หน่วยข่าวตอบโต้เร็วเขมร เหมารวม ปชป.-พันธมิตรฯ คือฝ่ายค้าน ชาตินิยมรุนแรงเกินเหตุยุ รบ.ไทยจัดการกลุ่มต้านไม่ให้รับอำนาจศาลโลก กระตุ้น “ปูนิ่ม” อย่าปล่อยให้ฝ่ายค้านกดดันจนทิ้งภารกิจระหว่างประเทศ เผยมีทหารเขมร 80 นายอาวุธครบมือเดินทางเข้าประชิดชายแดนใกล้หลักเขตแดนที่ 17 แล้ว
ผูสื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 ม.ค.) เว็บไซต์ ฟิฟทีนมูฟ อ้างรายงานซีเอ็นเอ็น จากการให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ของนายติต โซะเทีย รองหัวหน้าหน่วยข่าวและตอบโต้เร็ว สำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ถึงท่าทีล่าสุดของกัมพูชาต่อกระแสเรียกร้องไม่ให้รัฐบาลไทยรับอำนาจศาลโลก ว่า กลุ่มเสื้อเหลืองเป็นกลุ่มพรรคฝ่ายค้าน ได้พยายามกดดันต่อรัฐบาลไทยที่นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ให้เข้าร่วมการชี้แจงด้วยวาจาที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ และการเรียกร้องของพรรคฝ่ายค้านไม่ให้ยอมรับคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อ พ.ศ. 2505 นั้น ไม่ใช่เรื่องที่แยกจากกัน
นายติต โซะเทีย กล่าวต่อว่า ปัญหาปราสาทพระวิหารที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศกำหนดว่าจะตีความในเดือนเมษายนนี้นั้น คือกระแสที่กลุ่มเสื้อเหลืองได้จุดขึ้นอีกรอบ เป็นเพียงแค่การแสดงออกชาตินิยมรุนแรงเกินเหตุ หากแต่มิติกฎหมายระหว่างประเทศไม่ตั้งอยู่ในกระแสกดดัน ขั้นตอนของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศเป็นไปตามคำร้องของกัมพูชา
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มพรรคฝ่ายค้านเป็นปัญหาภายในของไทย รัฐบาลไทยควรมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งกับกลุ่มเสื้อเหลือง ส่วนกัมพูชาดำเนินการไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ อันสืบเนื่องจากการที่รัฐบาลไทยชุดก่อนได้รุกรานด้วยกองทัพ ละเมิดอธิปไตยของกัมพูชา โดยเฉพาะทำลายปราสาทพระวิหารด้วยการยิงปืนใหญ่เข้าใส่ในช่วงที่ผ่านมา
รองหัวหน้าหน่วยข่าวและตอบโต้เร็วกล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีความสงบเรียบร้อยเป็นปกติ อย่าให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเนื่องมาจากปัญหานี้ ต้องอยู่ในเขตอำนวจของศาลโลก โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีไทยปัจจุบัน กับรัฐบาลกัมพูชา ต่างมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน สิทธิในการเข้าชี้แจงด้วยวาจาเป็นสิทธิการตัดสินใจของรัฐบาลไทย ปัจจุบันไม่ควรทิ้งโอกาสนี้ ปล่อยให้พรรคฝ่ายค้านกดดันแล้วรัฐบาลละทิ้งภารกิจระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกันนี้ เว็บไซต์สยามรัฐตีข่าวสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากแหล่งทางทหารที่เชื่อถือได้จากชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สุรินทร์ เผยว่าขณะนี้ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ ด้าน อ.กาบเชิง ช่วงพื้นที่หลักเขตแดนที่ 17 ใกล้ช่องปลดต่าง ได้มีทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือ จำนวน 80 นาย เดินเท้าชุดละ 40 นายจาก อ.ปะอ๋อง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เข้าประชิดชายแดนใกล้หลักเขตแดนที่ 17 ช่องปลดต่าง ต.ตะเคียน อ.ปลดต่าง จ.สุรินทร์
โดยชุดแรกออกเดินทาง จาก อ.ปะอ๋อง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เวลา 15.30 น. และชุดที่สองออกเดินทางเวลา 16.00 น.มาที่หลักเขตแดนที่ 17 ซึ่งอยู่ใกล้กับช่องปลดต่างและช่องกระทิงลง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ อยู่ห่างจาก อ.กาบเชิง ประมาณ ประมาณ 10 กม. ได้วางกำลังทหารพร้อมอาวุธ ถึงตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันนี้
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารไทยชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กองทัพบก ได้วางกำลังตรึงเข้มตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว ขณะที่ฝ่ายปกครอง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้แจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่ชายแดนให้ติดตามการแจ้งข่าวสารจากหอกระจายข่าวของหมู่บ้านอย่างใกล้ชิด เตือนการออกจากเคหสถานในเวลากลางคืน ให้งดเว้นการออกหาของป่าในบริเวณตะเข็บชายแดน หวั่นได้รับผลกระทบจากการถูกจับเป็นตัวประกัน