โฆษกประชาธิปัตย์ รู้แล้ว! สองตำรวจถูกไล่ออกมือทำร้าย “ราเมศ” รับพลาดจอดรถไกลที่พักเลยโดน จี้ ผบ.ตร.เอาจริงจับคนร้าย หวั่นมีครหาเปลี่ยนหลักฐาน รับไม่มั่นใจให้นครบาลสอบจะหาตัวคนทำได้หรือไม่ จ่อร้องทุกข์ขอกองปราบฯ ช่วย เผยไม่สบายใจ “ธาริต” เดินหน้ารับใบสั่งเล่น “มาร์ค-เทือก” จวกดีเอสไอเงียบคดีชุดดำฆ่าชาวสีลม หวังปกป้องผู้ก่อการร้าย
วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ถูกทำร้ายว่า จากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนที่ลงมือ คือ ตำรวจนอกราชการที่ถูกไล่ออกจากราชการ 2 นาย ปัจจุบันทำงานคุมพื้นที่บางนา และเคยรับราชการอยู่พื้นที่ จ.นนทบุรี ซึ่งนายราเมศไม่มีความบาดหมางส่วนตัว หรือมีพฤติกรรมที่จะมีเรื่องมีราวกับใคร เป็นคนตั้งใจทำงาน ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนที่จะทำให้ใครโกรธแค้นได้ จึงเชื่อเป็นเรื่องการเมือง โดยนายราเมศถูกประกบตัวครั้งแรกกรณีให้ตรวจสอบ ผบช.น.เกณฑ์ตำรวจบุกประชาธิปัตย์ จนต้องระวังตัวเสมอ กระทั่งพลาดจอดรถไกลจากที่พักและถูกทำร้ายในที่สุด
“ขอเรียกร้องไปยัง ผบ.ตร.ว่า คดีนี้การทำร้ายนักการเมืองตำรวจต้องเอาจริงเอาจังในการตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายได้ไม่ยากจากกล้องวงจรปิด จึงขอให้ ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรมกับนักการเมืองที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ เพราะมีความกังวลว่านายราเมศเป็นคู่กรณีกับ ผบช.น.ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนสูงสุด จึงไม่อยากให้เกิดข้อครหาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐาน เบี่ยงเบนประเด็น จึงควรหาแนวทางให้มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ให้คนที่สอบสวนไม่ใช่เป็นคนที่เป็นคู่กรณี เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม แต่ถ้าให้นครบาลสืบสวนก็ไม่แน่ใจว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดได้หรือไม่ ครอบครัวของนายราเมศอยากให้หน่วยงานอื่นของ สตช.เข้ามาดูแล โดยสุดสัปดาห์นี้จะร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามเพื่อให้ดูแลคดีนี้ และยังจับตาดูว่าความคืบหน้าที่ ผบ.ตร.ระบุเกี่ยวกับคดีนี้จะเป็นอย่างไร” นายชวนนท์กล่าว
สำหรับการตั้งศูนย์ติดตามคดีการบาดเจ็บในช่วงที่มีการชุมนุมปี 2553 นั้น นายชวนนท์กล่าวว่า เห็นด้วยว่าต้องเดินหน้า แต่ไม่สบายใจที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับใบสั่งทางการเมืองเต็มที่ ตนไม่ห่วงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะถูกดำเนินคดี แต่ห่วงว่ากระบวนการยุติธรรมเบี่ยงเบนเช่นนี้ ทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์จะตายฟรีกันหมด เพราะกระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวจนทำให้ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏ ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ และประชาชน นายธาริตเร่งรัดในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการ แต่ที่เคยระบุว่า 12 คดีเป็นการกระทำจากชายชุดดำและผู้ชุมนุม กลับไม่มีความคืบหน้า เช่นกรณี น.ส.ธัญญานันท์ แถบทอง ที่เสียชีวิตบริเวณสีลม ประชาชนส่วนหนึ่งกำลังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการทำหน้าที่ของดีเอสไอ ตรงกันข้ามกลับกำลังปกป้องผู้ก่อการร้ายหรือไม่ เพราะมุ่งแต่จะสร้างความไม่ชอบธรรมว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิออกมาปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์จากผู้ก่อการร้าย ไม่ใช่ออกมาทำร้ายประชาชน