xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ซัด มท.1 ดูถูก ปชช.โง่ เย้ยรอนายใหญ่สั่งถึงลุยประชามติ หวั่นใช้อำนาจรัฐชี้นำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
“องอาจ” ยันพรรคค้านประชามติตามกรอบ ไม่ป่วนนอกรอบ จวก “จารุพงศ์” เห็นต่าง รบ.ไม่แปลว่าโง่ ไล่ไปศึกษาระบอบ ปชต. ยันไม่ไปประชามติเป็นสิทธิ เหตุกฎไม่เหมือนเลือกตั้ง ย้อน พท.ตีกิน รธน.50 มาจากรัฐประหาร ทั้งที่ ปชช.มีส่วนร่วมลงเสียง ย้ำต้องแก้รายมาตรา ไม่เอายกทั้งฉบับเพื่อ “นช.แม้ว” ซัดเลิกอ้างว่าทำตามนโยบาย เหตุบิดพลิ้วเพื่อ ปชช.หลายเรื่อง รับหวั่น รบ.ลุแก่อำนาจชี้นำ ปชช. “ชวนนทอ แจงแก้ รธน.เพื่อความเหลื่อมล้ำไม่มีปัญหา แต่ รบ.จ้องล้ม รธน.เพื่อนายใหญ่รับประโยชน์ ดึงประเทศเป็นตัวประกัน

วันนี้ (20 ธ.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการที่รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการทำประชามติ โดยมีการยืดเวลาออกไปด้วยการอ้างว่าหากเร่งรีบจะไม่ราบรื่นและมีเหตุวุ่นวายนั้น พรรคขอยืนยันว่าจะไม่ทำอะไรให้เกิดความวุ่นวายในการทำประชามติอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น รัฐบาลจะทำประชามติวันนี้หรือเมื่อไหร่ พรรคพร้อมเข้าร่วมดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายกำหนด โดยจะเคลื่อนไหวแสดงจุดยืนในกรอบของกฎหมาย และย้ำว่าไม่ควรมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเพื่อช่วยทักษิณ และ ครม.ทักษิณ รวมถึงบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งจะได้รับผลประโยชน์ ทั้งนี้เป็นสิทธิของพรรคที่จะแสดงออกตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายการแสดงประชามติปี 2552 ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่

ส่วนกรณีที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ออกมาระบุว่าการไม่ออกมาใช้สิทธิทำประชามติถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น ขอชี้แจงว่า การจะใช้สิทธิหรือไม่ในการทำประชามติเป็นสิทธิของบุคคลนั้นๆ และเป็นไปตามกระบวนการประชาธิปไตย เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่าการลงประชามติเป็นหน้าที่พลเมืองเหมือนกับการเลือกตั้งทั่วไป จึงอยากให้นายจารุพงศ์เข้าใจประเด็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างถ่องแท้ว่าประชาชนมีสิทธิอย่างไรตามกฎหมาย เพราะประชาธิปไตยไม่ใช่เพียงแค่ต้องดำเนินการตามที่พรรคเพื่อไทยต้องการเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ท่าทีของนายจารุพงศ์ก่อนการทำประชามติ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยมีการรณรงค์ ประชาเสวนา โดยในการประชุมข้าราชการฝ่ายปกครอง นายจารุพงศ์ได้แสดงความเห็นและใช้คำพูดในลักษณะดูถูกประชาชน เช่น บอกว่าพวกที่โง่ไม่ต้องเอามาเข้าร่วม ตนคิดว่าประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะรับรู้และเข้าไปแสดงความเห็นในวงเสวนาได้ คนเห็นต่างจากรัฐบาลไม่ใช่คนโง่ แต่เป็นจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันเท่านั้น อยากให้มองประชาชนว่ามีความเห็นต่างได้ และมีสิทธิแสดงออกในความคิดของเขา แม้ความคิดจะไม่เหมือนกับรัฐบาลก็ตาม ควรเคารพความเห็นของประชาชน

นอกจากนี้ การที่นายจารุพงศ์พยายามบอกว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะพรรคต้องการอุ้มรัฐธรรมนูญเผด็จการนั้น นายองอาจกล่าวว่า เป็นการพูดความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียว เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 แม้จะมาจากการรัฐประหาร แต่ก็มีที่มาจากประชาชนด้วยการทำประชามติ ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับเดียวที่ผ่านการทำประชามติจากประชาชน จึงถือเป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนให้ความเห็นชอบ จึงไม่อยากให้พูดความจริงครึ่งเดียวจนทำให้เกิดความสับสน ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าการทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับของพรรคเพื่อไทยไม่ตรงไปตรงมา แต่มีนัยแฝงเร้น จึงไม่เห็นด้วยต่อการทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ถ้าจะแก้รายมาตราสามารถทำได้เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่ามาตรานั้นไม่ดีอย่างไร และจะแก้เพื่ออะไร แต่หากรัฐบาลยังทำในสิ่งที่ไม่ตรงไปตรงมาย่อมมีเสียงคัดค้านอย่างแน่นอน

ส่วนการที่รัฐบาลอ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการทำตามที่หาเสียงในช่วงเลือกตั้งนั้น นายองอาจกล่าวว่า การหาเสียงของพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีเรื่องรัฐธรรมนูญเรื่องเดียว แต่มีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ดำเนินการตามที่หาเสียงไว้แต่อย่างใด ดังนั้น การนำเรื่องนี้มาอ้างจึงฟังไม่ขึ้น เพราะหากอ้างเหตุผลนี้ก็ต้องทำทุกเรื่องที่หาเสียงไว้ เช่น การบิดพลิ้วในเรื่องนโยบายพลังงาน เงินเดือนปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท เป็นต้น ทั้งนี้ พรรคจะติดตามว่าการดำเนินการของคณะทำงานในส่วนของรัฐบาลจะออกแบบประชามติอย่างไร หรือยังประสงค์จะทำประชามติต่อไปหรือไม่เพราะยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในส่วนของรัฐบาล จึงต้องจับตาดูต่อไปว่าจะเดินหน้าทำประชามติจริงหรือไม่ เพราะมีท่าทีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เมื่อได้รับใบสั่งจากต่างประเทศก็จะทำประชามติ และมี ส.ส.เพื่อไทยคิดแก้ไขกฎหมายประชามติ จึงต้องดูว่าจะมีการทำประชามติหรือไม่ ทำในแนวทางใด จะแก้กฎหมายการทำประชามติหรือไม่อย่างไร เป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป

นายองอาจยอมรับว่าพรรคมีความวิตกกังวลในเรื่องนี้ว่าจะมีการใช้อำนาจรัฐเข้าไปชี้นำการทำประชามติ ซึ่งถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เพราะการดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยต้องทำด้วยความถูกต้อง ทั้งนี้ การดำเนินการผ่านกระทรวงศึกษาธิการและมหาดไทยอย่างโปร่งใสไม่น่ามีผลกระทบแต่รัฐบาลมีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบมาอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเป็นไปได้ที่จะใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐบาล จึงต้องดูว่าจะดำเนินการในสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร

ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลติดหล่มหรือกับดักคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อย่างแท้จริง เพราะถ้ามีความจริงใจแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ประชาชน หรือความเหลื่อมล้ำพัฒนากระบวนการประชาธิปไตย หรือการเมืองของประเทศ ย่อมไม่มีปัญหา แต่เพราะรัฐบาลมีผลประโยชน์แอบแฝงล้มรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ไขบางมาตราเพื่อประโยชน์ของบุคคลจึงต้องล้มรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีการรณรงค์ในเรื่องความเหลื่อมล้ำซึ่งสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ประโยชน์ ทำให้ประโยชน์ที่ประชาชนควรจะได้ต้องชะลอไปด้วย

ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีความจริงใจขอให้ระบุประเด็นต้องการแก้ไข จัดวงเสวนาให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลเพื่อตัดสินใจว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขรายมาตราดังกล่าว แต่ขณะนี้รัฐบาลเอาผลประโยชน์คนคนเดียวมาต่อรองผลประโยชน์ของคนทั้งชาติ เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 แม้เป็นผลพวงจากรัฐประหารแต่ก็เป็นการต่อยอดจากรัฐธรรมนูญปี 40 หากเห็นว่ามีปัญหาทำไมต้องรื้อทั้งระบบเพียงแค่ต้องการล้างความผิดให้คนโกงด้วยการแก้ไขมาตรา 309 เท่ากับว่าผลประโยชน์ประชาชนมีค่าน้อยกว่าผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ประเทศจะเดินหน้าไม่ได้จนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้ในสิ่งที่ต้องการ


กำลังโหลดความคิดเห็น