ข่าวปนคน คนปนข่าว
ทหารตบเท้าบุกบ้านพระอาทิตย์ ในช่วงเย็นวันที่ 11 ม.ค. และ ช่วงสายของวันที่ 12 ม.ค. นึกว่าจะไปรบทัพจับศึกกับใครที่ไหน จึงต้องระดมพลต่อเนื่องเข้าไป เหมือนแนวหน้าขอกำลังเสริมจากกองหลัง แต่แท้จริงเป็นการรวมตัวไปแสดงความไม่พอใจต่อการทำหน้าที่ของหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ และสื่อในเครือ!!
เข้าทำนอง “นายว่าขี้ข้าพลอย” หลังเห็นแถลงการณ์ของหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ที่ทำเอาแม่ทัพนายกองเต้นเป็นเจ้าเข้า เพราะเนื้อหาสะท้อนตรงไปตรงมาเกินเหตุ จนบรรดาหัวแถวสีเขียวรับไม่ได้ โดยเฉพาะหัวโจก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ออกมาฟาดฟันอย่างรุนแรงว่ากันด้วยเรื่องใครห่วยกันแน่
สิ่งที่เอเอสทีวีผู้จัดการในฐานสื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ ล้วนเป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาและสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกเหมือนคนทั่วไป ในฐานะสื่อสารมวลชน มีหน้าที่ต้องหยิบยกมาขยายความตีแผ่ ไม่คาดคิดว่า “ท.ทหารอดทน” กลับมีพฤติกรรมเชิงข่มขู่ คุกคาม ไม่สมกับที่คนเชื่อถือว่าเป็นหน่วยงานที่ กล้าหาญ อดทน มากที่สุด
พอโดนสะท้อนความจริงเข้าหน่อยก็ออกลูกอันธพาล!!
หรือว่าสิ่งที่ เอเอสทีวีผู้จัดการพูดถึงเป็นความจริงที่ไม่อยากให้หยิบยกมากล่าวถึง เป็นความล้มเหลวที่อยากจะซุกซ่อนไว้ไม่ให้ใครขุดคุ้ยอีก เรื่องปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะสงบ หรือแม้แต่ทุเลาลงภายใต้การนำของ “ประยุทธ์”
ได้รับการเอาอกเอาใจจากรัฐบาล สาดงบก้อนโตมาให้ทุกปี แต่ไม่มีผลงานเชิงประจักษ์ รับเงินแล้วปิดปากเงียบเชียบ ผลงานไม่มี มีแต่การทำตัวเป็นเด็กดีของรัฐบาลมากขึ้นทุกวันๆ แค่นั้น!!
เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย ก็เหลวแหลกเลอะเทอะ ระบบเส้นสายเต็มไปหมด ช่วงหลังๆ จูบปากกับรัฐบาล ก็ละเลงกันจนระบบซวนเซ เกิดอาการน็อตหลุดออกอากาศ โวยวายกันในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม นั่นปะไร ขายขี้หน้ากันไปตามๆ กัน
เรื่องที่ไม่อยากให้ขุดคุ้ยมาอีกเลย หนีไม่พ้นเรือเหาะบุโรทั่ง 300 ล้าน ที่เป็นมรดกบาปสืบทอดกันมาตั้งแต่ยุค “ป็อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จัดซื้อมาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภายใต้ แต่กลับตกไม่เป็นท่า “ประยุทธ์” รู้ทั้งรู้ว่ามีปัญหา แต่กลับไม่ใส่ใจ ไม่รู้ว่ากลัวไปหักหาญน้ำใจรุ่นพี่หรือเปล่า เรือเหาะมีปัญหาเยอะยิ่งกว่าไปซื้อมือ 2 มือ 3 มาใช้ ซ่อมแล้วซ่อมอีก และก็จะซ่อมต่อไปเรื่อยๆ ฮ่วย !!
กรณีจีที 200 นั่นก็รูปแบบคล้ายกันเป๊ะๆ ของห่วยๆ เน่าๆ ก็ทู่ซี้ใช้มันกันอยู่อย่างนั้น ทหารชั้นผู้น้อยที่ต้องใช้ปฏิบัติงานจะเป็นจะตายช่างมัน นี่หรือรักลูกน้องจริงจัง มันเป็นเรื่องว่า เสียอะไรไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ชายชาติทหารมีเกียรติเหลือเกิน แต่ก็แปลกบางอย่างมักชอบทำให้ตัวเองไร้เกียรติ ก็กรณีบุกสำนักพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ นี่แหละ
เรื่องของการล้มเจ้า ล้มสถาบันฯ ที่วันนี้เกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองไปหมด แต่ทางกองทัพเหมือนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แกล้งทำเป็นไม่เห็นเสียอย่างนั้น “ประยุทธ์” เอาแต่คำรามไปมา จะจัดการเด็ดขาดอย่างนั้น อย่างนี้ สุดท้ายก็นึกขึ้นได้เป็นพวกเดียวกันแล้วนี่หว่า !!
เรื่องร้อนๆ ข้อพิพาทเขาพระวิหาร เราได้เห็นท่าทีที่แปลกไปของ พล.อ.ประยุทธ์ คล้ายกับอาการที่รัฐบาลแสดงออกมาก่อนหน้านี้ พอมีกลุ่มพันธมิตรฯ หรือใครก็ตามออกมาเรียกร้องให้ปกป้อง ต่อสู้ถึงที่สุด กลับตวาดกลับไปอย่างเสียหาย
เอ๊ะนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!
ข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหลายที่ เอเอสทีวีผู้จัดการ นำมาตีแผ่ แม้มันอาจกระแทกจิตใจใครบางคน แต่ไม่ควรมีเหตุการณ์การตบเท้าข่มขู่คุกคามจากเหล่าทหารแบบนี้ แทนที่จะเอากำลังไปปกป้องประเทศชาติ ต่อสู้ศัตรูข้าศึก กลับทำตัวไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ไร้วินัย กลายเป็น “กุ๊ยข้างถนน” ทำได้แม้กระทั่งข่มขู่ประชาชนที่ไม่มีอาวุธ ไม่มีกำลังไปสู้รบปรบมือใดๆ
เรื่องนี้ถ้าบอกว่าผู้บังคับบัญชาไม่รู้ไม่เห็น ก็คงเป็นไปไม่ได้ และไม่มีใครอยากเชื่อ เพราะนายทหารชั้นประทวนคงไม่กล้าเสนอหน้าออกมากันเอง และสุดท้ายคำตอบก็เฉลยกลายๆ จากปาก “ประยุทธ์” ว่าห้ามไม่ให้เคลื่อนไหวไม่ได้ สัญญาณจากหน่วยเหนือบอกชัด
การมาข่มขู่ คุกคาม ทวงถามคำตอบจากเอเอสทีวีผู้จัดการ ก็คงไม่มีอะไรให้นอกจากยืนหยัดทำหน้าที่เสนอข้อมูลต่อไปตามเดิม หากจะถามก็ขอให้ไปถาม พ่อตัวเองดีกว่า ไปบอก “ประยุทธ์” ที่เปรียบเสมือนเป็นพ่อคนที่ 2 ของตัวเองจะง่ายกว่า ไปบอกให้เลิกเดินตามตูดนักการเมืองเสียที ขอให้กลับมาเป็นทหารที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีอย่างแท้จริง อย่าทำตัวให้คนนินทาหมาดูถูกอยู่แบบนี้!!
ทหารมีหน้าที่หลักคือ ปกป้องประชาชนไม่ใช่ข่มขู่คุกคามคนในบ้านตัวเอง ทางที่ดีไปสำรวจพฤติกรรมตัวเองก่อนที่จะไปโยนทุกอย่างให้คนอื่น ที่ผ่านมาตัวเองทำให้น่าเคารพเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน พฤติกรรมระยะหลังมันเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.ร.11 ที่ออกมาด่ากราด “เอเอสทีวีผู้จัดการ” อย่างรุนแรงถ่อย สถุน ไม่รู้ว่ากำลังด่าพฤติกรรมตัวเองและลูกน้องอยู่หรือไม่ คิดไปแล้วก็น่าสังเวชใจทายาท “บิ๊กจ๊อด” พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เจ้าของวลีเด็ด “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” คิดว่าวิญญาณ “บิ๊กจ๊อด” เห็นกองทัพเป็นอย่างทุกวันนี้คงต้องเศร้าใจ ถ้ามีผู้นำกองทัพแบบนี้คงต้องร้องไห้
เช่นเดียวกับ พล.ต.นนท์ จุลานนท์ ลูกชาย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี เอาทหารมาเคลื่อนไหวหน้าบ้านพระอาทิตย์ ทำอะไรไม่เกรงใจ ไม่ไว้หน้าพ่อบ้างเลย มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้ววงการทหารไทย
ปากบอกคนอื่นให้เคารพกฎหมาย ทำตามครรลองที่ดีงาม แต่ตัวเองในฐานะผู้ควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศ กลับเป็นเสียเอง ใช้วิธีอันธพาลครองเมือง ใช้กำลังในมือคุกคามประชาชน อย่างนี้หรือเปล่าเขาเรียกว่าเก่งแต่ในบ้าน ไปรบกับคนอื่นที่ไหนไม่เคยชนะ จนเขมรบุกแล้วบุกอีก
ทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวที่แย่ คอยไล่ตบตีลูกเมียคนในบ้าน เพื่อที่จะข่มให้อยู่ใต้อำนาจ ครั้นพอเจอศึกนอกบ้าน ก็หงอ ก็ยอมเรื่อยไป น่าเศร้าใจกับทัศนคติของกองทัพวันนี้เสียจริง
ภาพที่เคยเห็นเป็นที่พึ่งพิง พึ่งหวังยามประเทศชาติเจอภัยพิบัติ หรือถูกนักการเมืองบ่อนเซาะประเทศ จะออกโรงมาปกป้องอย่างองอาจ สง่าผ่าเผย ได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนหลายภาคส่วน มาวันนี้มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว เรื่องมืดดำอำมหิตที่กำลังจะทำลายประเทศกลับทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น พฤติกรรมการคอร์รัปชันของนักการเมืองก็ทำเป็นหลับตาเบือนหน้าไม่มอง เอาแต่เดินตามนักการเมือง รับเศษเงินเศษทานจากงบประมาณที่อัดมาอุดปาก
ทหารหาญที่คนเคยชื่นชม วันนี้เขาตั้งแง่รังเกียจ !!