รองโฆษก ทบ.เผยเชิญนายกฯ เปิดทางหลวง 410 ยะลา-เบตง ระบุส่งทหารช่างช่วยชลประทานราบรื่น ชี้ ภาค 3 ยังไม่ยืนยันรายละเอียดจับอาร์พีจีท่าขี้เหล็ก รอประสานพม่า แต่รับไม่ยุ่ง “เหลิม” ปูดคนไทยจ้าง แต่รับจับกุมอาวุธสงครามชายแดนมีบ่อย พร้อมเข้มงวดแล้ว
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า ทางกองทัพจะเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 สายยะลา-เบตง ตอนสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำบางลาง บ.ฆอแย-บาตา ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ภายหลังจากที่ทางกรมการทหารช่าง กองทัพบก ได้ดำเนินก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยถนนสายดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมถนนหมายเลข 410 ส่วนที่ลัดเลาะบริเวณท้ายเขื่อนที่มีความคดเคี้ยวเข้าด้วยกัน เป็นถนนผิวแอสฟัลติกคอนกรีต รับน้ำหนัก 21 ตัน มี 2 ช่องการจราจร ผิวจราจรรวมไหลกว้าง 12 ม. ยาว 1,821 ม. และสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง แบ่งเป็นกว้าง 12 ม. ยาว 40 ม. และกว้าง 12 ม. ยาว 264 ม. ระยะทางตลอดสาย 2,125 ม. โดยประหยัดเวลาในการเดินทางได้ประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ในส่วนของถนนที่จะสร้างต่อจากสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กผ่านอ่างเก็บน้ำบางลางนั้นจะต้องทีการดำเนินการเจาะอุโมงค์ผ่านภูเขา ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการสำรวจว่าจะคุ้มค่าต่อการสร้างหรือไม่ หากดำเนินการแล้วเสร็จจะประหยัดระยะเวลาของเส้นทางได้ 9.5 กม. หรือประมาณ 30 นาที
รองโฆษกกองทัพบกแถลงว่า หลังจากที่กองทัพบกได้รับมอบหมายให้สนับสนุนโครงการ 3 โครงการ คือ โครงการขุดลอกตะกอนดินในบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ โครงการขุดลอกคลองน้ำไหลในพื้นที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และโครงการสนับสนุนซ่อมแซมและบำรุงรักษาของกรมชลประทานนั้น ทางกองทัพบกได้มอบหมายให้กรมการทหารช่าง และกองทัพภาคต่างๆ เข้าดำเนินการทันที โดยประสานแผนงานร่วมกับส่วนราชการองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ทำให้มีความคืบหน้าของงานโครงการอย่างต่อเนื่อง
พ.ท.วันชนะกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการขุดลอกคลองน้ำไหลและสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำ เป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 และกรมการทหารช่าง โดยมีระยะทางในการขุดลอกทั้งหมดประมาณ 40 กม. ตั้งแต่ จ.สุโขทัย จ.อุตรดิตถ์ไปจนถึง จ.พิษณุโลก ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบการขุดลอกตั้งแต่บ้านบางนา ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ไปจนถึงบ้านดง ต.พญาแมน อ.พิชัย ในส่วนของกรมการทหารช่างรับผิดชอบตั้งแต่บ้านดงไปจนถึงบ้านวังไม้แก่น อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยจะกำจัดสิ่งกีดขวาง เช่น ตะกอนดิน วัชพืช สิ่งปฏิกูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจาก จ.อุตรดิตถ์ลงมาสู่ด้านล่างได้เร็วขึ้น รวมทั้งให้ประชาชนที่อาศัยตลอดลำคลองได้มีน้ำใช้ในฤดูแล้ง และน้ำไม่ท่วมขังในฤดูน้ำหลาก ซึ่งเป็นการป้องกันและลดปัญหาอุทกภัยในภาพรวม โดยขณะนี้ได้ขุดลอกได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ก่อนการปฏิบัติงานได้ส่งทหารเข้าชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนที่อาศัยบริเวณดังกล่าวได้ทราบถึงแผนการทำงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ชาวบ้านมีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการดูแลคูคลอง เช่น การปลูกหญ้าแฝกป้องกันหน้าดินพังทลาย เก็บขยะและสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งเป็นไปตามแผนงานในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและยังช่วยป้องกันการเกิดน้ำท่วมในระยะยาว
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการจับกุมอาวุธสงครามโดยเฉพาะจรวดอาร์พีจี บริเวณ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ว่าทางกองทัพบกได้สอบถามกองทัพภาคที่ 3 แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลยังเป็นข้อมูลที่ปรากฏตามข่าวผ่านสื่อมวลชน ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 3 กำลังดำเนินการหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ ทั้งนี้ในการดำเนินการอย่างเป็นทางการนั้นจะต้องเป็นการขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่า เพราะเป็นผู้ที่จับกุมอาวุธสงครามเหล่านั้นได้ ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีคนไทยเป็นผู้จ้างวานคนไทยใหญ่ลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นคงไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจไทยและกองกำลังผาเมืองในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวทางหน่วยงานของพม่าดำเนินการเพราะเป็นผู้จับกุมได้
“ต้องยอมรับว่าอาวุธสงครามในพื้นที่ชายแดนมีอยู่จำนวนมาก มีการจับกุมและยึดได้บ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้มีการจับกุมอาวุธสงครามล็อตใหญ่ได้ที่ จ.เชียงราย เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของกองกำลังชนกลุ่มน้อย ซึ่งอาจจะมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง ความจำเป็นที่จะต้องใช้อาวุธสงครามของคนเหล่านี้เพื่อคุ้มครองตนเองยังมีอยู่ รวมทั้งยังมีความพยายามต่อต้านเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ประวัติการจับกุมบริเวณชายแดนด้านเหนือยังมีอยู่ แต่กองทัพบกได้กำชับให้ 7 กองกำลังชายแดน เข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้” พ.อ.วินธัยกล่าว
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า ทางกองทัพจะเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 สายยะลา-เบตง ตอนสะพานข้ามอ่างเก็บน้ำบางลาง บ.ฆอแย-บาตา ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ภายหลังจากที่ทางกรมการทหารช่าง กองทัพบก ได้ดำเนินก่อสร้างแล้วเสร็จ โดยถนนสายดังกล่าวเป็นเส้นทางเชื่อมถนนหมายเลข 410 ส่วนที่ลัดเลาะบริเวณท้ายเขื่อนที่มีความคดเคี้ยวเข้าด้วยกัน เป็นถนนผิวแอสฟัลติกคอนกรีต รับน้ำหนัก 21 ตัน มี 2 ช่องการจราจร ผิวจราจรรวมไหลกว้าง 12 ม. ยาว 1,821 ม. และสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง แบ่งเป็นกว้าง 12 ม. ยาว 40 ม. และกว้าง 12 ม. ยาว 264 ม. ระยะทางตลอดสาย 2,125 ม. โดยประหยัดเวลาในการเดินทางได้ประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ในส่วนของถนนที่จะสร้างต่อจากสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กผ่านอ่างเก็บน้ำบางลางนั้นจะต้องทีการดำเนินการเจาะอุโมงค์ผ่านภูเขา ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการสำรวจว่าจะคุ้มค่าต่อการสร้างหรือไม่ หากดำเนินการแล้วเสร็จจะประหยัดระยะเวลาของเส้นทางได้ 9.5 กม. หรือประมาณ 30 นาที
รองโฆษกกองทัพบกแถลงว่า หลังจากที่กองทัพบกได้รับมอบหมายให้สนับสนุนโครงการ 3 โครงการ คือ โครงการขุดลอกตะกอนดินในบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ โครงการขุดลอกคลองน้ำไหลในพื้นที่ จ.สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ และโครงการสนับสนุนซ่อมแซมและบำรุงรักษาของกรมชลประทานนั้น ทางกองทัพบกได้มอบหมายให้กรมการทหารช่าง และกองทัพภาคต่างๆ เข้าดำเนินการทันที โดยประสานแผนงานร่วมกับส่วนราชการองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ทำให้มีความคืบหน้าของงานโครงการอย่างต่อเนื่อง
พ.ท.วันชนะกล่าวต่อว่า สำหรับโครงการขุดลอกคลองน้ำไหลและสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำ เป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 3 และกรมการทหารช่าง โดยมีระยะทางในการขุดลอกทั้งหมดประมาณ 40 กม. ตั้งแต่ จ.สุโขทัย จ.อุตรดิตถ์ไปจนถึง จ.พิษณุโลก ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบการขุดลอกตั้งแต่บ้านบางนา ต.คอรุม อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ไปจนถึงบ้านดง ต.พญาแมน อ.พิชัย ในส่วนของกรมการทหารช่างรับผิดชอบตั้งแต่บ้านดงไปจนถึงบ้านวังไม้แก่น อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยจะกำจัดสิ่งกีดขวาง เช่น ตะกอนดิน วัชพืช สิ่งปฏิกูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจาก จ.อุตรดิตถ์ลงมาสู่ด้านล่างได้เร็วขึ้น รวมทั้งให้ประชาชนที่อาศัยตลอดลำคลองได้มีน้ำใช้ในฤดูแล้ง และน้ำไม่ท่วมขังในฤดูน้ำหลาก ซึ่งเป็นการป้องกันและลดปัญหาอุทกภัยในภาพรวม โดยขณะนี้ได้ขุดลอกได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ก่อนการปฏิบัติงานได้ส่งทหารเข้าชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนที่อาศัยบริเวณดังกล่าวได้ทราบถึงแผนการทำงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ชาวบ้านมีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการดูแลคูคลอง เช่น การปลูกหญ้าแฝกป้องกันหน้าดินพังทลาย เก็บขยะและสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งเป็นไปตามแผนงานในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ทำให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและยังช่วยป้องกันการเกิดน้ำท่วมในระยะยาว
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการจับกุมอาวุธสงครามโดยเฉพาะจรวดอาร์พีจี บริเวณ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ว่าทางกองทัพบกได้สอบถามกองทัพภาคที่ 3 แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ซึ่งข้อมูลยังเป็นข้อมูลที่ปรากฏตามข่าวผ่านสื่อมวลชน ซึ่งขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 3 กำลังดำเนินการหาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ ทั้งนี้ในการดำเนินการอย่างเป็นทางการนั้นจะต้องเป็นการขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจพม่า เพราะเป็นผู้ที่จับกุมอาวุธสงครามเหล่านั้นได้ ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีคนไทยเป็นผู้จ้างวานคนไทยใหญ่ลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้นคงไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจไทยและกองกำลังผาเมืองในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง เนื่องจากเรื่องดังกล่าวทางหน่วยงานของพม่าดำเนินการเพราะเป็นผู้จับกุมได้
“ต้องยอมรับว่าอาวุธสงครามในพื้นที่ชายแดนมีอยู่จำนวนมาก มีการจับกุมและยึดได้บ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้มีการจับกุมอาวุธสงครามล็อตใหญ่ได้ที่ จ.เชียงราย เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของกองกำลังชนกลุ่มน้อย ซึ่งอาจจะมีเรื่องยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง ความจำเป็นที่จะต้องใช้อาวุธสงครามของคนเหล่านี้เพื่อคุ้มครองตนเองยังมีอยู่ รวมทั้งยังมีความพยายามต่อต้านเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ประวัติการจับกุมบริเวณชายแดนด้านเหนือยังมีอยู่ แต่กองทัพบกได้กำชับให้ 7 กองกำลังชายแดน เข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้” พ.อ.วินธัยกล่าว