเท้า 2. การแก้ไขปัญหาจราจร โดยใช้แนวคิดเริ่มต้นที่หน้าบ้าน ให้ประชาชนหันมาใช้รถสาธารณะมากขึ้น พร้อมจัดระเบียบจราจร 3. ขยะแลกสวนสาธารณะ นำขยะเปลี่ยนเป็นเงิน แล้วนำเงินมาสร้างสวนสาธารณะ 4. ดูแลโรงเรียนด้วยหัวใจ ไม่เฉพาะดูแลนักเรียนเท่านั้นแต่รวมไปถึงครู พร้อมหลักสูตรเตรียมควาพร้อมสู่ AEC และ 5. นโยบาย 50 เขต 50 เสน่ห์ โดยให้ ผอ.เขตกรุงเทพฯ ทั้ง 50 เขต สร้างเสน่ห์เพื่อชุมชน พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชน
ทั้งนี้ นายสุหฤทกล่าวอีกว่า ตนจะไม่มีการหาเสียงโดยการใช้ป้าย เพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่ามอง พร้อมกล่าวจะเดินหาเสียงให้ครบ 1,000,000 ก้าว เพื่อเข้าให้ถึงคน กทม.อย่างแท้จริง ขอคะแนนเสียงชาว กทม.1,000,000 เสียง เพื่อร่วมเปลี่ยนกรุงเททฯ ร่วมกัน หมายเลขประจำตัวนั้นไม่สำคัญเท่ากับนโยบายที่ใช้หาเสียงและความพร้อมจะนำไปปฏิบัติจริง
