xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ยื่น ปปง.สอบ รบ.ฟอกเงินจำนำข้าว แฉตัวละครใหม่ “สุธี” บริษัท “ส.” ร่วมโกง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หมอวรงค์” ชี้ช่องหลังยื่น ปปง. ซัดใช้จีทูจีบังหน้า หลอกเปิดแอลซีค้าข้าวสุกลต่างประเทศ สอบแล้วเป็นในประเทศ โยงถึง บ.สยามอินดิก้า ผ่านเช็ค 4 ธนาคาร ข้องใจข่ายฟอกเงิน เผยข้อมูลใหม่ “สุธี” โอนเงินกว่า 600 ล้าน จนถึงบริษัท “ส.” แฉทุนจดทะเบียนพุ่งจากหลักล้านเป็นพันล้านสอดรับจำนำข้าว แถมยักย้ายเงินถึง ธ.กสิกรกว่า 700 ล้าน เพื่อซื้อหน่วยลงทุนใกล้เคียง “สุธี” โอนเข้าบริษัท “ส.” แต่ไม่เกี่ยวสยามอินดิก้า รองเลขาฯ ปปง.ยันไม่กดดัน คาดเข้าที่ประชุมสอบต้นปี เตือน กม.ใหม่ผิดจริงธนาคารอาจโดนด้วย รบ.โดนสองเท่า ปัดตอบ “บุญทรง” ต้องรับผิดชอบ


วันนี้ (4 ธ.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือต่อ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ตรวจสอบบัญชีอันเป็นความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน เกี่ยวกับการโครงการจำนำข้าวที่ใช้ระบบจีทูจีบังหน้า แต่เป็นการขายข้าวแต่เป็นการขายข้าวภายในประเทศผ่านบริษัท จีเอสเอสจีฯ และผ่านตัวบุคคล โยงใยไปถึงบริษัทสยามอินดิก้า โดยมี ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการ ปปง.เป็นผู้รับหนังสือแทน

นพ.วรงค์กล่าวว่า การทำสัญญาจีทูจี เงินที่จะชำระค่าข้าวจะต้องมีการเปิดแอลซี ซึ่งโดยทั่วไปส่วนใหญ่จะเป็นสกุลเงินจากต่างประเทศ จากการตรวจสอบบริษัทสยามอินดิก้า ซึ่งอ้างว่าขายให้จีนล็อตแรกก็เป็นเงินสกุลต่างประเทศ แต่จากหลักฐานที่ได้มากลับกลายเป็นบัญชีภายในประเทศทั้งหมด โดยมีการโอนเงินเข้ากรมการค้าต่างประเทศเป็นเช็คจาก 4 ธนาคาร คือ ธนาคารกรุงเทพ, กรุงไทย, กสิกรไทย และ ไทยพาณิชย์ รวมทั้งยังมีที่แยกธนาคารไม่ได้ โดยข้อมูลตั้งแต่ 8 ต.ค. - 9 พ.ย. 55 มีเงินเข้าบัญชี 6,743 ล้านบาท และ ข้อมูลก่อนหน้านี้ คือ ช่วง 28 ก.ย. - 12 ต.ค. มีเงินเข้า 4,960 ล้านบาท จากเช็คของ 4 ธนาคาร โดยเชื่อว่าไม่ใช่เงินแอลซีจากรัฐบาลต่างประเทศแน่นอน จึงต้องตรวจสอบว่ารัฐบาลกำลังพัวพันกับการฟอกเงินในโครงการระบายข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่

นอกจากนี้ยังพบข้อมูลใหม่ คนชื่อ “สุธี” โอนเงินจากธนาคารกสิกรไทย ไปที่บัญชีธนาคารกรุงไทยของ “สุธี” สาขารัชดาภิเษก ในวันที่ 9 พ.ย. จำนวน 200 ล้านบาท และอีกรายการ โอนเงิน 430 ล้านบาท รวมเป็น 630 ล้านบาท โดยพบความผิดปกติที่โอนในตอนเช้า แต่ตอนบ่ายเงินก็หายไป ซึ่งไปพบว่าเงินดังกล่าวเข้าไปที่ บริษัท “ส.” ซึ่งประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม แก๊งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการค้าข้าวแต่กลับโยงใยกัน โดยบริษัท “ส.” มีความใกล้ชิดกับ บริษัทสยามอินดิก้า โดยบริษัท “ส.” มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นแค่หลักล้าน แต่เพียงไม่กี่เดินกลับเพิ่มขึ้นเป็น 1-2 พันล้านบาท ในช่วงที่สอดคล้องกับการระบายข้าวของรัฐบาล

ทั้งนี้พบว่า บริษัทเงินบริษัท “ส.” เข้าไปซื้อหน่วยลงทุน “เคแทม” เพื่อซื้อหน่วยลงทุนของธนาคารไทยพาณิชย์ จากนั้นจึงมีการขายออก ไม่นานจากนั้นจึงมีการสั่งเช็คมีเช็คสั่งจ่ายให้กรมการค้าต่างประเทศ จากธนาคารกสิกรไทย ราคา 700 กว่าล้านบาท ใกล้เคียงกับเงินที่นายสุธีโอนเข้าบริษัท “ส.” ก่อนที่จะเข้าไปซื้อหน่วยลงทุน 630 ล้านบาท และจากการตรวจสอบคาดว่าน่าจะมีเงินเข้าไปบางส่วนก่อนเงิน 630 ล้านบาทจะเข้าไปซื้อหน่วยลงทุนแล้ว ทั้งนี้จึงได้นำเอกสารหลักฐานทั้งหมดมอบให้กับทาง ปปง.เพื่อตรวจสอบต่อไป

ร.ต.อ.หญิง สุวนีย์กล่าวว่า ไม่มีใครกดดันการทำงานของ ปปง.ได้ เพราะทั้งหมดมีหลักฐานเอกสารชัดเจน ถ้าจะกดดดันก็คงทำอะไรไม่ได้มาก ซึ่งขอให้ติดตามว่า ปปง.ทำงานเป็นกลางหรือไม่ และถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ก็ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ ไม่ถูกบิดเบือน

ทั้งนี้ เมื่อได้รับเรื่องแล้วจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมซึ่งจะมีการประชุมเดือนละ 2 ครั้ง ครั้งหน้าในวันที่ 18 ธ.ค. คาดว่าไม่น่าจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมได้ทัน แต่น่าจะนำเข้าพิจารณาได้ในต้นปี ซึ่งไม่คิดว่าช้าเกินไปหรือจะเกิดปัญหาการทำลายหลักฐานเนื่องจาก เอกสาร สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ซึ่งยืนยันว่าจะตรวจสอบจนถึงที่สุด

ร.ต.อ.หญิง สุนีย์กล่าวว่า ในส่วนของธนาคารรัฐที่เข้าไปพัวพันกับการฟอกเงิน ตามกฎหมายหมายที่กำลังจะออกมา ธนาคารจะมีความผิด ทั้งนี้ยังเชื่อว่าจะได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยการเกี่ยวข้องมีหลายรูปแบบ เกี่ยวข้องโดยตรงกับการฟอกเงิน ไม่รายงานการทำธุรกรรม โทษก็จะต่างกัน

สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินก็จะมีโทษอาญา แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่รายงานธุรกรรมก็จะเป็นโทษปรับครั้งละ 5 แสนบาท วันละไม่เกิน 5 พันบาท และถ้าพบว่ารัฐบาลเป็นผู้กระทำความผิดก็มีอัตราโทษสูงกว่าบุคคลธรรมดาสองเท่า อย่างไรก็ตาม ไม่ขอตอบว่าความรับผิดชอบจะต้องไปถึง รมว.พาณิชย์หรือไม่ เพราะต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง






กำลังโหลดความคิดเห็น