xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์” ชูสัมมนา TCS โอกาสพัฒนาการศึกษาไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกฯ เปิดสัมมนาทางวิชาการ การพัฒนาการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 ชูโอกาสสำคัญพัฒนาวงการการศึกษาไทย รับไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ต้องสร้างเยาวชนไทยให้มีคุณภาพ ชม ศธ.ใช้ระบบชายด์เซ็นเตอร์ต้นแบบการสอน ประยุกต์สู่ชุมชนและบริษัท

วันนี้ (15 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนาทางวิชาการ เรื่อง การพัฒนาการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 1 (The 1st Thailand Constructionism Symposium 2013) จัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ประธานมูลนิธิศึกษาพัฒน์ และรองประธานมูลนิธิไทยคม ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้บริหารสถานศึกษา คณาจารย์ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดการประชุมสัมมนาทางวิชาการว่า การจัดงานดังกล่าวถือเป็นโอกาสสำคัญอีกก้าวหนึ่งของการศึกษาไทยที่จะได้ช่วยกันคิดเพื่อพัฒนาวงการการศึกษาของไทยให้มีความเข้มแข็ง เจริญก้าวหน้าเพื่อสร้างเยาวชน ซึ่งเป็นบุคลากรหลัก เป็นกำลังสำคัญของประเทศ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมมีกิจกรรมต่างๆ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ ร่วมสร้างอนาคตของประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค มีหลายอย่างที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย ซึ่งได้ร่วมกันสร้างร่วมกันทำ เช่น วงการแพทย์ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร รวมไปถึงคุณภาพของสินค้าและบริการทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม และความภูมิใจเยาวชนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในเวทีโลกในหลายๆ สาขา ความสำเร็จดังข้างต้นมาจากทรัพยากรบุคคลที่มีมาตั้งแต่ต้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปข้างหน้าประเทศไทยมีแผนพัฒนาไปข้างหน้า มีทิศทางตามความต้องการของตลาดที่เคลื่อนตัวไปตามเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเซีย ตามการประกาศการเป็นประชาคมอาเซียน เพื่อสร้างเสริมเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งในอนาคตข้างหน้ามีทั้งโอกาสและความท้าทายที่รออยู่ ความท้าทายเหล่านี้จะเกิดขึ้นและเป็นจริงได้ขึ้นอยู่กับบุคลากรทางด้านทรัพยากรบุคคลที่เป็นทรัพยากรอันมีค่าของประเทศ ไม่ว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ก็ไม่สามารถสร้างบุคลากรได้ภายในวันเดียว ต่อไปในอนาคตประเทศไทยเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ การสร้างเยาวชนไทยให้มีคุณภาพจึงมีความสำคัญ และมีความจำเป็นมากสำหรับประเทศไทย

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า การพัฒนาวงการศึกษาและเยาวชนของประเทศไทยอย่างถูกต้อง ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น จะทำให้สิ่งที่เรามองว่าเป็นความท้าทายกลับกลายมาเป็นโอกาส ในส่วนของรัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นฐานของเยาวชนไทย และให้ความสำคัญต่อการผลิตบุคลากร รวมถึงการศึกษาของประเทศไทย ให้ก้าวทันและเติมเต็มช่องว่างของสังคมผู้สูงอายุต่อไป ซึ่งต้องช่วยกันสร้างบุคลากรโดยเฉพาะครูซึ่งเป็นแม่พิมพ์ของชาติให้สามารถผลึกบุคลากรที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศได้อย่างรวดเร็ว ผสมผสานกับระบบเทคโนโลยีที่มีส่วนช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมาก เสริมสร้างศักยภาพของเด็กนักเรียน ทั้งนี้ การเรียนรู้ที่ดีไม่ได้จำกัดเฉพาะในห้องเรียน การเรียนรู้มีอยู่ทุกที่ ขอให้เลือกหยิบจับความรู้ต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเรามาประยุกต์สอนเด็กให้เข้าถึงแหล่งความรู้ มีการปฏิบัติจริง รู้จริง ทำให้ผลลัพธ์ออกมานำไปสู่การต่อยอดอย่างแท้จริงต่อไป

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการ มูลนิธิศึกษาพัฒน์ในการริเริ่มร่วมกับทุกหน่วยงานนำการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นจุดศูนย์กลาง มาเป็นต้นแบบการเรียนการสอน และขยายการเรียนการสอนไปประยุกต์กับชุมชน หรือบริษัทให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล อย่างมีประสิทธิภาพ และนำเทคโนยีมาปรับปรุงวงการการศึกษาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้วงการศึกษาต่อไปในอนาคต










กำลังโหลดความคิดเห็น