“จูดี้” โวทำงานเข้าขารัฐบาล เอาใจชาวกรุงชวนฝัน นั่งรถเมล์ฟรีทุกคันผ่านหน้าป้ายทุก 5 นาที เรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา และเรือด่วนคลองแสนแสบก็ฟรี จัดแพทย์เคลื่อนที่ดูแลผู้สูงอายุถึงบ้าน พร้อมปรับทางเท้าขึ้นรถเมล์เอื้อคนพิการ ยันไม่ใช่ประชานิยม แค่ต้องการลดภาระให้ชาว กทม.
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 19.40 น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคเพื่อไทย มายังพื้นที่ปราศรัยลานคนเมือง โดยเดินผ่ากลางผู้ชุมนุมที่มานั่งรับฟังการปราศรัย พร้อมกับรับพวงมาลัยกุหลาบสีแดงยาว 9 เมตรจากผู้สนับสนุน ก่อนขึ้นบนเวทีที่มีการเปิดวีทีอาร์ความยาว 2 นาทีเพื่อแนะนำคุณสมบัติของตนเอง
จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศได้กล่าวปราศรัยว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ตนต้องการให้ประชาชนเห็นความสำคัญในการเลือกผู้ว่าฯ ที่มาจากพรรคเดียวกับรัฐบาล เพราะจะสามารถแก้ปัญหาได้ครอบคลุมทุกด้านทุกมิติ โดยตนขอเสนอนโยบาย คือ เนื่องจากปัญหาปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องหลัก โดยตนได้เห็นใจผู้ปกครองที่นั่งรถเมล์เพื่อไปส่งลูกหลานที่โรงเรียน โดยขึ้นรถเมล์ร้อนราคา 6.50 บาท ส่วนรถเมล์ร่วมราคา 8.50 บาท เงินเท่านี้สำหรับบางคนอาจจะไม่มีปัญหา แต่กับบางคนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ โดยขณะนี้ใน กทม.มีรถเมล์ฟรีจำนวน 800 คัน แต่ถ้าตนถูกเลือกมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะให้พี่น้องได้นั่งรถเมล์ฟรีทุกคัน ซึ่งกับคำถามว่าจะเอางบประมาณจากที่ไหนมาทำเรื่องนี้ ขอชี้แจงว่าแต่ละปี กทม.จะมีงบประมาณ 57,000 ล้านบาทต่อปี แต่ถ้าเลือกตนที่จะทำงานแบบไร้รอยต่อกับรัฐบาล งบประมาณที่จะมาทำเรื่องนี้ทาง กทม.จะออกครึ่งหนึ่ง และรัฐบาลออกอีกครึ่งหนึ่ง ซึ่งตรงนี้จะไม่ใช่แค่การดูแลชาว กทม.เท่านั้น แต่จะเป็นการดูแลคนต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ใน กทม.ด้วย พร้อมทั้งจัดระบบให้รถเมล์วิ่งไม่ทับสายกัน และจะมีการวิ่งผ่านหน้าป้ายทุก 5 นาที
“เมื่อผมได้รับเลือกมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งวันแรกที่ได้รับตำแหน่งผมจะเรียกทาง ขสมก.เข้ามาพูดคุยว่าจะทำอย่างไรให้พี่น้องประชาชนใน กทม.ได้นั่งรถเมล์ฟรีทุกคัน ที่ปัญหาใน กทม.ยังสะสมมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะผู้ว่าฯ กทม.ที่แล้วๆ มาละเลย ปัญหาจึงสะสมแบบนี้” พล.ต.อ.พงศพัศกล่าว
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวอีกว่า ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องชาว กทม.นั้น ตรงนี้ช่วงที่รับราชการตำรวจ ตนเคยทำโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลปีใหม่ หรือสงกรานต์ ฉะนั้นหากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ขอยืนยันว่าจะดูแลพี่น้องชาว กทม.ตลอดทั้ง 365 วัน ปัญหายาเสพติด ที่ขณะนี้มีผู้ติดยาในประเทศมากกว่า 8 แสนคน โดย 60% เป็นพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กทม. โดยปัญหานี้ทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญมาก เพื่อให้ลูกหลานที่ติดยาได้เข้ารับการบำบัดเพื่อกลับไปสู่อ้อมกอดของผู้ปกครองอีกครั้ง ซึ่งตัวเลขผู้ที่กลับเข้ารับการบำบัดมีทั้งหมด 45,000 รายที่ถือว่าประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งของความสำเร็จได้มาจากการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้ง กทม., ป.ป.ส., สธ., ยธ. เป็นต้น
ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า ตนจะทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน กทม.จะดูแลเรืิ่องขยะตลอดทั้งวัน จะมีการจัดที่จอดรถแท็กซี่ไว้บริการรับลูกค้า พร้อมทั้งให้ชาว กทม.ลงเรือข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา และเรือด่วนคลองแสนแสบฟรี นอกจากนี้ยังดูแลผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ด้วยการยกระดับศูนย์สาธารณสุขชุมชนเป็นโรงพยาบาลชุมชน พร้อมให้โรงพยาบาล กทม.8 แห่งจัดแพทย์เคลื่อนที่ออกไปดูแลผู้สูงอายุดังกล่าวที่บ้าน ขณะที่คนพิการจะมีการทำฟุตปาธให้มีระดับเทียบเท่ากับรถเมล์ใหม่ที่นายกฯ กำลังจัดซื้อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนพิการขึ้นรถเมล์ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นนโยบายของผู้ว่าฯ กทม.ที่ต้องการลดภาระให้แก่ชาว กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พงศพัศปราศรัยเสร็จสิ้นในเวลา 20.20 น. ก่อนจะโชว์ความฟิตกระโดดลงจากเวทีที่มีความสูงประมาณ 1.30 เมตรเพื่อไปหาผู้ที่มานั่งรับฟังการปราศรัย
