xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ “ประยุทธ์” ริเป็นอีแอบหัวหน้าม็อบย่ำยีกองทัพ!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หมายเหตุ ASTV ผู้จัดการ

หลายคนที่เห็นภาพทหารบกในเครื่องแบบที่ยกขบวนตบเท้ามาข่มขู่ “เอเอสทีวีผู้จัดการ” ถึงสองวันติดต่อกัน คงได้แต่อึ้ง คาดไม่ถึงว่าทหารในยุคปัจจุบันจะมีระบบคิดที่ล้าหลัง ถอยหลังลงคลองได้ถึงเพียงนี้ ขณะเดียวกันภาพที่ปรากฏยังสะท้อนกลับไปให้เห็นว่า ระดับผู้บังคับบัญชาเป็นอย่างไรด้วย

แม้จะพยายามอ้างว่าการยกพวกมาหน้าสำนักงานเอเอสทีวีเมื่อวันก่อนเป็นการมา “ทวงศักดิ์ศรี” ให้กองทัพ และผู้บังคับบัญชา คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงได้บริภาษด่า “ไอ้ผู้จัดการเขียนข่าวห่วย” ด้วยอารมณ์ปรี๊ดแตก พร้อมทั้งบอกว่า “ได้อดทนมานานแล้ว และจะไม่ทนอีกต่อไป”

วันรุ่งขึ้นเราก็ได้เห็นทหารจำนวนหนึ่งตบเท้ามามาคุกคามถึงหน้าเอเอสทีวี มีการพูดจาปราศรัยโจมตีการทำหน้าที่ของสื่อ ไม่ต่างจากม็อบทั่วไป เพียงแต่ว่านี่คือม็อบทหาร หรือ “ม็อบสีเขียว” ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ในกองทัพยุคที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการทหารบก

ไม่ว่ามองในมุมไหนก็ต้องเข้าใจว่า นี่คือการ “คุกคาม”

เป็นการคุกคามข่มขู่เพื่อให้หยุดเสนอข่าวที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่พอใจทันที ไม่พอใจที่สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ เปิดโปงให้เห็นถึงความล้มเหลวในการทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการทหารบกในทุกเรื่องอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธความจริงไปได้เลย

หากเริ่มตั้งแต่ปัญหาชายแดนใต้ ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเบ็ดเสร็จอย่างต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่เป็นเสนาธิการทหารบก ทำหน้าที่เป็นเลขาธิการ กอ.รมน. ตามโครงสร้างใหม่ มาจนถึงเป็นผู้บัญชาการทหารบก ก็ต้องบอกว่าอยู่ในมือของเขามาอย่างต่อเนื่อง แต่ผลงานที่ออกมาไม่น่าประทับใจ แม้ว่าอีกความรู้สึกหนึ่งจะพยายามเห็นใจและเข้าใจ เพราะรู้ดีว่าปัญหาชายแดนใต้มันละเอียดอ่อน สุดหิน แต่ถามว่าจนบัดนี้ขอเพียงแค่ให้มี “แนวโน้มในทางบวก” แค่นั้นเองก็ยังไม่มีความหวัง ความรุนแรงนับวันจะเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว กลายเป็น “ความตายที่ชาชิน”

ปัญหากรณีที่สถาบันเบื้องสูงถูกจาบจ้วงย่ำยีจากพวก “ขบวนการล้มเจ้า” ในฐานะผู้นำกองทัพก็ไม่เห็นทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เคยฮึ่มฮั่ม ส่งทหารไปตบเท้ากดดันเป็นรายวันบ้าง

กรณีทหารผู้ใต้บังคับบัญชา อย่าง พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และทหารชั้นผู้น้อยหลายคนที่สูญเสียทั้งชีวิต บาดเจ็บพิการ จาก “ชายชุดดำ” ในม็อบเสื้อแดง จนบัดนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า ผู้บัญชาการทหารบกคนนี้ก็ไม่เคยแสดงอาการทนไม่ไหว ไม่เห็นออกมาโวยวายเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำงานห่วยบ้าง

สภาพที่เห็นไม่อยากจะพูดว่าเป็นการลอยแพผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ทำให้เข้าใจอย่างนั้นจริงๆ

กรณีการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีส่วนร่วมในคณะกรรมการจัดซื้อมาตั้งแต่ที่เป็นรองผู้บัญชาการทหารบก ทั้งในเรื่อง “เรือเหาะ” อะไรนั่น “รถหุ้มเกราะล้อยาง” จากยูเครน ที่มีปัญหาอื้อฉาว เคยมีการทักท้วงจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

การทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติในด้านชายแดนตะวันออก ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2553 ต่อเนื่องกันมา ก็ถูกมองว่าล้มเหลว ไม่ได้ใช้ศักยภาพทางทหารกดดันฝ่ายตรงข้ามอย่างเต็มที่ จนกระทั่ง “ภาคประชาชน” ทนไม่ไหวต้องออกมาเคลื่อนไหวเปิดโปงด้วยตัวเอง ขณะที่ท่าทีของผู้บัญชาการทหารบกกลับย้ำว่า ทหารจะทำตามคำสั่งรัฐบาลเท่านั้น ทั้งที่รับรู้กันว่ามี “วาระซ่อนเร้น” สงสัยในเรื่องยกดินแดนแลกกับผลประโยชน์ด้านพลังงานในอ่าวไทย โดยเขาสั่งเด็ดขาดห้ามทหารเข้าร่วมม็อบคนไทยรักชาติที่หวงแหนอธิปไตย ถ้าใครฝ่าฝืน ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง

แต่ปรากฏการณ์ที่หน้าบ้านพระอาทิตย์ เมื่อวันก่อนที่มีทหารในเครื่องแบบจำนวนหนึ่งออกมา “ตบเท้า” หน้าบ้านพระอาทิตย์อย่างต่อเนื่องสองวันซ้อน อ้างว่านี่คือการรักษาศักดิ์ศรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่คำถามก็คือ เขากำลังใช้ทหารเพื่อรักษาความมั่นคงส่วนตัว ไม่ใช่รักษาศักดิ์ศรีกองทัพ ตรงกันข้ามเป็นการทำลายความเป็นสถาบันอย่างย่อยยับ ในสายตาของประชาชน ทำลายศรัทธาลงไปแทบไม่มีชิ้นดี

ภาพที่เห็นไม่ต่างจาก “ม็อบสีเขียว” ที่มาตามสั่งของ “นาย” เพื่อข่มขู่คุกคามคนอื่น ที่เปิดโปงชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลว “ห่วยแตก” มาอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกว่า “ไอ้ผู้จัดการห่วย” เขียนข่าวบิดเบือน และเรียกร้องให้ประชาชนพิสูจน์ ก็อยากตอกกลับไปว่า “ใครกันแน่ที่ห่วย” และอยากให้ชี้แจงออกมาว่า ภายใต้ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกมีผลงานอะไรที่โดดเด่นบ้าง สร้างความประทับใจให้กับประชาชนอย่างไรบ้าง ทั้งเรื่องการปกป้องสถาบัน การเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับทหารผู้ใต้บังคับบัญชา การแก้ปัญหาชายแดนใต้ การรักษาอธิปไตยด้านชายแดนเขมร การจัดซื้ออาวุธที่อื้อฉาวคลุมเครือ แบบนี้หรือที่เป็นความหวัง ทำให้ประชาชนชื่นใจพึ่งพาได้

แต่พฤติกรรมที่แสดงออกกลายเป็นว่า เขากำลังใช้กองทัพมาปกป้องความมั่นคงของตัวเอง ทำได้แม้กระทั่งปลุกม็อบออกมาข่มขู่คุกคาม ถือว่าเป็นความอัปยศอดสู ที่นึกไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นในกองทัพในยุคปัจจุบัน!!
กำลังโหลดความคิดเห็น