“ประยุทธ์” ขอบคุณกำลังพลจัดพระราชพิธีออกมหาสมาคม ขอให้ทุกหน่วยดำรงการเชื่อมโยงเครือข่ายพลังแห่งความจงรักภักดี ควบคู่ตรวจสอบพฤติกรรมหมิ่นเหม่ต่อสถาบันทางอินเทอร์เน็ต กำชับช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง เร่งดำเนินโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ขยับเป็นเดือน ม.ค. 56 พร้อมกำหนดให้ปีหน้าเป็นปีแห่งพัฒนาการบริหารจัดการและการฝึกของกองทัพบก ภายใต้แนวคิด “ฉลาด รอบรู้ ทันสมัย มีวิสัยทัศน์”
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เมื่อเวลา 16.00 น. พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานการประชุมว่า ผบ.ทบ.ได้ขอบคุณกำลังพลทุกนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพระราชพิธีเสด็จออก ณ มหาสมาคม เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 ที่ปฏิบัติได้อย่างเรียบร้อยสมพระเกียรติ และประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดในการแสดงถึงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งให้ทุกหน่วยได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสที่พระราชทานในวโรกาสดังกล่าวไปสู่การปฏิบัติในทุกวาระทุกโอกาส โดยเฉพาะความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคงปลอดภัย เนื่องจากพระราชดำรัสในหลายเรื่องมีคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติและประชาชน จึงได้มอบให้กรมกิจการพลเรือนทหารบกดำเนินการรวบรวมพระราชดำรัสที่สำคัญในแต่ละด้านจัดทำเป็นเอกสารแจกจ่ายกำลังพลเพื่อให้ศึกษาทำความเข้าใจและนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและการดำเนินชีวิต รวมถึงเผยแพร่ให้แก่ประชาชนด้วย
“เรื่องการปกป้องสถาบันนั้น ทางกองทัพบกได้ดำเนินการในหลายด้านโดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจ และการเผยแพร่ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยกลุ่มพลังมวลชนได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ผบ.ทบ. จึงขอให้ทุกหน่วยดำรงการเชื่อมโยงเครือข่ายพลังแห่งความจงรักภักดี ควบคู่ไปกับการตรวจสอบพฤติกรรมที่หมิ่นเหม่ต่อสถาบัน” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน ผบ.ทบ.ได้กำชับให้ทุกหน่วยดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือ การรณรงค์ปลูกจิตสำนึกและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรู้คุณค่า และรู้จักการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างถูกต้อง การแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตร โดยประสานการปฏิบัติกับทางจังหวัดอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเร่งรัดดำเนินโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2556 จากเดิมที่ปฏิบัติในเดือนมีนาคม เป็นเดือนมกราคม 2556
สำหรับการแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืนนั้น ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้หน่วยทหารในทุกพื้นที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดยใช้ข้อมูลจากการเข้าไปรับฟังปัญหาของประชาชนและชุมชนในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้กองทัพบกเตรียมส่งหน่วยทหารช่าง เข้าดำเนินโครงการ “ขุดลอกคูคลองและพัฒนาแหล่งน้ำ” ตามที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ปฏิบัติงานเพื่อดำเนินการขุดลอกคูคลอง, การทำแก้มลิง, การขุดบ่อกักเก็บน้ำ รวมทั้งระบบระบายน้ำ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่ง ผบ.ทบ.ได้กำชับในเรื่องการกำหนดพื้นที่ที่จะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น การทำงานต้องมีรูปแบบที่ชัดเจนใช้งบประมาณที่ได้รับมาอย่างคุ้มค่าและโปร่งใส ทั้งนี้ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินฝนทิ้งช่วงและภัยแล้งแล้วจำนวน 22 จังหวัด ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกได้แจกจ่ายน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และเพื่อการเกษตรแล้วจำนวน 517 เที่ยว ปริมาณน้ำทั้งสิ้น 3,153,500 ลิตร รวมทั้งล่าสุดเกิดเหตุอุทกภัยจากพายุใต้ฝุ่นโบพาที่สร้างความสูญหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินให้กับประเทศฟิลิปปินส์นั้น กองทัพบกได้มีหนังสือแสดงความเสียใจไปยังกองทัพบกฟิลิปปินส์ พร้อมแสดงเจตจำนงในการช่วยเหลือตามที่ฟิลิปปินส์ร้องขออีกด้วย
นอกจากนี้ กองทัพบกกำหนดให้ในปีงบประมาณ 2556 เป็นปีแห่งพัฒนาการ บริหารจัดการและการฝึกของกองทัพบก ที่มุ่งไปสู่ผลสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ทบ. ที่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการปฏิบัติงานและการพัฒนาการฝึกของกองทัพบกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด “ฉลาด รอบรู้ ทันสมัย มีวิสัยทัศน์ โดยกำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนใน 8 กลยุทธ์ ครอบคลุมด้านกำลังพล ด้านการข่าว ด้านยุทธการ ด้านการส่งกำลังบำรุง ด้านการกิจการพลเรือน ด้านปลัดบัญชี ด้านการฝึก รวมถึงกลยุทธ์การก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งกลยุทธ์ทั้งหมดจะมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาของหน่วยงานอย่างเป็นระบบ มีความทันสมัย และตอบสนองในทุกภารกิจ