xs
xsm
sm
md
lg

ไม่มีใครกลัว “ทหารเลว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะเก็ดไฟ

ต้องดูกันต่อไปว่า ปฏิกริยาของฝ่ายต่างๆ จะเป็นอย่างไรต่อไปต่อกรณี ทหารเกเร สังกัดกองทัพบก กลุ่มหนึ่งแสดงพฤติการณ์ข่มขู่สื่อมวลชน ด้วยการเดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ถนนพระอาทิตย์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 มกราคม และวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา

โดยอ้างว่าเป็นการแสดงออกทางประชาธิปไตยเพื่อเรียกร้องให้สื่อในเครือ ASTV ผู้จัดการ ขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กับเหตุผลว่าสื่อในเครือ ASTV ผู้จัดการ เสนอข่าวและวิพากษ์วิจารณ์ผู้บัญชาการทหารบกด้วยถ้อยคำที่ไม่สุภาพ หมิ่นศักดิ์ศรีผู้บังคับบัญชาและกองทัพ

พฤติการณ์ที่ปรากฏเห็นได้ชัดว่า เป็นการเข้าข่ายข่มขู่-คุกคามการทำหน้าที่ของสื่ออย่างชัดเจน
แต่ปรากฏว่าตัวพลเอกประยุทธ์ กลับออกมาปกป้องทหารเหล่านี้ อย่างน่าเกลียด ด้วยการให้ท้ายพฤติการณ์อันไม่เหมาะสมของทหารเหล่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องมี “ไฟเขียว” จากทหารระดับหัวหน้าหน่วยสั่งการให้ออกมาแสดงพฤติการณ์อันไม่เหมาะสมดังกล่าว

“สามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย ทหารเหล่านี้มาเพื่อปกป้องกองทัพบก ไม่ใช่ปกป้องตัวผม ส่วนที่มีความกังวลว่าจะเกิดเหตุบานปลายนั้น คิดว่าไม่น่าจะเป็นได้ หากสื่อไม่นำไปขยายผลต่อ” ข้อความข้างต้นดังกล่าว ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.

และคนที่ออกมายอมรับเองว่ารับรู้และไฟเขียวให้ทหารออกนอกหน่วยไปแสดงพฤติการณ์ดังกล่าวก็คือ พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาคที่ 1 พฤติกรรมที่ทหารไม่พอใจอะไรก็เที่ยวไปบุกบ้านคนอื่น คุกคามขุ่มขู่สื่อที่ทำงานเพื่อประชาชนเพื่อเอาใจนายแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นอีกในยุคที่ประชาธิปไตยเบ่งบาน

เหตุการณ์แบบนี้ยังพอจดจำได้ก็คือ เมื่อหลายสิบปีที่แล้วที่มีทหารจำนวนหนึ่งยกพวกกันแบบนี้ไปตบเท้าที่บ้านซอยสวนพลูของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี

หลัง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ที่เมื่อหลายสิบปีที่แล้วเป็น คอลัมนิสต์การเมืองที่มีบทบาทอย่างสูงจนได้รับการยอมรับให้เป็นเสาหลักประชาธิปไตย ได้เขียนข้อความพาดพิงถึงตัว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีต ผบ.ทบ. ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐ แล้วก็มีเหตุการณ์ทหารจำนวนหนึ่งยกพวกที่ไปที่บ้านซอยสวนพลู

จนเกิดวาทะ “กูไม่กลัวมึง” ที่ยังเป็นวาทะอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ ตามมาหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว

คราวนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูแล้วก็คงไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไร เป็นเรื่องการเอาใจนายกันล้วนๆ ของทหารบางคนที่คิดอยากเติบใหญ่ด้วยวิธีการผิดๆ และยังมาเที่ยวให้สัมภาษณ์หนุนหลังการแสดงพฤติกรรมดังกล่าว

ทั้ง พล.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา แม่ทัพภาคที่ 1 - พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก-จ.ส.อ.อนุชิต ศิลปวาที เสมียนธุรการ นายทหารประจำกองร้อยปฏิบัติการจิตวิทยา กองทัพภาคที่ 1 ที่เป็นหัวหน้าทีมนำทหารกว่า 50 นาย มารวมตัวกันที่หน้าบ้านพระอาทิตย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ม.ค. 56 พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 (ผบ.พล.ร.11) บุตรชาย พลเอกสุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.สส. และอดีตหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับ ทักษิณ ชินวัตร ที่แม้จะออกมาอ้างว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้ แต่ก็ออกมาสนับสนุนการกระทำดังกล่าวอย่างไม่เหมาะสม มาบอกว่ากองทัพเป็นหน่วยงานดูแลเรื่องความมั่นคง ใครจะมาวิจารณ์ไม่ได้

แถม พล.ต.อภิรัชต์ ยังวิจารณ์การนำเสนอข่าวของสื่อในเครือ ASTV ที่แสดงให้เห็นว่า พล.ต.อภิรัชต์ มีจิตใจคับแคบไม่เป็นทหารประชาธิปไตย ที่ต้องเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นและการวิพากษ์วิจารณ์ จากประชาชนและสื่อมวลชน เพราะกองทัพบก ไม่ว่าจะเป็นพลเอกจนถึงพลทหารเกณฑ์ ก็ล้วนแล้วแต่กินเงินเดือน-เบี้ยเลี้ยง-งบจัดซื้ออาวุธ-งบลับที่เป็นเงินภาษีประชาชน

ดังนั้น พล.ต.อภิรัชต์จะมาปิดกั้นการเสนอข่าว -การตรวจสอบและวิจารณ์การทำงานของสื่อและประชาชนต่อกองทัพไม่ได้

เพราะนี่คือการทำหน้าที่ของสื่อ ที่ต้องมีการนำเสนอข่าวและวิจารณ์การทำงานได้ทุกองค์กร ไม่ใช่ว่าเป็นทหารแล้วใครก็แตะไม่ได้

หาก พล.อ.ประยุทธ์-พล.ต.อภิรัชต์-กองทัพบกไม่พอใจ ก็แสดงออกได้ตามช่องทางที่เปิด ไว้ไม่ว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงไปยังองค์กรสื่อต่างๆ ที่มีการพาดพิงหากเห็นว่าสื่อนำเสนอข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อน ก็เชื่อว่าสื่อเองก็พร้อมจะนำเสนอข้อมูลรอบด้านให้อยู่แล้ว

หากเห็นว่าการนำเสนอข่าวใดๆ ทำให้ได้รับความเสียหาย ก็แจ้งความดำเนินคดี หรือฟ้องร้องในความผิดข้อหาหมิ่นประมาทได้ตามกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนการร้องเรียนไปยังองค์กรสื่อ อย่าง สมาคมนักข่าวนักหนังสือแห่งประเทศไทย หรือสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่ก็มีการตรวจสอบกันเองอยู่แล้วของสื่อมวลชน หากมีการร้องเรียนไป

วิธีการเหล่านี้เป็นวิธีที่สุจริตชน-วิญญูชนพึงกระทำหากเห็นว่าสื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตัวเองผิดพลาดคลาดเคลื่อนหรือได้รับความเสียหาย ไม่ใช่การสั่งการให้ลูกน้องขนทหารออกไปเที่ยวข่มขู่สื่ออย่างที่ปรากฏ

ยิ่งทำเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์และกองทัพ ก็ยิ่งเสื่อม คิดหรือว่าใครเขาจะหวั่นเกรง เพราะของแบบนี้ ยิ่งข่มขู่คุกคาม ก็ยิ่งทำให้คนที่โดนพร้อมจะตะโกนออกไปว่า

“กู-ประชาชนไม่กลัวมึง”
กำลังโหลดความคิดเห็น