xs
xsm
sm
md
lg

“ชวนนท์” ซัด รบ.ตั้ง คกก.ฟอกโกงจำนำข้าว จี้เยียวยาครู จชต.เท่าแดง เย้ย “ปึ้ง” มั่วอำนาจศาลโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษก ปชป.แนะ “ปู” ขยายผลฝ่ายค้านซักฟอก หากจริงใจปราบทุจริตจำนำข้าว-โกงงบน้ำท่วม-กินงบเกษตร ดักนิ่งถือว่าหากินกับคนจนเพื่อพรรคพวก ซัดตั้ง คกก.สอบอภิปรายแค่แก้เกี้ยว เชื่อไร้คนผิด ทำแค่ปาหี่ แนะใช้ ปปง.-ป.ป.ช.ยุติธรรมกว่า ท้าสอบ “เสี่ยเปี๋ยง” เอี่ยวทุจริตจำนำข้าว แต่เชื่อ “ปู” นิ่งหวั่นโยง “แม้ว” สะกิดนายกฯลงชายแดนใต้ให้กำลังใจ ขรก.บี้เยียวยาเท่าเทียมแก๊งแดง อัด “สุรพงษ์” โกหกอำนาจไอซีซีแดง ยัน “มาร์ค-สุเทพ” ไม่เข้าข่าย เรื่องยังอยู่ศาลไทย

วันนี้ (2 ธ.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน ที่เชื่อมโยงไปถึงการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาล ว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันจริงต้องนำไปขยายผลในสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปราย โดยเฉพาะใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1.โครงการรับจำนำข้าว ที่มีหลักฐานชัดเจนว่าการซื้อขายข้าวระหว่างรัฐบาลไทยกับจีนไม่เป็นความจริง แต่เป็นการปล่อยให้เอกชนมาสวมสิทธิ์ ซื้อในราคาถูกเพื่อไปขายในราคาแพง รวมถึงมีการเวียนเทียนการจำนำข้าว 2.กรณีการคอร์รัปชันงบฟื้นฟูภัยพิบัติ ภายหลังอุทกภัย 3.กรณีงบพยุงสินค้าการเกษตร ซึ่งนอกจากจะไม่ทำให้สินค้าการเกษตรสูงขึ้นแล้ว ยังมีการทุจริตในโครงการที่จะช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งนี้ รัฐบาลต้องอย่าให้มีขบวนการหากินกับความยากลำบากของประชาชน โดยหากรัฐบาลยังไม่มีการดำเนินการอะไรจะถือว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ใช่รัฐบาลเพื่อคนยากจนแต่อย่างใด ตรงข้ามที่มีการเอาคนจนมาอ้างเพื่อสร้างโอกาสโกงกินแก้พรรคพวกของตนเองเท่านั้น และตนอยากให้เกษตรกรคนจนตาสว่างกับเรื่องนี้ และเลิกคาดหวังกับโครงการประชานิยมที่ปันเศษเงินมาให้ ในขณะที่เงินก้อนใหญ่รัฐบาลและพรรคพวกนำไปบริหารเอง

นายชวนนท์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลระบุว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจากสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปรายนั้น ตนมองว่า เป็นเพียงแค่การแก้เกี้ยว เป็นปาหี่หลอกประชาชน เพราะคนที่สมรู้ร่วมคิดกับการคอร์รัปชันอยู่ในฝ่ายบริหารทั้งนั้น เปรียบเสมือนการตั้งคนของตัวเองมาสอบสวนตัวเอง และผลที่ได้จากการสอบสวนในครั้งนี้คงคาดเดาได้ไม่ยากว่าจะไม่มีคนผิด เป็นเพียงการฟอกขาวให้คนของตัวเอง

“ถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จริงใจในการเอาผิดผู้ที่คอร์รัปชันจริง ต้องให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงสั่งการให้หน่วยงานที่อยู่ในการดูแลของรัฐบาล อาทิ คณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าไปตรวจสอบ ข้อมูลตามที่ฝ่ายค้านเสนอ อย่าไปตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษตรวจสอบตัวเอง เพราะนั้นเป็นเพียงวิธีการเอาตัวรอด” นายชวนนท์ กล่าว

นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องตอบสังคมให้ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับกรณีบริษัท สยามอินดิก้า ที่มีนายอภิชาต จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” เป็นเจ้าของ โดยบริษัทนี้ได้สิทธิ์จากรัฐบาลเพื่อซื้อข้าว ซึ่งสอดคล้องกับกรณีหลักฐานการจ่ายเงินภายในประเทศ เพราะไม่ได้มีการเปิดแอลซีจากต่างประเทศจริง มากกว่านั้น นายอภิชาต ยังปรากฏตัวคู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศฮ่องกง ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ดังนั้น จึงต้องถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า กล้าตรวจสอบบริษัท สยามอินดิก้า หรือไม่ เพราะข้อมูลหลักฐานในเรื่องนี้ครบถ้วน แต่สิ่งเดียวที่จะกีดกันไม่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ลงไปตรวจสอบก็น่าจะเป็นภาพที่นายอภิชาต เคียงข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นเอง

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหาใน3 จังหวัดชายแดน ว่า จากกรณีที่สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าพบ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มเงินเยียวยาให้กับผู้ที่เสียชีวิตในพื้นที่จำนวนรายละ 4 ล้านบาท และขอให้ปรับเบี้ยเสี่ยงภัยให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่นั้น เรื่องนี้ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลรีบนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็ว เพราะข้าราชการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทำเพื่อประเทศ รัฐบาลไม่ควรละเลย เพราะขนาดคนเสื้อแดงที่ทำเพื่อรัฐบาล ยังได้เงินเยียวยาถึง 7.75 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ให้ประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง และอยากให้นายกรัฐมนตรีแก้ปัญหาอย่างจริงจังและจริงใจ

นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ออกมาประกาศว่า จะรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) เพื่อนำตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีเกี่ยวกับเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ปี 2552-2553 ว่า การประกาศของ นายสุรพงษ์ ถือว่าขัดกับข้อเท็จจริง และเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงโจ๊กทางการเมืองระดับชาติ และเป็นการต้มคนเสื้อแดงเท่านั้น เพราะข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศ ก็ระบุแล้วว่า กรณีของ นายอภิสิทธิ์ และ นายสุเทพ ไม่เข้าข่าย เนื่องจากขณะนี้คดียังดำเนินการอยู่ในศาลยุติธรรมไทย และตนเห็นว่า คดีที่เข้าข่ายที่จะให้ไอซีซีดำเนินการ คือ คดีฆ่าตัดตอนสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร คดีตากใบและกรือเซะ ที่ตนได้ไปยื่นเรื่องไว้แล้ว

“หาก นายสุรพงษ์ ต้องการรับเขตอำนาจศาล หรือลงสัตยาบัน ต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เพื่อเป็นการยอมรับอำนาจไอซีซีเหนืออธิปไตยไทย และต้องมีการแก้ไขกฎหมายภายในประเทศอีกอย่างน้อย 4 ฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายของไอซีซี” นายชวนนท์ กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น