ปชป.ปูด “แม้ว” สไกป์สั่งลุยประชามติเย้ยแดง สรุปผลงาน “ปู” บนคราบน้ำตาชาวบ้าน

โฆษกประชาธิปัตย์แถลงเสียใจแดงเผาศาลากลางตายคาคุก ชี้เป็นตัวอย่างหลงเชื่อแกนนำยุ บอกถ้ารับรองอำนาจศาลโลก “แม้ว” โดนแน่ ปูดนายใหญ่สไกป์ตึกชินฯ สั่งลุยประชามติ เย้ย พท.ปัดข้อเสนอ นปช.ไม่มีวันเป็นจริง พร้อมสรุป 6 ข้อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพิ่มค่าครองชีพ-ลดรายได้เกษตรกร-ลดรายได้ประเทศ-หนี้คนไทยท่วมหัว-โกงทั้งแผ่นดิน-ไร้ภาวะผู้นำ

วันนี้ (29 ธ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอแสดงความเสียใจกับนายวันชัย รักสงวนศิลป์ ที่เป็นนักโทษคดีเผาศาลากลางที่เสียชีวิตในเรือนจำหลักสี่ เป็นตัวอย่างที่แกนนำปลุกปั่นยุยงให้กระทำการผิดกฎหมายโดยคิดว่าทำแล้วจะไม่มีความผิด แกนนำจะดูแลหรือรับผิดชอบแทนได้ตามที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พูดว่า เผาเลยพี่น้องผมรับผิดชอบเอง แต่ถึงวันนี้ไม่เคยรับผิดชอบใดๆ โดยผลกรรมตกอยู่กับประชาชนที่หลงเชื่อแกนนำ ขอให้รัฐบาลไปดูแลนักโทษทุกคนในเรือนจำไม่เช่นนั้นเกรงว่าจะมีการนำไปขยายผลสร้างความแตกแยกอีก

ส่วนกรณีที่ทาง นปช.เรียกร้องไปยังรัฐบาล 3 ข้อ ให้โหวต รธน.วาระ 3 ทันที นิรโทษกรรมทุกคนยกเว้นแกนนำที่มีคดีก่อการร้าย และยอมรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศนั้น นายชวนนท์กล่าวว่า พรรคยืนยันมาตลอดว่าการนิรโทษกรรมประชาชนที่ไม่ได้กระทำผิดอาญา ทำผิดเฉพาะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช้อาวุธ ไม่สร้างความเสียหาย ควรมีการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดองในประเทศ แต่ตนเชื่อว่า นปช.รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ และสนับสนุนให้รับรองเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ พวกตนจะได้คดีกรือเซะ ตากใบ ไปขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศเช่นเดียวกัน ไม่ใช่รับเฉพาะกรณีเหตุไม่สงบปี 53 ให้รับทุกกรณี ซึ่งตนคิดว่ากรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้าข่ายมากกว่า เนื่องจากขณะนี้ยังหนีคดีอยู่จึงอาจต้องพึ่งศาลอาญาระหว่างประเทศในการจับกุมตัว

นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไม่กล้าดำเนินการโหวต รธน.วาระ 3 แน่นอน เพราะเมื่อวานนี้ที่ตึกชินวัตรสามมีการประชุมของแกนนำ โดย พ.ต.ท.ทักษิณสไกป์สั่งเดินหน้าทำประชามติ ขอให้แกนนำตั้งสติว่าคนที่ขัดขวางข้อเรียกร้องทั้งสามข้อจนเดินหน้าไม่ได้นั้นเพราะพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่สนับสนุน ทำให้ข้อเรียกร้องสามข้อไม่มีวันสำเร็จหรือเป็นจริงในปีใหม่ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีทางนิรโทษกรรมให้กับประชาชนถ้าตัวเองไม่ได้รับการนิรโทษกรรมก่อน

นอกจากนี้ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวสรุป 6 ผลงานรัฐบาลยิ่งลักษณ์ชินวัตรในปี 2555 บนคราบน้ำตาของประชาชน ประกอบด้วย 1. เพิ่มค่าครองชีพประชาชน แก๊สขยับราคาจาก กก.ละ 6.69 บาท ทำให้แก๊สขนาด 15 กก.ขึ้นราคาถังละ 100 บาทจาก 300 เป็น 400 บาทในปี 2556 ขณะที่กองทุนน้ำมันติดลบเพิ่มจาก -12,111 ล้านบาทในปี 2554 เป็น -17,805 ล้านบาท เท่ากับเพิ่มขึ้นถึง 5,694 ล้านบาท ส่วนราคาน้ำมันที่น น.ส.สาวยิ่งลักษณ์ระบุว่าจะกระชากลงนั้น ปรากฏว่าเมื่อเทียบราคาน้ำมันเดือน ธ.ค.ปี 54 กับปี 55 พบว่าราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยเบนซิน 91 ธ.ค. 54 ราคา 34.97 บาท ปี 55 43.75 บาท เพิ่มขึ้น 8.78 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 จาก 31.94 บาทเป็น 35.38 บาท เพิ่มขึ้น 3.44 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 จาก 33.69 บาทเป็น 37.83 บาท เพิ่มขึ้น 4.14 บาท ดีเซลจาก 28.89 บาทเป็น 29.79 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท

2. ลดรายได้เกษตรกร อาทิ ยางพารา จาก 86.18 บาท เป็น 77.71 บาท ลดลง 8.47 บาท มะพร้าวจาก 12.45 บาท เป็น 3.36 บาท ลดลง 9.09 บาท ปาล์มน้ำมันจาก 5.07 บาท เป็น 3.22 บาท ลดลง 1.85 บาท หอมแดง 24.59 บาท เป็น 15.10 บาท ลดลง 9.49 บาท และกระเทียมจาก 14.87 บาท เป็น 8.82 บาท ลดลง 6.05 บาท

3. ลดรายได้ของประเทศ โดยขาดดุลการค้าในปี 2554 2 แสนล้านบาท ในปี 55 1 ล้านล้านบาท เท่ากับว่าขาดดุลเพิ่มถึง 8 แสนล้านบาท 4. หนี้คนไทยท่วมหัว โดยหนี้สาธารณุจาก 4.2 ล้านล้านบาทเป็น 4.9 ล้านล้านบาท เท่ากับปีเดียว น.ส.ยิ่งลักษณ์ก่อหนี้ให้ประเทศถึง 7 แสนล้านบาท ขณะที่หนี้ครัวเรือนในปี 2554 อยู่ที่ 159,432 บาท ปี 2555 อยู่ที่ 168,517 บาท เพิ่มขึ้นถึง 9,085 บาท

5. โกงทั้งแผ่นดิน จากโครงการจำนำข้าวทุจริตทุกขั้นตอน อ้างรัฐบาลต่างประเทศโกงการระบายข้าว นอกจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ลงโทษนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์แล้วยังไม่สนใจแก้ไขแต่กลับมีพฤติกรรมเหมือนส่งเสริมให้มีการทุจริตบนคราบน้ำตาของประชาชน และการคอร์รัปชั่นงบน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท ที่สุ่มแล้วพบว่ามีการโกงทุกโครงการจน เลขาฯ ป.ป.ท.ถูกย้าย สตง.ก็ตรวจสอบพบว่ามีการทุจริต แต่รัฐบาลกลับอ้างว่าไม่มีการทุจริต ทั้งที่มีการยืนยันว่าทุกโครงการจะถูกหักค่าหัวคิว 30% โดยหลายโครงการไม่มีการดำเนินการซ่อมถนน หรือขุดลอกคูคลองจริง

6. ไม่มีภาวะผู้นำ ถูกนายกฯ ตัวจริงบงการจากต่างประเทศ โดยทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทย ตำรวจ แกนนำเสื้อแดง ต่างเดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณในต่างประเทศช่วงที่จะมีการปรับ ครม.หรือแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เช่น นายศักดา คงเพชร อดีต รมช.ศึกษาธิการ เดินทางไปฮ่องกงวันที่ 16 ม.ค. 55 นายสนธยา คุณปลื้ม ไปดูไบวันที่ 30 พ.ค. 55 นายประชา ประสพดี เดินทางไปฮ่องกง 5 ต.ค. 55 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เดินทางไปฮ่องกง 9 ต.ค. 55 เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับ ครม. ขณะที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม เดินทางไปลอนดอนวันที่ 7 ก.ย. 55 หารือเรื่องแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม ส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน. เดินทางไปสิงคโปร์วันที่ 23 ก.ย. 55 เพื่อล็อบบี้ไม่ให้ถูกย้ายออกจากตำแหน่ง และพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. เดินทางไปฮ่องกง 26 ก.ค. 55 อ้างว่าไปอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ

นายชวนนท์กล่าวว่า ทั้ง 6 ข้อดังกล่าวสะท้อนว่ารัฐบาลบริหารประเทศถดถอยในทุกด้าน และยังอยู่ภายใต้การบงการของ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย