“สุกำพล” ล่าหน้าหล่อสมฉายา เริ่มต้นปีใหม่ลงนามคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 1/2556 เพิกถอน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ออกจากข้าราชการทหาร อ้างขาดคุณสมบัติ เพราะไม่ได้รับการผ่อนผันตามกฎหมาย ไม่มีเอกสารใบสำคัญทางทหาร และหลอกลวงเจ้าหน้าที่
วันนี้ (2 ม.ค.) มีรายงานว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 1/2556 เรื่องเพิกถอนคำสั่งกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีรายละเอียดว่า โดยที่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานเป็นที่ยุติว่า เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2530 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สมัครเข้ารับราชการในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร หรือเป็นนายทหารสัญญาบัตร ตามกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของกระทรวงกลาโหม และของกองทัพบก อันมีมูลเหตุมาจากนายอภิสิทธิ์ อายุ 23 ปี เป็นบุคคลที่ไม่ผ่านการรับราชการทหารกองประจำการ ไม่ผ่าน (ขาด) การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการ โดยไม่ได้รับการผ่อนผันตามกฎหมาย ไม่มีเอกสารใบสำคัญทางทหาร หรือเอกสารการผ่อนผันที่ถูกต้องตามกฎหมายประกอบการบรรจุและแต่งตั้งเป็นนายทหารสัญญาบัตร ได้ปกปิดข้อความอันเป็นจริง ซึ่งอันควรบอกให้แจ้ง และให้ข้อความไม่ถูกต้องในสาระสำคัญ หลอกลวงให้เจ้าหน้าที่ผิดหลงว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีเอกสารใบสำคัญทางทหารที่ถูกต้องในการบรรจุ
คณะกรรมการพิจารณาดำเนินการกรณีการบรรจุเข้ารับราชการขึ้นทะเบียนกองประจำการ และการแต่งตั้งยศทหารของ ร.ต.อภิสิทธิ์ ตามคำสั่ง กห.(เฉพาะ) ที่ 444/55 ลง 8 ต.ค. 55 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาดำเนินการ กรณีการบรรจุเข้ารับราชการ การขึ้นทะเบียนกองประจำการและการแต่งตั้งยศทหารของ ร.ต.อภิสิทธิ์ ได้พิจารณาข้อเท็จจริงอันเป็นที่ยุติแล้ว และได้ใช้ดุลยพินิจพิเคราะห์ถึงมูลเหตุ เจตนา ผลแห่งการกระทำ ข้อกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแบบธรรมเนียมทหารแล้วเห็นว่า คำสั่งในการบรรจุนายอภิสิทธิ์เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร และคำสั่งให้แต่งตั้งนายอภิสิทธิ์ ข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตรเป็นนายทหารสัญญาบัตรมียศ ว่าที่ ร.ต.เป็นคำสั่งที่ออกด้วยความผิดหลง และมีที่มาจากความไม่สุจริต จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่เป็นคำสั่งที่ยังคงมีผลบังคับให้ผู้เกี่ยวข้องจำต้องปฏิบัติตามต่อไป อีกทั้งสิทธิและหน้าที่ประโยชน์ที่ได้รับจากคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นยังคงมีอยู่ต่อไปถึงปัจจุบันและในอนาคต ทำให้รัฐและราชการของกระทรวงกลาโหมเสียหาย จึงมีความจำเป็นและมีเหตุผลอันสมควรให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวนั้น และ รมว.กลาโหมได้รับทราบรายงานของคณะกรรมการฯ ดังกล่าว และได้พิจารณาใช้ดุลยพินิจอันควรภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายแล้ว เห็นชอบกับความเห็นและข้อเสนอของคณะกรรมการฯของ กห.
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ประกอบกับมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.ยศทหาร พ.ศ. 2479 และข้อบังคับ กห.ว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย เลื่อนและลดตำแหน่งข้าราชการกลาโหม พ.ศ. 2502 หมวด 1 ข้อ 4 (2) จึงให้เพิกถอนคำสั่งดังต่อไปนี้ 1. คำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 720/30 ลง 7 ส.ค. 30 เรื่อง บรรจุบุคคลเข้ารับราชการเฉพาะในรายหมายเลข 1 นายอภิสิทธิ์ หมายเลขประจำตัว 6302030807 คุณวุฒิ Bachelor of Arts (Philosophy, Politics, and Economics) แห่ง University of Oxford ประเทศอังกฤษ เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร ตำแหน่ง รร.อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. (ชกท.2701) (อัตรา พ.ต.) รับเงินเดือน ระดับ น.1 ชั้น 3 (2,765 บาท) นอกนั้นคงเดิม และ 2. คำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 339/31 ลง 26 เม.ย. 31 เรื่องแต่งตั้งข้าราชการกลาโหมพลเรือนเป็นนายทหารสัญญาบัตร เฉพาะในรายหมายเลข 1 ว่าที่ ร.ต.อภิสิทธิ์ หมายเลขประจำตัว 6302030807 รรก.อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. (เหล่า สบ.) นอกนั้นคงเดิม
แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงกลาโหมระบุว่า วันนี้ทางกระทรวงกลาโหมได้ส่งจดหมายเรื่องเพิกถอนคำสั่งกระทรวงกลาโหมไปยังบ้านของนายอภิสิทธิ์แล้ว เพื่อให้เข้ารับทราบ ทั้งนี้ ภายหลังการเพิกถอนคำสั่งบรรจุฯ สถานภาพวันนี้นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เป็นทหารแล้ว ส่วนจะสามารถใช้ว่าที่ ร.ต. หรือ ร.ต.ต้องมีการตีความต่อไปซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการยกเลิกการแต่งตั้งไปแล้ว แต่เนื่องจากเป็นยศพระราชทานทางกระทรวงกลาโหมจะต้องทำเรื่องอีกครั้งเพื่อขอถอดถอนยศพระราชทาน โดยต้องใช้เวลา 1-2 เดือนในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป