ความหวังอยู่ที่ป.ป.ช.-ศาล !!

เกาะกระแส

00 แม้ว่ารัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะผ่านศึกซักฟอกจากฝ่ายค้านไปได้แบบสะดวกไม่ต้องลุ้นตามคาดหมาย เพราะด้วยระบบ “นายกับลูกน้อง” มันก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เพราะสภาเท่าที่เห็น ไม่ใช่เป็นสภาตรวจสอบ แต่ถ้าพิจารณาจากความรู้สึก เท่าที่เห็นมันก็ไม่ต่างจาก “สภาทาส” ในอดีต เพราะตั้งแต่ประธานสภาผู้แทนคือ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่ก่อนหน้านี้ทำดัดจริตสร้างสัญลักษณ์เป็น “ขุนค้อน” ผดุงความยุติธรรม แต่เมื่อความแตกจากพฤติกรรมที่ประจานออกมาทุกวัน มันก็เป็นได้แค่ “ลูกน้อง” และค้อนที่เคยวางอยู่มันก็เป็นแค่ “ค้อนปลอม” เหมือนอย่างที่สื่อสภาให้ฉายานั่นแหละ

00 ดังนั้นอย่าไปหวังอะไรกับระบบรัฐสภาที่เป็นอยู่ เพราะถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ระบบการถ่วงดุลตามเจตนารมณ์เดิมถือว่าได้ตายจากไปนานแล้ว กลายเป็นว่าฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลได้ “ครอบงำสภา” แทบจะสิ้นเชิงแล้ว ขณะเดียวกันนี่ถือว่าเป็นรุกเข้ามายึดกุมได้อย่างเบ็ดเสร็จอีกครั้งของ ทักษิณ ชินวัตร เพียงแต่เป็นลักษณะ “ชักใย” อยู่ข้างนอกและ “อำพราง” ได้แนบเนียนกว่าเท่านั้นเอง

00 อย่างไรก็ดี ความหวังยังมีหากจะต้องการตรวจสอบ “คัดง้าง” กับรัฐบาลของระบอบทักษิณ ก็มีความหวังเดียวก็คือ จากองค์กรอิสระและระบบศาลเท่านั้น เพราะจะไปหวังระบบรัฐสภาไม่ได้เลย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือกรณี “ทุจริตจำนำข้าว” ที่แม้ว่าฝ่ายค้านอย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะนำหลักฐานทั้งตัวบุคคล เส้นทางการโอนเงินออกมาเปิดโปงให้เห็นกันจะจะแค่ไหนก็ตาม แต่ในที่สุดพวกส.ส.ทั้งหลาย ก็หลับหูหลับตายกมือสนับสนุนไว้วางใจแบบไร้ยางอาย ขนาดตัว นายกฯยิ่งลักษณ์ ที่ตอบคำถามแบบไปไหนมาสามวาสองศอก “ลอยตัว” อ้างมอบหมายให้รมต.รับผิดชอบแบบ “บูรณาการ” ผลงานทั้งในและนอกสภา “ห่วยแตก” แค่ไหนผลที่ออกมาก็ได้เสียงหนุนแบบถล่มทลาย แต่ก็อย่างว่าแหละ “เรื่องราวยังไม่จบ” เนื่องจากกำลังเข้าสู่การตรวจสอบที่เข้มข้นจาก ป.ป.ช.นี่แหละที่ถือว่า ไม่ธรรมดา

00 ตามขั้นตอนหลังจากที่ฝ่ายค้านได้มอบหลักฐานการทุจริตทั้งหมดให้กับ ป.ป.ช.เพื่อพิจารณาต่อไป และเมื่อ ป.ป.ช.มีการตรวจสอบทุกอย่างตามขั้นตอน หาก “ชี้มูลความผิด” เมื่อไหร่นั่นแหละ ถือว่า “แจ็กพ็อต” มีผลกระทบตามมาอย่างใหญ่หลวง ซึ่งนั่นก็หมายความว่า จะมีรมต.บางคนอาจต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จนกว่าจะมีการชี้ขาดออกมา เท่าที่มีลุ้นก็คือ “นายกฯปูนิ่ม” ในฐานะหัวหน้าคณะ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ในฐานะ รมว.พาณิชย์ ในฐานะที่ “รับงาน” มาปฏิบัติ

00 สำหรับเรื่องจำนำข้าวถือว่าเป็น “กรณีพิเศษ” หากจำกันได้ ที่ผ่านมาทาง ป.ป.ช.ได้เกาะติดมาตลอด และถึงกับเคยเสนอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ามีการทุจริตกันอย่างมโหฬารรวมทั้งมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาอย่างต่อเนื่อง เรื่องแบบนี้แหละถือว่าน่าหวาดเสียวที่สุด และเมื่อพิจารณาจากหลักฐานเท่าที่มีอยู่มันก็เข้าเค้าเสียด้วย

00 อีกคนหนึ่งที่ต้องลุ้นระทึกไม่แพ้กันก็คงจะเป็น รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต กรณีสั่งถอดยศ “ร้อยตรี” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อ้างว่าใช้เอกสารเท็จเข้ารับราชการ แต่ก็ได้รับการตอบโต้นำเรื่องไปร้องกับศาลปกครองว่าเป็นคำสั่งมิชอบมีเจตนาทำลายทางการเมือง และศาลก็รับฟ้องเอาไว้พิจารณาเสียด้วยซิ แม้ว่าตามขั้นตอนต้องใช้เวลาพักใหญ่แต่ก็คงไม่นานนัก แต่แค่ “รับฟ้อง” มันก็หนาวแล้ว เพราะนั่นหมายความว่า หลักฐานเบื้องต้นรับฟังได้ หนาวมั๊ยละ โอ๋ !!

00 ผ่านมาสองสามคืนแล้ว สำหรับ ก่อแก้ว พิกุลทอง ที่เรียกว่า “ตายเพราะปากดี” แท้ๆ อาจเป็นเพราะต้องอัพเกรดขึ้นมาให้โดดเด่น “เพิ่มราคา” ให้ตัวเองหรือเปล่าไม่รู้ ถึงกล้าเสี่ยงพูดจาข่มขู่ศาลรธน. ตอนพูดมันก็ดูสนุก เพราะมีพวกเสื้อแดงด้วยกันส่งเสียงปรบมือ แต่นั่นแหละเมื่อคำพูดเป็นนาย มีคนไปร้องศาลให้ถอนประกันตัว ผลมันก็ออกมาอย่างที่เห็นต้องไปนอนในคุก แม้ว่าด้วยเส้นสายและสถานะอาจจะสะดวกสบายกว่าคนอื่น แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่เหมือนนอนกับเมียที่บ้านข้างนอก ไม่เช่นนั้นคงไม่มีข่าวนอนไม่หลับหรอก สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าศาลเอาจริงก็จะทำให้ทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น อย่างน้อยก็เป็นการกำหราบคนพวกนี้ไม่ให้เหิมเกริมมากไปกว่านี้ !!