สมาคม ขรก.ท้องถิ่น ยื่นสอบ พ.ร.บ.บริหารส่วนท้องถิ่น หวั่นไม่เป็นธรรม ขัด รธน.

สมาคม ขรก.ส่วนท้องถิ่น ร้องผู้ตรวจยื่นศาล รธน.วินิจฉัย พ.ร.บ.บริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นขัด รธน. เหตุไม่ระบุให้มีตัวแทน ขรก.ร่วม คกก. กลัวโยกย้าย ลงโทษ ขาดความเป็นธรรม รับให้เวลา รบ.มานาน ไม่แก้ไข โฆษกศาล รธน.เข้าใจ พร้อมถกเร่งด่วน

วันนี้ (15 ม.ค.) นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการและพนักงานจ้างท้องถิ่นแห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและเสนอเรื่องพร้อมความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ กรณี พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 16, 23, 24, 25, 26, 28 และ 30 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 288 วรรรคหนึ่ง วรรคสาม และมาตรา 305 (7) หรือไม่ โดยนายพิพัฒน์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 288 วรรคหนึ่ง ระบุให้มีคณะกรรมการข้าราชการส่วนท้องถิ่นที่ต้องประกอบไปด้วยผู้แทนของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนข้าราชการส่วนท้องถิ่น และผู้ทรงคุณวุฒิในสัดส่วนที่เท่ากัน แต่ปรากฏว่าใน พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 กลับไม่บัญญัติถึงผู้แทนข้าราชการส่วนท้องถิ่น ว่าต้องเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ทำให้ทุกครั้งที่มีการประชุมในเรื่องการโยกย้าย เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือน และการลงโทษ ข้าราชการและพนักงานจ้างส่วนท้องถิ่น ก็จะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอให้ผู้ตรวจการฯ พิจารณาและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

“ทางสมาคมฯ ให้เวลารัฐบาลมา 5 ปีแล้ว เพราะที่ผ่านมาเข้าใจว่ารัฐบาลเจออุปสรรคทางการเมือง ปัญหาเรื่องน้ำท่วมจึงทำให้การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวล่าช้ามาถึงในปี 55 ก็คิดว่ารัฐบาลจะผลักร่าง พ.ร.บ.แก้ไขฉบับดังกล่าวที่จ่ออยู่ในวาระพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่รัฐบาลก็กลับไม่ดำเนินการและถอนร่างดังกล่าวออกมา โดยมาตั้งเป็นคณะทำงานขึ้นมาศึกษายกร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งทราบว่าขณะนี้เพิ่งจะพิจารณาไปเพียง 10 มาตรา” นายพิพัฒน์กล่าว

ด้านนายรักษเกชากล่าวว่า จะมอบให้ฝ่ายกฎหมายนำไปศึกษาว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญจริงตามที่ร้องหรือไม่ หากพบว่าขัดก็จะเสนอผู้ตรวจพิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยจะพยายามดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะทราบดีว่ากรณีดังกล่าวเป็นปัญหามานานแล้ว