เกมบีบหัวใจ “มาร์ค-เทพ” ยืนหยัด หรือยอมซูเอี๋ย

คดีไหลมาอย่างต่อเนื่อง กรมสอบสวนคดีพิเศษชงข้อหา “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตนายกฯ และอดีตรองนายกฯ ยาวเป็นชุดๆ ร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 เจตนาออกคำสั่งฆ่า ไปจนถึงพยายามฆ่า แยกย่อยรายคดี

ถ้านับทั้งหมดก็ 2,000 กว่าคดี กะไล่ให้จนกลางกระดาน เอากันให้ตายคาเขียง!!

เรื่องนี้ออกตัวปฏิเสธกันปากเปียกปากแฉะว่าไม่มีการเมืองมาเกี่ยวข้องพัวพัน ก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฎออกมาคล้ายกับสิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เกริ่นไว้ก่อนแทบทั้งสิ้น วันนี้เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยครองอำนาจ คดีความต่างๆ ที่ทิ่มแทงฝ่ายตรงข้ามก็ไหลมาเทมาตามคาด อ้าวไหนบอกแก้ไข ไม่แก้แค้น!!

ถ้าว่ากันในมุมการเมือง ปรากฏการณ์ตรงนี้ก็เป็นการช่วยบรรเทา เยียวยาจิตใจญาติผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเสื้อแดงได้ชะงัด เพราะหากไม่มีการดำเนินการอะไรเลย ปล่อยให้คดีค้างคาเตะถ่วงไปเรื่อยๆ คนที่จะถูกด่าและมองด้วยสายตาหวาดระแวงย่อมเป็นคนในรัฐบาลเองนั่นแหละ

วันนี้แต่ละข้อหาที่ฟาดฟันไปยัง “มาร์ค-เทือก” ล้วนฉกาจฉกรรจ์ ถึงขั้นติดคุกประหารชีวิตกันเลยทีเดียว ตอนนี้จึงได้ยินถ้อยคำเท่ๆ หลายประโยคหลุดออกจากปากอดีตนายกฯหน้าหล่อ ที่หลายคนฟังแล้วเคลิ้ม เลื่อมใสศรัทธา แต่อย่างว่าคนอีกส่วนหนึ่งก็หมั่นไส้เกลียดชัง เย้ยหยามว่าเป็นพวกดราม่าพูดจาเอาแต่หล่อ โดนเข้าจริงๆ ไม่รู้จะปากกล้าหรือไม่??

ความเคลื่อนไหวพยายามแทงมีดที่ปักอกให้ลึกเข้าๆ มากขึ้นทุกวัน ไม่รู้ว่าได้ทำให้มิตรรักแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์ และคนรัก “มาร์ค” คิดกันอย่างไร ความคับอกคับใจที่มีอยู่ชั่วโมงนี้ อาจลุกลามสานต่อความเกลียดชังไม่มีที่สิ้นสุด

ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยจะเลือกใช้วิธีตีฝ่ายตรงข้ามให้ตาย หรือปางตาย เป็นจุดเริ่มต้นของการปรองดองรูปแบบใหม่หรือไม่ ใช้ยุทธศาสตร์ปิดประตูตีแมวหวังให้แมวมาอ้อนวอนขอความเมตตา และยอมทำตามเงื่อนไขปรองดอง ยอมทำตามกฎหมายที่ทำกันมาแต่สังคมยังตั้งกำแพงขวางอยู่อย่างแข็งขัน

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นและเผชิญอยู่ พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลดูเหมือนว่าจะเข็นเดินหน้าต่อไปไม่ไหว ไม่ว่าจะพลิกแพลงกลับหัวกลับหางอย่างไร เครือข่ายคนรู้ทันก็ยังรู้ทันอยู่วันยังค่ำ พลิกพลิ้วไม่ออก เลยใช้วิธีโหดๆ โฉดๆ ทุบกันแบบนี้แหละ พูดดีๆ ไม่ได้ใช้ต้องตุ๊ยท้อง วิถีคนพาลชัดๆ

สุดท้ายก็ต้องวัดใจคนชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” และ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” จะแข็งแกร่งยืนต้านทานหอกดาบที่เครือข่ายฝ่ายตรงข้ามค่อยๆ จิ้ม ค่อยๆ แทง จนเหวอะหวะเต็มตัวได้หรือไม่ จะยืนระยะได้นานแค่ไหน จะเป็นวีรบุรุษตามคำพูดที่เอ่ยอ้าง

“หากศาลจะตัดสินให้ประหารชีวิตผมและคุณสุเทพจากคดีนี้ เราก็พร้อมที่จะน้อมรับ เพราะเราเป็นนักการเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชน ได้รับการบ่มเพาะจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ยอมตายเพื่อรักษาระบบ โดยไม่มีวันยอมทำลายระบบเพื่อรักษาตัวเอง อันเป็นวิสัยของคนเห็นแก่ตัวที่เข้ามาแสวงประโยชน์จากการเมือง ไม่ใช่ของนักการเมืองมืออาชีพที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อพี่น้องประชาชน จะเป็นแบบอย่างให้คนไทยได้เห็นว่านักการเมืองไม่ได้เลวทั้งหมด และผมกับคุณสุเทพขอเป็นตัวอย่างในการยกระดับมาตรฐานการเมืองไทยให้เห็นชัดเจนจากกรณีนี้”

หรือจะแพ้ภัย ยอมจำนน ไปซูเอี๋ยคดีแลกคดีกับ “นช.แม้ว-ทักษิณ ชินวัตร” นักโทษหนีคดี หนีไม่พ้นวังวนการเมืองน้ำเน่า ที่ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน!!