ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - โจรใต้ใช้อาวุธสงครามกราดยิงรถยนต์โดยสารรับ ขรก.นราธิวาสขณะเดินทางกลับบ้านพัก จนท.เกษตรอำเภอดับ 2 รายเจ็บ 5 รายมีครูร่วมอยู่ด้วย ด้านทหาร ตำรวจ อาวุธครบมือสนธิ "ดูแลครูใต้" เข้ม ส่วน "ร.ร.บ้านบาโง" ยังไม่เปิดครูยังผวา "เสริมศักดิ์" สายตรงรองผู้ว่าฯนราธิวาสกำชับมาตรการ รปภ.ครู "มทภ.4" มั่นใจแนวทาง "ดับไฟใต้" ได้ผล "บีอาร์เอ็น" ผลิตโจรไม่ได้ หลังรัฐเปิดทางถอยให้ผู้หลงผิด
เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ (17 ธ.ค.) คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่รถยนต์กระบะซึ่งเป็นรถโดยสารสายสุไหงโก-ลก-นราธิวาสรับเหมารับ-ส่งเจ้าหน้าที่ข้าราชการในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ อ.เจาะไอร้อง ขณะเดินทางกลับเข้าเมืองนราธิวาส เหตุเกิดในพื้นที่บ้านบูเก๊ะตาโมง ม.7 อ.เจาะไอร้อง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 2 รายคือ นางปาตีเม๊าะ ตาและ และ น.ส.เนาวรัตน์ ลีนิล ทั้งสองคนเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ประกอบด้วย 1.นางวีรัจฉรา หะยะมิน อายุ 30 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ อบต.สุไหงปาดี 2.น.ส.ฉวีวรรณ อ่อนหวาน อายุ 33 ปี ครู คศ.2 โรงเรียนบ้านจือแร ต.สากอ อ.สุไหงปาดี 3.นายวลัญช์ หมวกดำ อายุ 39 ปี 4.นางจิตรา มะดาอิง อายุ 53 ปี และ 5.นางเสาวนีย์ ลิมศิริวนนท์ อายุ 50 ปี ซึ่งทั้ง 3 ราย เป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี โดยทั้งหมดถูกกระสุนปืนและเศษกระจกตามลำตัวได้รับบาดเจ็บ
ด้านบรรยากาศเปิดเรียนวันแรกโรงเรียนใน จ.นราธิวาสทั้ง 3 เขตการศึกษาได้เปิดสอนกันตามปกติแล้ว แต่เนื่องจากได้เกิดฝนตกหนักครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอใน จ.นราธิวาส ตั้งแต่คืนวันที่ 16 ธ.ค.ต่อเนื่องถึงเช้าวานนี้จึงเป็นเหตุให้บรรยากาศการเปิดเรียนวันแรกยังมีเด็กนักเรียนเดินทางมาเรียนหนังสือกันไม่เต็มจำนวนเหมือนๆ กันเกือบทุกโรงเรียน
โดยเวลา 08.00 น.นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางมาสุ่มตรวจแผนรักษาความปลอดภัยครูที่โรงเรียนบ้านแกแม หมู่ 9 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ พบว่ามีกำลังตำรวจ สภ.ระแงะ และ อส.จาก อ.ระแงะ ยืนยามคอยเฝ้าระวังภัยกันภายในโรงเรียนอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ในระหว่างที่นายสามารถ กำลังยืนคุยเพื่อให้กำลังใจแก่ครูนั้น นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ได้โทรศัพท์มือถือสายตรงถึงนายสามารถ เพื่อกำชับให้รักษาความปลอดภัยครูให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดด้วย
**แม่พิมพ์นราธิวาส 14 รายขอย้าย
นายสงวน อินทร์รักษ์ ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ครูไทยพุทธถูกยิงเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่ จ.นราธิวาส และปัตตานี โดยมีผลกระทบต่อระบบการเรียนการสอนของทุกโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากได้มีการหยุดทำการเรียนการสอนเป็นเวลาหลายวัน ที่สำคัญเหตุที่เกิดขึ้นทำให้บุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะครูไทยพุทธหลายคนเสียขวัญเป็นอย่างมากจนไม่กล้าเดินทางไปสอนหนังสือ ล่าสุดได้มีครูไทยพุทธที่ยื่นความจำนงขอย้ายออกนอกพื้นที่แล้ว 14 ราย
"ส่วนครูมุสลิมขณะนี้ทราบว่าเริ่มมีบางรายที่ทำเรื่องขอย้ายเช่นกัน โดยเฉพาะโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบบ่อยครั้ง ซึ่งจะได้มีการพิจารณาเป็นรายบุคคลอีกครั้งหนึ่ง"
**ครูร.ร.บ้านบาโงยังผวาปิดเรียนต่อ
สำหรับบรรยากาศการเปิดเรียนในพื้นที่ จ.ปัตตานี โรงเรียนกว่า 300 แห่ง มีครู และนักเรียนเดินทางมาโรงเรียนกันตั้งแต่เช้า เพื่อช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน พร้อมกับมีการวางกำลังของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ลงเต็มทุกพื้นที่ โดยได้แบ่งเป็นชุดออกเดินเท้าลาดตระเวนตามเส้นทาง และจัดกำลังคอยประจำจุดเสี่ยงต่อการก่อเหตุต่างๆ ร่วมไปกับการจัดชุดสายตรวจเคลื่อนเร็วใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ออกตรวจตราตามรายทางทุกเส้นทางที่ครู และนักเรียนใช้เป็นเส้นทางสัญจร
ด้าน พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้นำเจ้าหน้าที่ทหารออกตรวจเบี่บมหลายโรงและพบปะครูให้ความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะดูแลให้เกิดความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ส่วนที่โรงเรียนบ้านบาโง ม.1 บ้านบาโง ต.ปานัน อ.มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่คนร้ายบุกเข้าไปยิงผู้อำนวยการโรงเรียน และครูรวม 2 ศพ ขณะกำลังรับประทานอาหารร่วมกับครูอีก 5 คนในโรงเรียนนั้น ปรากฏว่า บรรยากาศเงียบ โรงเรียนยังคงปิดการเรียนการสอน มีเพียงเจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลรักษาความปลอดภัยเท่านั้น
จากการสอบถามครูโรงเรียนบ้านบาโง บอกว่า ตอนนี้ที่โรงเรียนมีครูอยู่ 5 คนทั้งหมดยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ยังไม่กล้าออกมามาสอน เพราะยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยและยังมีความรู้สึกกลัว เมื่อนึกถึงวันที่เกิดเหตุ เพราะภาพของคนร้ายที่จ่อยิงครูยังติดตาอยู่ ถ้ามั่นใจและครูสบายใจ คาดว่าจะเปิดในวันจันทร์ ที่ 24 ธ.ค.
**มทภ.4 มั่นใจแนวทาง "ดับไฟใต้"
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขณะนี้อาจดูเหมือนว่าสถานการณ์รุนแรง แต่จริงๆ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกท่านได้ทำให้ดีขึ้นตามลำดับในภาพองค์รวม แต่ภาพย่อยอาจมีการยิงครูบ้าง เพราะว่าเขาต่อต้านไม่ให้งานที่เราทำประสบความสำเร็จ แต่ขอให้สบายใจได้ว่าสิ่งที่เราเสียสละไปแล้วเกิดผลในอนาคต ซึ่งสิ่งที่เห็นผลคือขบวนการไม่สามารถผลิตคนเข้าไปสู่ขบวนการปฏิวัติและ ขบวนการบีอาร์เอ็นได้ เพราะเราเข้าไปในจุดที่เขาบ่มเพาะได้หมด รอเพียงการเข้าไปปรับความเข้าใจลดความเกลียดชังเรา ส่วนคนที่เดินเข้าไปแล้วทางรัฐบาลได้ส่งผ่านนโยบายในการเปิดทางถอย สร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลในการออกจากความขัดแย้ง โดยการให้เขายุติการต่อสู้ ขณะนี้มีการออกมาแสดงตัวหลายร้อยคนที่ติดคดีทั้งหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ ป.วิอาญา ประมาณ 115 คน ทางอัยการจะดำเนินการช่วยอยู่ ส่วนที่ดื้อดึงเราจะบังคับใช้กฎหมาย คนที่แข็งขืนก็ดำเนินการปราบปรามตามกฎหมายอย่างจริงจัง
เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ (17 ธ.ค.) คนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่รถยนต์กระบะซึ่งเป็นรถโดยสารสายสุไหงโก-ลก-นราธิวาสรับเหมารับ-ส่งเจ้าหน้าที่ข้าราชการในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ อ.เจาะไอร้อง ขณะเดินทางกลับเข้าเมืองนราธิวาส เหตุเกิดในพื้นที่บ้านบูเก๊ะตาโมง ม.7 อ.เจาะไอร้อง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 2 รายคือ นางปาตีเม๊าะ ตาและ และ น.ส.เนาวรัตน์ ลีนิล ทั้งสองคนเป็นเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ประกอบด้วย 1.นางวีรัจฉรา หะยะมิน อายุ 30 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการ อบต.สุไหงปาดี 2.น.ส.ฉวีวรรณ อ่อนหวาน อายุ 33 ปี ครู คศ.2 โรงเรียนบ้านจือแร ต.สากอ อ.สุไหงปาดี 3.นายวลัญช์ หมวกดำ อายุ 39 ปี 4.นางจิตรา มะดาอิง อายุ 53 ปี และ 5.นางเสาวนีย์ ลิมศิริวนนท์ อายุ 50 ปี ซึ่งทั้ง 3 ราย เป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลปะลุรู อ.สุไหงปาดี โดยทั้งหมดถูกกระสุนปืนและเศษกระจกตามลำตัวได้รับบาดเจ็บ
ด้านบรรยากาศเปิดเรียนวันแรกโรงเรียนใน จ.นราธิวาสทั้ง 3 เขตการศึกษาได้เปิดสอนกันตามปกติแล้ว แต่เนื่องจากได้เกิดฝนตกหนักครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอใน จ.นราธิวาส ตั้งแต่คืนวันที่ 16 ธ.ค.ต่อเนื่องถึงเช้าวานนี้จึงเป็นเหตุให้บรรยากาศการเปิดเรียนวันแรกยังมีเด็กนักเรียนเดินทางมาเรียนหนังสือกันไม่เต็มจำนวนเหมือนๆ กันเกือบทุกโรงเรียน
โดยเวลา 08.00 น.นายสามารถ วราดิศัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางมาสุ่มตรวจแผนรักษาความปลอดภัยครูที่โรงเรียนบ้านแกแม หมู่ 9 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ พบว่ามีกำลังตำรวจ สภ.ระแงะ และ อส.จาก อ.ระแงะ ยืนยามคอยเฝ้าระวังภัยกันภายในโรงเรียนอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ ในระหว่างที่นายสามารถ กำลังยืนคุยเพื่อให้กำลังใจแก่ครูนั้น นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ได้โทรศัพท์มือถือสายตรงถึงนายสามารถ เพื่อกำชับให้รักษาความปลอดภัยครูให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดด้วย
**แม่พิมพ์นราธิวาส 14 รายขอย้าย
นายสงวน อินทร์รักษ์ ประธานสมาพันธ์ครูจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ครูไทยพุทธถูกยิงเสียชีวิตอย่างต่อเนื่องทั้งในพื้นที่ จ.นราธิวาส และปัตตานี โดยมีผลกระทบต่อระบบการเรียนการสอนของทุกโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากได้มีการหยุดทำการเรียนการสอนเป็นเวลาหลายวัน ที่สำคัญเหตุที่เกิดขึ้นทำให้บุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะครูไทยพุทธหลายคนเสียขวัญเป็นอย่างมากจนไม่กล้าเดินทางไปสอนหนังสือ ล่าสุดได้มีครูไทยพุทธที่ยื่นความจำนงขอย้ายออกนอกพื้นที่แล้ว 14 ราย
"ส่วนครูมุสลิมขณะนี้ทราบว่าเริ่มมีบางรายที่ทำเรื่องขอย้ายเช่นกัน โดยเฉพาะโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบบ่อยครั้ง ซึ่งจะได้มีการพิจารณาเป็นรายบุคคลอีกครั้งหนึ่ง"
**ครูร.ร.บ้านบาโงยังผวาปิดเรียนต่อ
สำหรับบรรยากาศการเปิดเรียนในพื้นที่ จ.ปัตตานี โรงเรียนกว่า 300 แห่ง มีครู และนักเรียนเดินทางมาโรงเรียนกันตั้งแต่เช้า เพื่อช่วยกันทำความสะอาดโรงเรียน พร้อมกับมีการวางกำลังของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ลงเต็มทุกพื้นที่ โดยได้แบ่งเป็นชุดออกเดินเท้าลาดตระเวนตามเส้นทาง และจัดกำลังคอยประจำจุดเสี่ยงต่อการก่อเหตุต่างๆ ร่วมไปกับการจัดชุดสายตรวจเคลื่อนเร็วใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ออกตรวจตราตามรายทางทุกเส้นทางที่ครู และนักเรียนใช้เป็นเส้นทางสัญจร
ด้าน พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้นำเจ้าหน้าที่ทหารออกตรวจเบี่บมหลายโรงและพบปะครูให้ความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะดูแลให้เกิดความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ส่วนที่โรงเรียนบ้านบาโง ม.1 บ้านบาโง ต.ปานัน อ.มายอ จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่คนร้ายบุกเข้าไปยิงผู้อำนวยการโรงเรียน และครูรวม 2 ศพ ขณะกำลังรับประทานอาหารร่วมกับครูอีก 5 คนในโรงเรียนนั้น ปรากฏว่า บรรยากาศเงียบ โรงเรียนยังคงปิดการเรียนการสอน มีเพียงเจ้าหน้าที่ทหารคอยดูแลรักษาความปลอดภัยเท่านั้น
จากการสอบถามครูโรงเรียนบ้านบาโง บอกว่า ตอนนี้ที่โรงเรียนมีครูอยู่ 5 คนทั้งหมดยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ยังไม่กล้าออกมามาสอน เพราะยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยและยังมีความรู้สึกกลัว เมื่อนึกถึงวันที่เกิดเหตุ เพราะภาพของคนร้ายที่จ่อยิงครูยังติดตาอยู่ ถ้ามั่นใจและครูสบายใจ คาดว่าจะเปิดในวันจันทร์ ที่ 24 ธ.ค.
**มทภ.4 มั่นใจแนวทาง "ดับไฟใต้"
พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ขณะนี้อาจดูเหมือนว่าสถานการณ์รุนแรง แต่จริงๆ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น พวกท่านได้ทำให้ดีขึ้นตามลำดับในภาพองค์รวม แต่ภาพย่อยอาจมีการยิงครูบ้าง เพราะว่าเขาต่อต้านไม่ให้งานที่เราทำประสบความสำเร็จ แต่ขอให้สบายใจได้ว่าสิ่งที่เราเสียสละไปแล้วเกิดผลในอนาคต ซึ่งสิ่งที่เห็นผลคือขบวนการไม่สามารถผลิตคนเข้าไปสู่ขบวนการปฏิวัติและ ขบวนการบีอาร์เอ็นได้ เพราะเราเข้าไปในจุดที่เขาบ่มเพาะได้หมด รอเพียงการเข้าไปปรับความเข้าใจลดความเกลียดชังเรา ส่วนคนที่เดินเข้าไปแล้วทางรัฐบาลได้ส่งผ่านนโยบายในการเปิดทางถอย สร้างสภาวะแวดล้อมที่เกื้อกูลในการออกจากความขัดแย้ง โดยการให้เขายุติการต่อสู้ ขณะนี้มีการออกมาแสดงตัวหลายร้อยคนที่ติดคดีทั้งหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ ป.วิอาญา ประมาณ 115 คน ทางอัยการจะดำเนินการช่วยอยู่ ส่วนที่ดื้อดึงเราจะบังคับใช้กฎหมาย คนที่แข็งขืนก็ดำเนินการปราบปรามตามกฎหมายอย่างจริงจัง