xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ชี้ค่าแรง 300 เริ่มพ่นพิษ เชื่อกระทบโครงการรัฐบาลเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์” ระบุพิษค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทเริ่มออกอาการ ชี้จะกระทบโครงการของรัฐบาลเอง เพราะต้นทุนทางธุรกิจจะเพิ่ม 80% เรียกร้องรัฐบาลเร่งหาทางออก เหน็บ “เฉลิม” บินไปมาเลย์โชคดีเครื่องบินน้ำมันไม่หมดต้องลงจอดก่อนถึงที่หมายจนทำให้ตกใจ ห่วงคุยมาเลเซียซ้ำรอย “นช.แม้ว” ทำสถานการณ์แรงขึ้น

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงผลกระทบนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท ทั่วประเทศของรัฐบาลว่า เมื่อวันพุธ ครม.เงาพรรคประชาธิปัตย์มีการหารือในเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็เห็นว่านโยบายดังกล่าววันนี้เริ่มจะออกอาการเรื่องของแพงปี 2555 เพราะรัฐบาลเริ่มตั้งแง่แล้วว่ามันเป็นปัญหาจริงหรือเปล่า เช่นเดียวกับปีที่แล้วที่บอกว่าประชาชนคิดไปเอง แต่ตอนหลังก็ยอมรับและต้องวิ่งหามาตรการมาแก้ปัญหา ส่วนการปิดกิจการของผู้ประกอบการนั้นรัฐบาลก็บอกว่ามีสาเหตุมาจากนโยบายดังกล่าวอย่างเดียวก็ไม่ใช่ เพราะก็มีการปิดและเปิดกิจการเป็นปกติ แต่คนที่มีสามัญสำนึก หรือคนที่เคยทำธุรกิจ หากไปถามว่าต้นทุนเพิ่มขึ้น 10% ในระยะเวลาสั้นนั้นต้องกระทำอยู่แล้ว ซึ่งหลายโครงการของรัฐบาลที่ตั้งงบเอาไว้นั้น ถ้าไม่มีการมาทบทวนนโยบายค่าแรง 300 บาท ตนเชื่อว่าโครงการเหล่านั้นจะทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครสามารถทำได้ในราคาที่กำหนดเอาไว้ หลังจากต้นทุนสูงขึ้นชัดเจน โดยมีการเพิ่มขึ้น 70-80% ในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น

“รัฐบาลอย่าเสียเวลากับการมาหาแง่มุมในการโต้แย้ง แต่รัฐบาลควรเอาเวลาไปคิดแก้ปัญหาดีกว่า ถ้าคิดไม่ออก ภาคเอกชนเขาคิดออกแล้วก็เอาไปดู แต่รัฐบาลต้องเร่งทำ ก่อนที่จะมีการเลิกกิจการ ปลดคนงานมากไปกว่านี้ แล้วก็เกิดเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคมตามมา ซึ่งการที่รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีปัญหา ไม่ทำมาตรการเพิ่มเติมนั้น รัฐบาลจะรับผิดชอบหรือไม่ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น”

นายอภิสิทธิ์กล่าวติดตลกถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปประเทศมาเลเซียเพื่อหานโยบายแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นว่า โชคดีที่เครื่องบินไม่น้ำมันหมดจนต้องลงจอดก่อนถึงประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะทำ ร.ต.อ.เฉลิมตกอกตกใจได้ ซึ่งตนมองว่าการไปแสวงหาความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านนั้นเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาก็มักจะมีการพูดคุยขอความช่วยเหลือกัน เช่น ทางด้านการข่าว ในแง่การตรวจสอบ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าร.ต.อ.เฉลิมจะไปหารือในกรอบนี้หรือไม่ หรือหากมีการหารือเรื่องเส้นทางการเงินก็เชื่อว่าจะเป็น ประโยชน์ แต่ถ้าไปในลักษณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณไปเมื่อปีที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยดีนัก เพราะไม่เข้าใจถึงความละเอียดอ่อน หรือไม่ได้มีความรู้โดยรอบที่เกี่ยวข้องกับที่มาที่ไปของปัญหา และในทางตรงกันข้ามกลับมีปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรงขึ้น ซึ่งต้องจับตาดูว่าในที่สุดแล้วมีความคืบหน้า มีรูปธรรมของความร่วมมืออย่างไร หรือมีปฏิกิริยาอย่างไรในพื้นที่


กำลังโหลดความคิดเห็น