xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมผู้สื่อข่าวฯ ตั้งฉายา ร.ต.อ.เฉลิม “เหลิม ฉะ ดะ” - “คำรณวิทย์” ฉายา “น.1 พี่ให้มา”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
สมาคมผู้สื่อข่าวฯ มอบฉายา ตำรวจปี 55 ตั้ง ร.ต.อ.เฉลิม เป็น “เหลิม ฉะ ดะ” - “อดุลย์ แสงสิงแก้ว” ฉายา “กวนอู๋ แว้นกระเจิง” ด้าน เลขาฯ ป.ป.ส.โดนฉายา “จูดี้ อีเวนต์” ขณะ “คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” ผบช.น.คว้าฉายา “น.1 พี่ให้มา”  และ “พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย” ได้ฉายา “โฆษกสับขาหลอก”

ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ชั้นล่างอาคาร 191 พญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม.เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (16 ธ.ค.) นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯแถลงข่าว การตั้งฉายาเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำปี 2555

นายไพโรจน์กล่าวว่า สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ได้ทำงานด้านข่าวอาชญากรรมมาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี มีสมาชิกที่เป็นผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรมกว่า 300 คน และทุกปี ผู้สื่อข่าวในด้านสายงานอาชญากรรม จะเฝ้าติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อนำเสนอต่อสายตาประชาชนจนเป็นที่ยอมรับของสังคม และทุกปีสื่อมวลชนจะประชุมร่วมกันเพื่อลงมติตั้งฉายาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นบุคคลอยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคม ในปีนี้ทางสื่อมวลชนได้ลงมติตั้งฉายาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานมาในรอบ 1 ปี โดยมีทั้งหมด 12 ฉายา ด้วยกันมีรายชื่อดังต่อไปนี้

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายา “เหลิม ฉะ ดะ” เนื่องจากรัฐบาลได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม รับผิดชอบดูแลแก้ไขปัญหาการปราบปรามยาเสพติด ประกอบกับได้ดูแลงานของ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” จึงใส่เกียร์เดินหน้าปราบยาเสพติดอย่างจริงจัง จนเป็นที่มาของฉายา “เหลิม ฉะ ดะ”

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายาว่า “กวนอู๋ แว้นกระเจิง”
เนื่องจากที่ผ่านมาภาพลักษณ์ ของ พล.ต.อ.อดุลย์ มีลักษณะคล้าย “เทพเจ้ากวนอู” มีความสามารถทั้งเรื่องการรบและความสามารถวางแผนบริหารงาน จนมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.และมีนโยบายชัดเจนในการแก้ไขปัญหาเด็กแว้น ที่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ใช้รถใช้ถนน ในรูปธรรมก็มีการจับกุมอย่างจริงจัง จนเป็นที่พอใจของประชาชน จนเป็นที่มาของฉายา “กวนอู๋ แว้นกระเจิง”

พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้รับฉายาว่า “จูดี้ อีเวนต์”
​ เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานของ พล.ต.อ.พงศพัศจะมีหลากหลายรูปแบบกิจกรรม ซึ่งจะมีโครงการออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถทำให้เป็นข่าวได้ และจะได้รับการเสนอข่าวในหน้าต่างๆของหนังสือพิมพ์ ทีวี รวมถึงทุกโครงการที่จัดทำให้กับหน่วยงานก็จะได้รับการนำเสนอ เปรียบเสมือนกับนักจัดอีเว้นมือทอง จนเป็นที่มาของฉายา “จูดี้ อีเวนต์”

พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผช.ผบ.ตร.ได้รับฉายาว่า “จรัมพร ON ทุกเหตุ” จากการทำงานในรอบปีที่ผ่านมา พล.ต.ท.จรัมพร จะได้รับความไว้วางใจในการดูแลงานการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานและเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแทบจะทุกเหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเล็ก ทั้งในประเทศและนอกประเทศ จึงเปรียบเสมือนการออนแอหรือออกอากาศทางสื่ออยู่เสมอๆ จนเป็นที่มาของฉายา “จรัมพร ON ทุกเหตุ”

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับฉายาว่า “น.1 พี่ให้มา”
ก่อนหน้านี้ “พล.ต.ท.คำรณวิทย์” ได้มารักษาการต่ำแหน่ง “ผบช.น.” แทน “พล.ต.ท.วินัย ทองสอง” ที่ทำงานไม่เข้าตารัฐบาล จนต้องถูกย้าย ระหว่างนั้นก็ได้มี “กลุ่มเสื้อเหลือง” ออกมาชุมนุมทางการเมือง “พล.ต.ท.คำรณวิทย์” ก็ได้เจรจากับม็อบจนสลายการชุมนุม จนเป็นที่พึ่งพอใจกับรัฐบาล “นายกฯยิ่งลักษณ์” และ “กลุ่มคนเสื้อแดง” จนได้รางวัลตอบแทนมาเป็น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อย่างเต็มตัว จนเป็นทีมาของฉายา “น.1 พี่ให้มา”

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับฉายาว่า “โฆษกสับขาหลอก” เนื่องจาก พล.ต.ต.ปิยะได้รับการไว้วางใจจาก “ผบ.ตร.” ให้ทำหน้าที่เป็น “โฆษกประจำ ตร.” เพื่อเป็นกระบอกเสียงประชาสัมพันธ์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คอยให้ข่าวกับสื่อมวลชน เพราะเห็นว่าเคยเป็น “โฆษก ประจำนครบาล” มาก่อน แต่ในมุมมองของสื่อมวลชนถือว่า “พล.ต.ต.ปิยะ” สอบตกกับหน้าที่ “โฆษก” ในครั้งนี้ เพราะการให้ข่าวบางครั้งก็ไม่ตรงตามความเป็นจริง อาทิ “ผบ.ตร.” ให้สัมภาษณ์อย่างนี้ “โฆษก” ให้สัมภาษณ์อีกอย่าง ทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน จนเป็นที่มาของฉายา “โฆษกสับขาหลอก”

พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล โฆษกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับฉายา “โฆษกย่ำราตรี” เนื่องจากที่ผ่านมา หลังการได้รับตำแหน่งดูแลงานด้านโฆษก และชุดเฉพาะกิจในการตรวจสถานบริการ พล.ต.ต.อดุลย์ ก็ได้ออกตรวจตราสถานบริการยามค่ำคืนอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ จนเป็นทีมาของฉายา “โฆษกย่ำราตรี”

พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน รองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รับฉายาว่า “ไทเกอร์ เขี้ยวหลุด” ​ พล.ต.ต.ประยนต์ ลาเสือ หรือในวงการจะรู้จักในนาม “บ๊าย บาย ไทเกอร์” นักสืบรุ่นปรมาจารย์ ผ่านมาหมดทุกเวที ไม่ว่า นครบาล กองปราบ ภูธรภาค 3 ในอดีตใครได้ยินชื่อนี้ ทั้ง “โจร ขโมย นักเลง มือปืน” ต้องหลีกทางให้เป็นแถว เพราะนักสืบรุ่นเก๋ารายนี้จับไม่เลือกหน้า แต่ต้องมาตกม้าตายกับการที่ย้ายมาดำรงตำแหน่ง “ผบก.สส.บช.น.” เพราะไม่สามารถจับคดีใหญ่ได้เลย ต่างกับ “ผู้การคนเก่า” ที่คดีอะไรเกิดก็ปิดบัญชีได้หมดทุกคดี จนเป็นที่มาของฉายา “ไทเกอร์ เขี้ยวหลุด”

พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับฉายาว่า “สืบจนเด้ง” พล.ต.ต.รณศิลป์ ก่อนมาดำรงตำแหน่ง ผบก.สส.สตม.เคยดำรงตำแหน่ง ผบก.สส.บช.น.และโชว์ฝีมือไม้ลายมือปิดคดีในนครบาลจนนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นคดีปล้นบ้านปลัดสุพจน์ และก็วิสามัญเอเยนต์ยาเสพติดอีกหลายคดี แต่ผลงานก็ไม่ได้การันตีตำแหน่งแต่อย่างใด ทำแต่งานตามล่าแต่โจรผู้ร้าย ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวว่า “ผู้ใหญ่ไม่ปลื้ม” เลยโดนย้ายไปเป็น ผบก.สส.สตม.จนเป็นที่มาของฉายา “สืบจนเด้ง”

พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ฉายาว่า “ผู้การล้างคุก” ขณะที่ดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการเข้าตรวจค้นยาเสพติดภายในเรือนจำอย่างต่อเนื่อง จนสร้างความสะเทือนให้กับเรือนจำจนต้องมีการเปลี่ยนตัว ผู้อำนวยการเรือนจำฯ จนถึงการติดตามสืบสวนจับกุมผู้คุมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สร้างความสะเทือนให้กับวงการเรือนจำอย่างมาก จนเป็นที่มาของฉายา “ผู้การล้างคุก”

พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้รับฉายาว่า “ผู้การโรโบคอป” จากการทำงานในพื้นที่จังหวัด ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงจนเข้าใจปัญหาและรู้ลึกถึงขบวนการการก่อการร้าย จนเป็นที่หมายหัวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ถึงกับวางแผนลงมือสังหารหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ จนเนื้อตัวมีแต่การดามเหล็กเพื่อรักษ และก็รอดชีวิตมาทุกครั้ง เปรียบเสมือนตำรวจเหล็กโรโบคอป จนเป็นที่มาของฉายา “ผู้การโรโบคอป”

พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ได้รับฉายาว่า “โอ๋ คัมแบ็ก” พล.ต.ต.ธนายุตม์ ชื่อนี้คงไม่คุ้นหูกัน แต่ถ้าเอ่ยชื่อ “ฤทธิรงค์ เทพจันดา” หรือ “โอ๋ สืบ 6” ต้องรู้จักกันดีโดยเฉพาะกับ “กลุ่มม็อบเสื้อเหลือง” ที่ยุคสมัยหนึ่งเคยมีปัญหาทางการเมือง จนทำให้ตนเองต้องถูกไล่ออกจากราชการเพราะฝีมือของ “คนเสื้อเหลือง” จนต้องลำบากวิ่งเต้น “ขึ้นโรงขึ้นศาล” จนสามารถกับมารับราชการแบบเงียบ เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล เพราะไม่อยากเป็นประเด็นในสังคมอีก จนมาผงาดยุค “คนเสื้อแดง” ได้มาเป็น “ผบก.จว.นนทบุรี” จนเป็นที่มาของฉายา “โอ๋ คัมแบ็ก”
ภาพภายในห้องทำงาน ที่บช.น.
พล.ต.ท.คำรณวิทย์  ธูปกระจ่าง ผบช.น.
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.
พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บังคับการจ.นนทบุรี หรือเดิม ฉายา โอ๋สืบ 6
กำลังโหลดความคิดเห็น