“อภิสิทธิ์” ยันไม่เล่นการเมืองในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ ฉะ “ปึ้ง” ถือหางเขมร จี้ รบ.จริงจังแก้ปัญหาของ ปชช. หยุดนโยบายทำร้ายประเทศ เย้ยพยายามจับคน ปชป.ขึ้นเขียงต่อรองเป้าหมาย สุดท้ายล้างความผิดให้ทักษิณ ลั่นอาทิตย์หน้าฟ้องแน่ “ธาริต-พวก” กลั่นแกล้งยัดข้อหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 9 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยบนเวทีประชาชน “เดินหน้าผ่าความจริง สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงไม่มีวันตาย” ที่โรงเรียนอันนาลัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ว่า เราเริ่มต้นปีใหม่มาก็พยายามติดตามดูว่ารัฐบาลจะมีการปรับเปลี่ยนท่าทีอย่างไร ความหมายก็คือว่าปีที่แล้วเขาเคยประกาศเอาไว้ว่าก่อนสิ้นปีเขาจะพาทักษิณกลับบ้านโดยไม่ต้องมีความผิด เริ่มตั้งแต่การไปตั้งคณะกรรมาธิการปรองดอง พยายามจะไปดึงสถาบันพระปกเกล้า ไปดึงองค์กรนั้นองค์กรนี้มารับรองว่าจะต้องมีการนิรโทษกรรม ต่อมาก็มีการเสนอการรื้อรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ต่อมาก็มีการเสนอกฎหมาย ร่างกฎหมาย ที่เรียกว่ากฎหมายปรองดอง ซึ่งเนื้อแท้ก็คือเรื่องของการที่จะนิรโทษกรรมล้างความผิดให้กับคนโกง และคนอีกหลายกลุ่ม แต่ว่าตลอดทั้งปีเขาไม่สามารถที่จะผลักดันให้เป็นไปตามความต้องการของนายของเขาได้
“จุดยืนพวกผมไม่เปลี่ยน นอกจากที่พวกคุณพยายามทำกันมา นอกจากที่พยายามใช้วิธีการข่มขู่ คุกคาม หรือที่คุณชำนิ (ศักดิเศรษฐ์) เล่าให้ฟังว่าเป็นเหมือนการจับผม หรือคุณสุเทพ ไปเป็นตัวประกัน ไปต่อรอง ผมก็ยืนยันว่าจุดยืนผม จุดยืนประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยน แต่ต้องการจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในจุดยืนของนายกฯ ของรัฐบาล ว่าถึงเวลาหรือยังที่รัฐบาลมาเอาใจใส่ปัญหาที่เป็นปัญหาปากท้อง ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ถึงเวลารึยังที่รัฐบาลจะมาเอาใจใส่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการใช้นโยบายโดยไม่ระมัดระวัง ไม่มีมาตรการรองรับ ตั้งแต่ความล้มเหลวเรื่องจำนำข้าว ที่เราได้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ นำเสนอข้อมูลอย่างชัดเจน มาจนถึงล่าสุดคือปัญหาค่าแรง 300 บาทที่พวกเราสนับสนุนแต่ต้องการให้รัฐบาลมีมาตรการมาช่วยดูแลผู้ประกอบการรายเล็ก รายน้อย ซึ่งไม่สามารถปรับตัวได้”
เราเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษในเรื่องนโยบายด้านเศรษฐกิจ เพราะความเสี่ยงในโลกยังมี ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจมีมาก และพี่น้องประชาชนยังเดือดร้อนอยู่ ขอยังแพงอยู่ เกษตรกรยังมีปัญหาอยู่ แต่ปัญหาเหล่านี้ดูเหมือนรัฐบาลไม่ได้สนใจเท่าไหร่
รัฐบาลชุดตนก็ไม่เคยมีจุดยืนที่จะไปทะเลาะกับกัมพูชา ในยุคที่เป็นรัฐบาล เราเพิ่มพูนการค้าระหว่างกันมาก ในช่วงที่เป็นรัฐบาลได้สานต่อโครงการความช่วยเหลือให้กับเพื่อนบ้านของเรา ในเรื่องโครงการการศึกษา ในเรื่องถนนหนทางเพราะเราเป็นเพื่อนบ้านที่ดี แต่สิ่งหนึ่งที่จะให้ตนทำแล้วบอกว่า ให้ความสัมพันธ์ดี แล้วผมทำไม่ได้ คือไปยกดินแดนไทยให้กับกัมพูชา และผมเชื่อว่าพี่น้องก็ไม่ยอม
“เรื่องที่ 2 ที่เขายังยืนยันเดินหน้าทำ แน่นอนที่สุดก็คือเล่นงานพวกผม ผมกับคุณสุเทพนี่โดนแจ้งข้อกล่าวหาตั้งแต่เดือนธันวาฯ วันที่ 13 ไปด้วยกัน คุณสุเทพ โดนแค่ 1 ข้อหา ผมโดน 2 ไม่เป็นไรผมหัวหน้าพรรค ผมต้องเยอะกว่าหน่อย แต่ว่าเขาไม่หยุดครับ หลังปีใหม่กำลังลาก สส. ประชาธิปัตย์ อีก 44 คน ให้ไปเป็นผู้ต้องหาให้ได้ ความผิดบอกว่า บริจาคเงินเกิน 20,000 บาท ไม่ทำเป็นเช็ค ไม่ทำเป็นตั๋วแลกเงิน ความจริงการบริจาคเป็นเช็คครับ แต่เรามอบให้สภาทำเช็คให้ เพราะสภานั้นแทนที่จะจ่ายเงินเดือนเราเต็ม เราก็ให้หักไปเลย แล้วสภาก็รวมเงินเป็นก้อนเดียว แล้วก็ทำเป็นเช็คให้พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีตรงไหน ที่จะไม่โปร่งใส ไม่มีตรงไหนที่จะไปผิดเจตนารมณ์ของกฎหมาย ผิดกฎหมาย บทบัญญัติใดทั้งสิ้น แต่พยายามที่จะเล่นงานคนของพรรคประชาธิปัตย์ แทบจะเรียกว่าครึ่งพรรค ไล่หมดเลยครับ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นายกรณ์ จาติกวณิช ดร.เจริญ คันธวงศ์ รู้สึกคุณสุเทพไม่มี ผมไปตรวจสอบแล้วที่ไม่มีเพราะว่าให้เงินพรรคน้อย ให้ไม่ถึง 20,000 ไม่รู้หลุดรอดไปได้อย่างไร ก็เลยไม่มีชื่ออยู่ แต่แว่วๆ มาว่า อาจจะถูกรับเชิญไปเป็นกรณีพิเศษในคดีอื่นอีก อันนี้วงในดีเอสไอกระซิบมา ให้คุณสุเทพเตรียมตัวไว้ จะเล่นงานกันทั้งพรรคครับ ความพยายามทั้งหมดตรงนี้กดดันอย่างเดียวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะต้องยอมต่อกระบวนการที่เขากำลังจะเดินหน้าไปสู่การล้างความผิด ซึ่งเป้าหมายสุดท้ายกลับไปอยู่ที่การล้างความผิดให้กับทักษิณ
“จึงเป็นเหตุที่ผมคิดว่าสิ่งที่ผม กับคุณสุเทพ กำลังจะทำอาทิตย์หน้า จะยิ่งมีน้ำหนักมากขึ้น นั่นก็คืออาทิตย์หน้าที่จะถึงนี้ ผมกับคุณสุเทพ จะฟ้องร้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ กับพวก เพิ่งรู้ว่าธาริตแฟนเยอะจริงๆ ผมจะต้องฟ้องร้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์กับพวก พวกที่ว่าคือทุกคนที่เป็นคณะกรรมการแล้วเซ็นชื่อแจ้งข้อหาผม กับคุณสุเทพ ว่าร่วมกันก่อให้คนอื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ที่ต้องฟ้องจริงๆ เหตุผลเราชัดเจนครับ เราฟ้องว่า กระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 200 ก็คือเป็นเจ้าพนักงาน เป็นเจ้าหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม ที่ใช้อำนาจหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยกลั่นแกล้งและสร้างความเสียหายให้กับคนอื่น ก็คือผม กับคุณสุเทพ” นายอภิสิทธิ์กล่าว