xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” โวซักฟอกจน รบ.ใบ้กิน บอก “สุกำพล” เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะติดคุก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
“อภิสิทธิ์” ฉะ ตร.เลือกสกัดผู้ชุมนุม รบ.ใช้แก๊สน้ำตาไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานของสังคม ซัด “ปู” แหลปรองดอง-ประชาธิปไตย เผย ศาล ปค.รับเรื่อง “สุกำพล” ออกคำสั่งโดยไม่ชอบแล้ว เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะติดคุก ยัน “แม้ว” เข้าหลักเกณฑ์ถอดยศ ปูด “ทักษิณ” ส่งสัญญาณลุย รื้อ รธน.-เดินหน้ากฎหมายล้างผิด

วันที่ 1 ธ.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในการปราศรัยเวที “เดินหน้า ผ่าความจริง สจฺจํ เว อมตา วาจา ความจริงไม่มีวันตาย” ที่วัดแจ้งศิริสัมพันธ์ ถ.สนามบินน้ำ-นนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทุบรี ว่า เสาร์ที่แล้ว มีการชุมนุมใหญ่ของภาคประชาชน นำโดย พล.อ.บุญเลิศ หรือ เสธ.อ้าย ซึ่งก็มีการชุมนุมนัดหมาย แล้วก็เป็นการชุมนุมครั้งที่ 2 เพราะเขาเคยชุมนุมมาแล้วครั้งหนึ่งที่สนามม้านางเลิ้ง พรรคประชาธิปัตย์นั้น เราติดตามสถานการณ์ตลอด เพราะเราก็มีความเป็นห่วงเป็นใยกับเหตุการณ์ต่างๆ ในบ้านเมือง แล้วก็เมื่อสักครู่ก็มีพี่น้องที่ได้ไปร่วมชุมนุมขึ้นมาพูดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ผมก็อยากจะเพียงแต่บอกว่า พวกเราติดตามด้วยความห่วงใย จริงอยู่การเคลื่อนไหวของพี่น้องภาคประชาชนนั้น เป็นการเคลื่อนไหวโดยอิสระ บางเรื่องเราก็อาจจะเห็นด้วย เช่น การที่เขาเรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องสถาบันอย่างเข้มแข็ง ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ให้คนมาดูหมิ่น ให้ร้าย กล่าวร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ บางเรื่องเราก็เห็นด้วยแน่นอน เพราะเป็นประเด็นที่เราได้อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย เช่น การเอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการทุจริต แต่บางเรื่องเราก็อาจจะเห็นไม่ตรงกัน เช่น ที่จะมาแช่แข็งพวกผมด้วยเนี่ย ผมก็บอกว่า เราคงไม่เห็นด้วย แต่เราเข้าใจว่า ทำไมภาคประชาชนจึงอึดอัด จึงหงุดหงิด กับสภาพการเมืองในปัจจุบัน แต่ไม่ว่าเราเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยกี่ประเด็นก็ตาม สิทธิในการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ เป็นสิทธิของพี่น้องประชาชนทุกคน

และสิ่งที่เราได้เห็นในวันนั้นมีการรายงานมายังพวกเราตลอดเวลา จากพี่น้องประชาชน ก็คือการที่รัฐบาลนี้ไม่ได้เคารพ การใช้สิทธิ์ของพี่น้องประชาชน มีพี่น้องจำนวนมากที่เดินทางจะเข้ามา ถูกตั้งด่าน ถูกตรวจสารพัด ถูกสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปชุมนุม ตำรวจเข้มแข็งมากครับ ผมยังนึกถึงว่าเมื่อตอนปี 53 ผมเคยถามตำรวจ ว่า เราจะสามารถตรวจตราโดยไม่ไปละเมิดสิทธิ์ในการชุมนุมเขาได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตอนแรกเราถือว่า เมื่อเขามาชุมนุม ยังเป็นการชุมนุมโดยชอบ เราก็ปล่อยให้เข้ามา แต่เมื่อศาลตัดสินว่าชุมนุมไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมก็เคยถามตำรวจว่าตั้งด่านตรวจไม่ให้เข้ามาได้มั้ยเพราะการชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตำรวจตอบผมว่าไงครับ วันนั้นตำรวจตอบผมบอกว่า ถ้าเขามา ขับรถมาคนเดียว ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์มา ขี่จักรยานมา เดินมา เราจะไปห้ามเขาใช้เส้นทางได้อย่างไร ผมก็บอก เอ้า ถ้ามาแบบนั้นอาจจะต้องยอม มาทีละคน ถือว่าสัญจรไปมาตามปกติ ผมก็ถามต่อว่า แล้วถ้ามาเป็นคันรถใหญ่ๆ ล่ะ หยุดได้มั้ย เขาบอกท่านครับ คนมาเยอะขนาดนั้น ไปหยุดก็จะมีเรื่อง

ผมก็ถามว่า สรุปคุณสกัดได้เฉพาะ Medium Size ใช่มั้ย เล็กก็ไม่ได้ ใหญ่ก็ไม่ได้ สรุป วันนั้นตำรวจบอกว่า ถ้าประชาชนมา จะต้องเปิดโอกาสเขาก่อน เพราะไม่รู้ว่า ถึงแม้การชุมนุมผิดกฎหมาย เขาจะมาทำผิดกฎหมายหรือไม่ แต่เสาร์ที่ผ่านมา ไม่ใช่ แล้วก็เป็นสิ่งที่เราก็ต้องย้ำเตือนกับรัฐบาลนะครับ เพราะถ้าประชาชนซึ่งเขาใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ เขาใช้สิทธิ์นั้นไม่ได้ ความอึดอัด ความโกรธ ความขัดแย้งในบ้านเมืองจะมีมากขึ้น ที่สำคัญที่สุดก็คือว่า เมื่อประชาชนไปถึงจุด หรือใกล้จะไปถึงจุดที่ชุมนุมแล้ว ก็ยังมีการปฏิบัติ ซึ่งตรงกันข้ามกับที่พูดไว้ คือไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานของสังคม เช่น ไม่มีการเตือน ไม่มีการปฏิบัติตามขั้นตอนก่อนจะใช้แก๊สน้ำตา อย่างนี้เป็นต้น

แต่ว่าที่เลวร้ายที่สุด แม้กระทั่ง ร.ต.อ.เฉลิม ยังไปพูดในสภากล่าวหาว่าประชาชนยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ตำรวจ แต่ว่าโชคดี โชคดี ก็คือ มีคนเขาสามารถจับภาพได้ว่า แก๊สน้ำตาชนิดนั้นน่ะ ตำรวจเป็นผู้พาเข้าไป ผมก็เลยต้องพูดในสภา บอกที่เมื่อวาน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวหาประชาชนนั้น ก็ไม่เป็นความจริง เป็นเท็จ ก็เป็นครั้งแรกครับที่ ร.ต.อ.เฉลิม เจริญรอยตามนายกรัฐมนตรี คือตอบผมไม่ได้

แต่ว่าหลังจากนั้นยังเกิดอีกหลายเหตุการณ์ แล้วก็พรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้มอบหมายให้ คุณชำนิ (ศักดิเศรษฐ์) คุณรัชดาภรณ์ (แก้วสนิท) เมื่อสักครู่อยู่บนเวที เป็นผู้ที่คอยประสานงานช่วยเหลือกับพี่น้องประชาชน ซึ่งอาจจะต้องการความช่วยเหลือทางกฎหมาย หรือถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมอยากจะเรียกร้องสิทธิของตนเองต่อไป อันนี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

เป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า รัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ซึ่งมักจะอ้างว่ามีจิตใจเป็นประชาธิปไตย มีความตั้งใจที่จะปรองดอง ไม่เลือกปฏิบัติ คำกล่าวเหล่านี้ ถูกพิสูจน์ด้วยการกระทำว่าเป็นเท็จทั้งสิ้นใช่มั้ยครับพี่น้องครับ

ผมไม่เห็นเขาปฏิบัติอย่างนี้ เวลาเสื้อแดงยกขบวนกันไปปิดถนนตามที่ต่างๆ ผมไม่เห็นเขาปฏิบัติอย่างนี้ เวลาเสื้อแดงทำกระทั่งทำให้ย่านธุรกิจเขาเสียหาย ขายของไม่ได้ นั่นคือการยืนยันให้เห็นครับว่า สิ่งที่เขาพูดเรื่องปรองดอง สิ่งที่เขาพูดเรื่องประชาธิปไตย สิ่งที่เขาพูดว่าเขานั้นมีใจให้กับพี่น้องประชาชนนั้นมันไม่ใช่ความจริง แล้วเราก็จำเป็นที่จะต้องเดินหน้าเอาความจริงมาบอกกับพี่น้องว่า ในการเข้าสู่อำนาจผ่านการเลือกตั้งของรัฐบาลชุดนี้ เมื่อได้อำนาจไปแล้ว เอาอำนาจไปทำอะไร จึงต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ และผมก็ได้บอกกับพี่น้องสารภาพไปแล้วว่า ผมเสียใจจริงที่ผมไม่สามารถถามให้ตรงกับคำตอบของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ได้

มีคนกระซิบผมเหมือนกันบอกว่า ความจริงผมบกพร่องมาก เพราะมีคนกระซิบว่า คำตอบที่เตรียมมานี่อาจจะเขียนโดยญาติผม บังเอิญไม่เจอกันนานแล้วครับ ไม่ได้พูดกันนานแล้วครับ แต่ว่าผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่า จะต้องถามอย่างไร ถึงจะได้คำตอบอย่างนั้น เพราะเราอภิปรายไม่ไว้วางใจ และผมก็รู้ว่าเขาเตรียมมาอย่างดี คือคำตอบของนายกฯ ต้องมีชาร์ต มีแผ่นป้าย ไม่รู้ได้เห็นรึเปล่านะครับ ป้ายเนี่ย ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำถามพวกผมเลย แต่ต้องมี เพราะว่าเวลานายกฯ ชี้ป้าย ก็จะมีกล้องถ่าย แชะๆๆๆ ส่งให้กับหนังสือพิมพ์ที่เล่นด้วยกับเขา คนไม่ได้ดูทีวี ตอนเช้าเห็นในหนังสือพิมพ์ โอ้โห นายกฯ ข้อมูลแน่น

แล้วยังมีการเตรียมบทไว้อย่างดีด้วยนะครับ คุณเจะอามิง โตะตาหยง อภิปรายเรื่องปัญหาความรุนแรงภาคใต้ นายกฯ อุตสาห์ไปเอาจดหมายจากใคร ผมจำไม่ได้ละ ที่บอกว่า ขอบคุณรัฐบาลเรื่องจัดงบประมาณให้ภาคใต้ แต่เป็นเอกสารลับสุดยอด ต้องใส่ซอง เดินไปส่งให้ประธานสภา ได้อีกช็อตนึงในหนังสือพิมพ์ แล้วเขาก็เตรียม เอาคอลัมนิสต์ที่อยู่ในฝ่ายเขา ไม่ต้องฟังอภิปรายหรอกครับ เตรียมด่าพวกผมเลยว่า ข้อมูลเก่า อภิปรายตัดแปะ นี่หลังจากอภิปรายไป 2 วัน บางคนยังหลงเขียนอยู่เลย ผมท้าเลยครับ ใครที่กล่าวหาว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดแปะ ผมให้เวลาคุณ 1 เดือน คุณไปเอาหนังสือพิมพ์ทุกฉบับก่อนอภิปรายตัดแปะมาให้ผมดูว่ามีข้อมูลที่เราอภิปรายมั้ย ไม่มีหรอกครับ ดูง่ายๆ เริ่มมาวันแรก เปิดอภิปรายคุณสุกำพล 3 คน 3 เรื่อง

เรื่องที่ 1 เอาคลิปเสียงมาให้ฟังกันเลย เพราะว่าข้อหาข้อที่ 1 ง่ายมาก กฎหมายห้ามนักการเมืองล้วงลูกโยกย้ายทหาร แต่ในคลิปเสียงรัฐมนตรีพูดว่าอะไรครับ ถ้าล้วงลูกไม่ได้ ก็ไม่ต้องเซ็น ... เลย เอ้อ ทีนิวส์ ทีดีวี บลูสกาย เขาเทคโนโลยีสูงเขาดูดเสียงผมออกไป เร็วมากเมื่อกี้ ล้วงลูกไม่ได้ก็ไม่ต้องเซ็น ... เลย ใบเสร็จมั้ยล่ะครับ ใบเสร็จมั้ยล่ะครับ แล้วตรงไหนครับที่บอกว่า อันนี้เป็นข้อมูลเก่า

พอมาเรื่องที่ 2 คุณอลงกรณ์ (พลบุตร) อภิปรายเรื่องเรือรบ เป็นไงครับ สตง.ใครต่อใครทำหนังสือมาเรียบร้อยว่าการประมูลมีปัญหาขอให้ชะลอแต่รัฐมนตรีก็เดินหน้ายกเลิกการชะลอลงนามในสัญญาเซ็นสัญญาไป

แล้วก็ส่วนประเด็นที่ 3 ที่คุณศิริโชค (โสภา) ขึ้นมาอภิปราย ไม่รู้พี่น้องฟังหรือเปล่า ไอ้ระบบยิงเป้าลวง นึกออกมั้ยครับ แบบที่หมุนได้ เงยได้ ก้มได้ ไม่เอา เอาแบบอยู่กับที่ หมุนเรือเอา เดินหน้าเรือเอา ถอยหลังเรือเอา ที่จริงผมก็ไม่อยากไปว่าแกนะ แต่เมื่อกี้ฟังคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ) ไปต่อว่า ว่ารัฐมนตรีกลาโหมทำไมพูดไปชอบยักไหล่ คือเป็นรุ่นที่ยังหมุนไม่ได้

แต่ว่าผมก็ต้องสารภาพผิดอีก เลือกผิดคนอภิปรายจริงๆ ไปเลือกศิริโชค เพราะว่าของ 2 พัน 7 ร้อยกว่าล้าน เขาลดลงมาตามราคาซึ่งเป็นราคากลาง เขาลดลงมาให้แค่พันบาท อภิปรายเสร็จผมเรียกศิริโชคมา บอก ศิริโชค ทำไมอภิปรายเสร็จ คุณไม่ควักกระเป๋าตังค์คุณออกมา หยิบเงินพันบาทไปให้สุกำพล แล้วบอก เอาระบบที่ดีรักษาชีวิตลูกเรือกลับมา

เทพไท (เสนพงศ์) ก็บอกผมว่า หัวหน้านี่ก็เป็นซะอย่างนี้ มอบผิดคน มีเหรอ ศิริโชคจะควักกระเป๋าตังค์เอาเงินพันบาทออกมา วันก่อนไปกินข้าวมันไก่ยังไม่จ่ายตังค์เขาเลย แต่ว่าข้อมูลทั้งหมดชัดแจ๋ว รัฐมนตรีก็ตอบไม่ได้ วันแรกตอบไม่ได้ นอนไปคิดมาคืนนึง มาตอบวันที่ 2 ก็ยังตอบไม่ได้ ตอบวันที่ 2 ไม่ได้ คราวนี้ให้กองทัพเรือตั้งโต๊ะแถลงข่าวใหญ่โต หลังจากนั้นยังมาให้สัมภาษณ์พยายามชี้แจงเพิ่ม แล้วบอกว่า ผมเนี่ยไปผูกใจเจ็บกับแก

ผมจะไปผูกใจเจ็บทำไม เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะติดคุก เพื่อให้พี่น้องทราบ เมื่อวานนี้ศาลปกครองได้รับเรื่องที่ผมฟ้อง พล.อ.อ.สุกำพล ไว้เรียบร้อยแล้วครับว่า ออกคำสั่งโดยไม่ชอบ

พอมาถึง ร.ต.อ.เฉลิม อันนั้นก็คุณชูวิทย์ ก็อภิปรายไป แกก็ตอบโต้ ด่าคุณชูวิทย์อย่างเดียว เรื่องบ่น เรื่องโรงพัก เรื่องอะไร แต่ที่สำคัญ ประชาธิปัตย์ทวงถามเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ วันแรกลักไก่ บอกว่าตำรวจเขาบอกแล้ว ไม่เข้าหลักเกณฑ์ เอาเอกสารมาอ่านๆ รัวเลยครับ นี่ขนาดภาษาไทยไม่ใช่ภาษาอังกฤษนะ อ่านรัว ฟังไม่ทัน แต่ผมฟังดูเหมือนที่อ่านบอกว่ามันเข้าหลักเกณฑ์นะ ไม่ใช่ไม่เข้า ผมก็ให้คนไปทวงเอกสาร เพราะเห็นเวลาฝ่ายค้านจะใช้อะไรหน่อย ฝ่ายรัฐบาลบอก ประธาน ไปเอามาๆ ปรากฏว่า กว่าผมจะได้เอกสารนั่น การอภิปรายผ่านไปแล้วอีก 2 วัน คุณเฉลิม ถึงเอาเอกสารมาให้ผม

และผมอ่านแล้วครับ มันเข้าหลักเกณฑ์ครับ ไม่ใช่ไม่เข้า แต่ตำรวจตอนนี้ที่ทางคุณเฉลิมบอกว่าได้ทำรายงานขึ้นมาว่า ทำไมไม่ถอดยศนี่ วันนี้ผมนั่งอ่านอยู่ด้วยความอัศจรรย์ใจ คือชักแม่น้ำทั้ง 25 ลุ่มน้ำในประเทศไทย เริ่มต้นนี่พยายามจะดูแล้วดูอีกๆ ว่าเข้าหลักเกณฑ์ที่จะถอดยศมั้ยเพราะว่าอยู่ไม่ได้เป็นตำรวจ ตอนทำความผิด เพราะว่าศาลที่ตัดสินไม่ใช่ศาลอาญาธรรมดาเป็นศาลอาญานักการเมือง ดูแล้วดูอีกๆ ตีความยังไงก็เข้าหลักเกณฑ์ที่จะถอดยศ

แต่เสร็จแล้วบอกว่า ถึงเข้าหลักเกณฑ์ เขาตีความระเบียบใหม่ บอกว่าเข้าหลักเกณฑ์ไม่ได้แปลว่าต้องถอด เขาบอกระเบียบเพียงแต่บอกว่า ถ้าไม่เข้าหลักเกณฑ์ไม่ให้ถอด แต่เข้าแล้วจะถอด หรือไม่ถอดก็ได้ แล้วก็ให้อีก 2 เหตุผล ซึ่งวันนั้นผมพูดกลางสภาว่า ผมรับไม่ได้ และผมต้องการคำตอบจากประธานกรรมการนโยบายตำรวจ ที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ข้อที่ 1 เขาบอกว่า เหตุการณ์บ้านเมืองมันวุ่นวาย เรื่องนี้เนี่ย ทำไปเนี่ย ทำไปทางหนึ่งทางใด ก็จะมีคนไม่พอใจ ถ้าถอด ฝ่ายหนึ่งก็พอใจ ฝ่ายหนึ่งก็ไม่พอใจ ถ้าไม่ถอดฝ่ายหนึ่งก็พอใจ ฝ่ายหนึ่งก็ไม่พอใจ บ้านเมืองจะวุ่นวาย แล้วก็บอกต่อเลยบอก ระเบียบเนี่ย เรื่องถอดยศไม่ได้เขียนเอาไว้ว่าให้ถอดเมื่อไหร่ ก็เลยบอกว่า เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ก็อยู่เฉยๆ ซะ

คราวหน้าตำรวจจับนะครับ ช่วยบอกตำรวจด้วยว่า ไอ้คนถูกจับไม่พอใจ อย่าเพิ่งทำเลย เป็นไปได้ยังไงครับ ที่เราจะบอกว่า ต่อไปนี้ผิดถูกหลักเกณฑ์ไม่สำคัญเท่ากับว่า ทำแล้วจะเกิดปัญหา ทำแล้วจะมีคนพอใจ ไม่พอใจ นั่นเรื่องที่ 1

เรื่องที่ 2 แปลกมาก คือ ระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวกับการถอดยศ จะเป็นทหาร ตำรวจ หรือแม้กระทั่งเกี่ยวกับวินัย ของราชการ เขาจะเขียนข้อนึงเลยครับว่า ถ้าศาลพิพากษาตัดสินจำคุก คดีถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องมีการดำเนินการทางวินัยทางราชการต่อไป แต่กรณีนี้รายงานของตำรวจบอก ดูแค่ว่าศาลตัดสินไม่ได้ ต้องไปวิเคราะห์คำพิพากษาของศาลด้วย แล้วก็บอกว่าที่คุณทักษิณทำผิดเนี่ย ไม่ได้เสื่อมเสียต่อหมู่คณะของตำรวจ แล้วในรายงานฉบับแรก ยิ่งกว่านั้นนะครับ ยังเปรียบเทียบว่า สิ่งที่ทำเทียบเคียงกับคุณประโยชน์ที่ทักษิณให้กับประเทศไทย อ้างโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค อ้างสารพัด แล้วก็สุดท้ายบอกว่า ไม่ถอดยศ นี่คือสิ่งที่เป็นคำตอบที่ไม่ใช่คำตอบ และเป็นสิ่งที่เราจะติดตามต่อไป ไม่ว่าจะเป็นคุณสุกำพล คุณเฉลิม เรารวบรวมคำถาม และคำตอบ และเราจะเดินหน้าตรวจสอบเพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปทุกเรื่อง

รายที่ 3 คุณชัจจ์ ตรงนี้ มีเพื่อน ส.ส. อภิปราย ที่ผมถือว่าเป็นการอภิปรายอย่างเป็นระบบที่สุดครั้งหนึ่งว่าเอาเงินงบประมาณน้ำท่วม แสน 2 หมื่นล้าน ไปทำโครงการพัน 2 ร้อยกว่าล้าน 26 โครงการ แบ่งกันใน 14 บริษัท ผลัดกันเสนอราคาต่ำ ราคาสูง ได้โครงการไป แล้วก็ไปขุดหลอก ไม่ได้ขุดลอก ส.ส.ประชาธิปัตย์ไปลงพื้นที่ ถ่ายภาพมาหมด ว่าหลังจากที่โครงการนี้มีการรายงานว่าเสร็จสิ้นเดือนกันยา ทันน้ำมา แต่ความเป็นจริงคือสภาพแทบไม่ได้แตกต่างจากเดิม

คุณชัจจ์ ก็พึมพัมอยู่นานนะครับ ผมก็บอกตรงๆ ผมพยายามฟังท่าน ก็ฟังไม่ ไม่รู้เรื่องจริงๆ ครับ แต่ว่าโดยสรุปแกก็บอกว่า แกไม่ทุจริต แต่เหตุผลนี่ ผมฟังเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยิน นอกจากบอก เป็นตำรวจมาตลอดชีวิต จ้างวิธีพิเศษ ไม่ได้แปลว่าทุจริต แต่ไม่ได้ตอบในคำถามว่า ทำไมผลของการคัดเลือก 14 บริษัท ให้ไปทำ 26 โครงการ ในราคาที่เป็น ในผลงานที่ได้ออกมา จึงเป็นอย่างนี้

ส่วนคุณยิ่งลักษณ์ คือจะมาต่อว่าผมว่า ผมถามไม่ตรงอย่างเดียวไม่ได้ เวลานี้คุณยิ่งลักษณ์สร้างปัญหาความขัดแย้งในสังคมมากขึ้นไปอีก คือมันมีคน 2 คน เนี่ย ติดตามคอการเมือง อยากจะรู้ก่อนอภิปรายจำได้มั้ย เอ๊ะ ฝ่ายค้านจะได้อภิปรายมั้ย นายกฯ จะมาฟังหรือเปล่า นายกฯ จะมาตอบหรือเปล่า ไปพนันกันครับว่า ตกลงยิ่งลักษณ์จะตอบหรือไม่ตอบ ปรากฎว่าอภิปรายเสร็จ ยังเถียงกันไม่จบว่าตอบหรือไม่ตอบ

ไม่รู้จะเอาใครไปเป็นกรรมการ นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่ผมได้นำเสนอ 2 ประเด็นใหญ่ที่คนไทยต้องการคำตอบ 1. เรื่องจำนำข้าว จำนำข้าว ผลที่เกิดขึ้น คุณจุรินทร์ (ลักษณวิศิษฐ์) สรุปไว้ค่อนข้างดีมาก คุณจุรินทร์บอก เสียแชมป์ เสียแชมป์ส่งออก การส่งออกปีนี้ ถ้านับเป็นปริมาณลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง แล้วก็ที่นายกฯ ปูมาพูดวันแรก ตามที่เขาเขียนมาให้ บอกไม่เป็นไร ตันลดลง แต่อยากเห็นมากกว่า ผมย้ำอีกครั้ง เงินก็ลดลงไปประมาณ 30 - 40% ในการขายข้าว เพียงแต่ว่ายอดเงินขณะนี้ เดิมเราเคยนำห่างเพื่อน ประเทศต่างๆ ตอนนี้ตกลงมาเรื่อยๆ เขายังไม่แซง แต่ถ้าทำต่อเนื่องต่อไป ผมรับรองได้ว่า โดนแซงแน่นอน เสียแชมป์ส่งออก แล้วก็เสียแชมป์เรื่องคุณภาพ ตอนนี้เขาประกวดข้าว ข้าวหอมมะลิ ปรากฎว่าเราเสียแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว

แต่ผมก็ต้องต่อว่าคุณจุรินทร์ ผมบอก คุณจุรินทร์เขาไม่เป็นธรรม พูดด้านเดียว ไปบอกเสียแชมป์ๆๆ ทำไมไม่บอกบ้างล่ะว่าได้แชมป์มาเหมือนกัน ได้แชมป์โกงข้าว

แล้วการโกงที่ว่านี้มันเป็นปัญหาการโกงที่เกิดขึ้นจากตัวนโยบายที่นำไปสู่การโกงได้เป็นระบบ ประชาธิปัตย์อภิปรายเกือบทุกขั้นตอนเลยครับ การโกงตั้งแต่ชาวนาเอาข้าวไปเพื่อที่จำนำ ตั้งแต่ตอนที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการเก็บ ดูแล รักษาข้าว ก็โกง ตั้งแต่การขายข้าว ซึ่งมีการทุจริต แล้วข้อมูลที่นำเสนอ ชัดเจน มีตัวละครครบถ้วน แล้วก็เป็นการจับโกหกรัฐบาลในเรื่องการอ้างการขายข้าวรัฐต่อรัฐ จีทูจี ซึ่งไม่มีหลักฐานใดบ่งบอกเลยว่าข้าวที่ขายออกไปเป็นการขายให้กับรัฐบาลต่างชาติ

สำคัญที่สุด ผมใช้ตัวเลขของรัฐบาล เพราะผมบอกกับลูกพรรค บอกเรื่องนี้ถ้าเอาตัวเลขจริง ไม่ใช่ตัวเลขรัฐบาลนะครับ เราจะถูกเสียเวลาเถียงตลอดเวลาว่า ที่เราจะไปบอกว่าเขาขาดทุนเท่านี้ ที่เราไปบอกว่าชาวนาได้ราคาเท่านี้ เขาก็จะเอาตัวเลขทางการมาเถียง 2 วัน 3 วันไม่จบ ผมเลยใช้วิธี เอาตัวเลขรัฐบาลนี่แหละ มาอภิปราย ตัวเลขรัฐบาลบอกว่าเงินที่จะต้องขาดทุนทุกปี นี่เป็นรายงานจากกระทรวงการคลังถึงคณะรัฐมนตรี ในโครงการนี้คือ 2 แสน 2 หมื่น 4 พันล้านบาทต่อปี

2 แสน 2 หมื่น 4 พันล้านบาทต่อปี ไม่ใช่เงินน้อยๆ กว่าหรือประมาณ 10% ของงบประมาณทุกเรื่องของรัฐบาลต่อปี และถ้าขาดทุนไปอย่างนี้อีก 7 ปี หนี้ของประเทศจะเกิน 60% ของรายได้ ซึ่งถือว่าเข้าสู่ขีดอันตราย นายกฯ ตอบว่าไงครับ นายกฯ ตอบว่า ให้ชาวนาเถอะค่ะ คือเตรียมมาตอบอย่างนั้น ผมอภิปรายดักไว้ล่วงหน้า ผมบอกว่า ที่อภิปรายทั้งหมด ไม่เคยบอกเลยว่า อย่าเอาเงินไปให้ชาวนา แต่ที่อภิปรายทั้งหมด บอกกับรัฐบาลว่า ถ้ารัฐบาลจะขาดทุน 2 แสน 2 หมื่น 4 พันล้านบาท ขอให้ 2 แสน 2 หมื่น 4 พันล้านบาทนั้น ไปถึงมือชาวนา

แต่ตัวเลขรัฐบาลออกมา ปรากฎว่า เงินที่ไปถึงมือชาวนาจริงๆ อย่างเก่ง คือครึ่งเดียวของ 2 แสน 2 หมื่น 4 พันล้าน กระทรวงเกษตรฯ สำรวจมาชาวนา จนกว่าเดิม สิ่งที่เราเรียกร้องคือ อีกแสนกว่าล้านอยู่ในกระเป๋าใคร ไม่มีคำตอบ แต่เราจะเดินหน้าจนได้คำตอบ และใครเข้ากระเป๋าใคร คนนั้นจะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายต่อไป นี่คือแนวทางที่เราจะทำ

ส่วนเรื่องน้ำท่วม ผมก็บอกว่า นายกฯ ก็คงจะบอกว่า เรื่องนี้ได้มอบไปแล้ว ก็ตอบอย่างนั้นจริงๆ ทำภาพมาซะ นายกฯ อยู่นี่ ต้องมอบรองนายกฯ รองนายกฯ มอบลงไปรัฐมนตรี รัฐมนตรีมอบรัฐมนตรีช่วย รัฐมนตรีช่วยมอบอธิบดี อธิบดีมอบลงไป มองไม่เห็นแล้วนายกฯ ไม่เกี่ยว แต่ก็บอกว่า ไม่ลอยตัว เพราะว่าโดยปกติ ปูไม่ลอย

ผมอยากจะบอกว่า ที่พวกเราอภิปรายและสำคัญมาก และยื่นถอดถอนด้วยก็คือว่า การทุจริตในเงินน้ำท่วม แสน 2 หมื่นกว่าล้าน และรัฐบาลจะตั้งใจใช้เงินน้ำท่วมอีก 3 แสน 5 หมื่นล้าน และรัฐบาลยังมีความคิดที่จะกู้เงินมาใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐานอีก 2 ล้านล้าน ที่มีการทุจริต เพราะส่วนหนึ่งคือรัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเสนอของ ปปช.

ปปช. เขาทำหนังสือมาถึงนายกฯ ให้เสนอเรื่องเข้าครม. ที่นายกฯ เป็นประธาน บอกว่าการประมูล การจัดซื้อจัดจ้างนั้น ขอให้เปิดเผยราคากลาง วิธีคำนวนราคากลาง ให้ประชาชนตรวจสอบได้ เพราะฉะนั้นอย่างโครงการขุดลอกที่ผ่านมานี้ แต่ละจังหวัดไม่มีความชัดเจนเลย งานเท่าไหร่ๆ แต่บอกว่า เอาไปเลยราคาเท่านั้นเท่านี้ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าดำเนินการตามข้อเสนอของ ปปช.

ปปช. เสนอไปเมื่อไหร่ครับ ปปช. เสนอไปให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2554 พูดง่ายๆ ตั้งแต่ก่อนนายกฯ ยิ่งลักษณ์แถลงนโยบาย เพื่อให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์สามารถเริ่มต้นงานวันแรกพิจารณาได้เลย ปรากฎว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์เอาเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาครม. เดือนธันวา 54 แล้วมีมติ ไม่เห็นชอบตามที่ ปปช. เสนอ

ปปช. ก็วิตกกังวลมาก ความจริงภาคเอกชน ใครต่อใครก็วิตกกังวลมากว่าเงินแสน 2 หมื่นล้านจะทุจริตกันมาก มีการเคลื่อนไหว สุดท้าย ปปช. ทนไม่ได้ส่งหนังสือกลับไปที่นายกฯ อีก กุมภาฯ ปีนี้ บอกทบทวนมติครม. ได้แล้ว นายกฯ ยิ่งลักษณ์ทำอะไรครับ นายกฯ ยิ่งลักษณ์บอกว่า สงสัยว่าตามกฎหมายนั้นต้องทำตาม ปปช. หรือไม่ ก็ไปส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความว่าจำเป็นต้องทำตาม ปปช. ทุกเรื่อง ทุกมาตรการ ทุกข้อหรือไม่ กฤษฏีกาก็ตอบมาว่า ไม่จำเป็น แต่กฤษฏีกาไม่ได้บอกว่าไม่ให้ทำนะครับ เราถึงทวงถามนายกฯ ว่าเจตนานายกฯ คืออะไร ถ้าอยากทำ มีปัญหาก็ไปปรึกษา ปปช. เขาสิ ว่าจะทำยังไงไม่ให้มีปัญหา ไม่ใช่ไปคอยไล่ถามว่าไม่ทำได้มั้ย เอาเรื่องเข้า ครม. กรกฎา 55 2 ครั้ง ครั้งแรกมีมติยืนยันเหมือนเดิม ไม่ทำ ปปช. ออกมาให้สัมภาษณ์ขู่ครั้งที่ 2 เลยบอก ไม่ใช่ไม่ทำ ขอเวลาไปทำ แต่ก็ยังไม่ได้ทำ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ทำ เฉลิมก็ยอมรับสารภาพกลางสภาว่า จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ทำ เรื่องนี้เราก็ยื่นถอดถอนนายกฯ ว่า จงใจฝ่าฝืนกฎหมาย ปปช. และเป็นที่มาของความเสียหายให้เกิดการทุจริต การโกงในงบน้ำท่วม มากมายมหาศาล

เพราะฉะนั้นจะเป็นเรื่องข้าว จะเป็นเรื่องน้ำ การทุจริตที่เกิดขึ้น เป็นการทุจริตที่เป็นระบบ มันไม่ใช่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่ง บางคนดี บางคนไม่ดี ใอ้คนไม่ดีไปโกงไม่ใช่ แต่เพราะรัฐบาลนี้ไม่ทำตามข้อเสนอแนะของหลายๆ ฝ่ายและจงใจออกนโยบายมาทั้งที่รู้ว่าทำอย่างนี้แล้ว โอกาสการทุจริตจะเกิดขึ้นสูงมาก

ผมก็หวังว่าอภิปรายกัน 3 วัน อย่างน้อยผมว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจ เข้าใจมั้ยครับ ถ้าเข้าใจแปลว่าเก่งกว่านายกฯ ทุกคน

ช่วยหาทางไปอธิบายนายกฯ ด้วยว่าจะทำอย่างไร ถึงจะแก้ปัญหาไม่ให้การทุจริต คดโกงเรื่องข้าว เรื่องน้ำ และเรื่องอื่นๆ ที่ตามมาเกิดขึ้นอีก นี่สาระสำคัญ เรื่องใหญ่ๆ ที่ได้อภิปราย ความจริงมีอีกหลายเรื่อง ที่บ่งบอกถึงการที่มีความไม่ชอบมาพากล ที่บ่งบอกถึงการไม่ทำกฎระเบียบ เรื่องพาสปอร์ต วีซ่า เรื่องจริยธรรม วุฒิภาวะ อีกสารพัดเรื่องครับ ผมว่าพี่น้องก็คงได้ติดตามอยู่ ต้องบอกกับพี่น้องว่า อภิปรายครั้งที่ผ่านมานี้ยากจริงๆ

เขาพยายามทำทุกวิถีทาง ไม่ให้เราได้ทำหน้าที่ของเรา ยากจริงๆ ครับ อภิปรายนั้น บอกตอนแรกแทบจะหาเวลาไม่ได้เห็นมั้ยครับ ให้เอา 3-4 วันสุดท้ายสมัยประชุม มาบอกกับเราอยากอภิปรายต้องอภิปรายวันอาทิตย์นะ ไม่รู้เหรอครับว่า วันอาทิตย์เราก็พูดได้ แถมไม่ชนกับละคร วันจันทร์ อังคารด้วย อภิปรายไปก็ถูกประท้วง ขึ้นมายุบยับไปหมด วันที่ ดร.รัชดา (ธนาดิเรก) อภิปราย มันประท้วงอยู่นั่นแหละครับ ประท้วงประเด็นเดียวว่าจะให้เรียกทักษิณว่าอะไร คือตอนแรกแกพูดชื่อทักษิณ มันก็ประท้วง ผมก็ไม่รู้ว่าคำว่าทักษิณมันหยาบคาย หรือมันเป็นเสนียด หรือมันเป็นอะไรถึงพูดไม่ได้

ดร.รัชดา ก็บอก ไม่พูดทักษิณก็ได้ ขอพูดนักโทษชาย มันก็ประท้วงอีก บอกเป็นการซ้ำเติม เยาะเย้ย ถากถาง รัชดา ก็เลยบอก เอ้า ไม่พูดนักโทษชาย พูดผู้ต้องคำพิพากษา มันก็บอกยังตอกย้ำอยู่นั่น เรื่องกฎหมาย รัชดาก็ขอเปลี่ยน เป็นบุคคลผู้ไม่สมควรได้รับหนังสือเดินทาง มันก็บอกอีกไม่ได้ ยาวเยิ่นเย้อ วกเวียน รัชดา ก็เลยบอกว่า ขอใช้คำว่า ชายผู้นั้น มันประท้วงอีก บอก พูดชายผู้นั้น เหมือนประชดประชัน ขอให้ใช้คำว่า ทักษิณ สรุปกลับมาเริ่มต้นใหม่ เพราะตอนแรกมันบอกพูดทักษิณไม่ได้ ตอนหลังมันบอกให้พูดทักษิณ ไม่รู้เป็นอะไร แต่เราก็ทำหน้าที่มาได้ ด้วยดีครับ

และผมก็ได้กราบเรียนยืนยันกับพี่น้องว่า แพ้การลงมติในสภา ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายเรา พรรคฝ่ายค้านบางพรรค ไปยกมือให้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายเรา ไม่ได้เป็นปัญหา ไม่ได้เป็นอุปสรรค ขอให้เราได้มีโอกาสทำหน้าที่ ขอให้เราได้เอาความจริงมาแสดงให้สังคมเห็น และเราจะเดินหน้าติดตามตรวจสอบตามช่องทางอื่น จะเป็น ปปช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานใด เราเดินหน้าแน่นอน รักษาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทุกเรื่อง

แต่ว่าสิ่งที่ผมอยากจะต้องเรียนกับพี่น้องต่อก็คือว่า ตอนนี้สภาปิด แต่ปิดอีกไม่นานครับ จะมีการเปิดสภาอีกครั้งในวันที่ 21 ธันวาคม 21 ธันวาคม คงยังไม่มีการประชุม เพราะปกติเราประชุมกันวันพุธ วันพฤหัส เข้าใจว่าถ้าจะประชุมจะต้องไปประชุมเอาวันที่ 26 - 27 ธันวา ที่ต้องมาย้ำกับพี่น้องก็คือว่า พี่น้องอย่าตายใจ ชายผู้นั้น อ้างบางคนยังงงว่าชายผู้นั้นใคร ผู้ไม่สมควรได้รับหนังสือเดินทาง ถ้ายังงงอีก พูดชัดๆ ว่า ผู้ต้องคำพิพากษา ถ้ายังไม่เข้าใจ ยืนยันว่า เป็นนักโทษชาย สรุปก็ ทักษิณ นั่นแหละ ทักษิณ ยังส่งสัญญาณมา บอกว่า ภายในสิ้นปีนี้ ต้องลุย ต้องเดินหน้า เดินหน้า 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 คือรื้อรัฐธรรมนูญ หาทางลบล้างการทำงานของ คตส. เพื่อลบล้างคดี หาทางทำให้ศาล องค์กรอิสระต่างๆ อ่อนแอ เพราะเป็นอุปสรรคกับการทุจริต คอร์รัปชั่น และการปฏิบัติที่ผิดกฎหมาย กับ 2. ส่งสัญญาณมาให้เดินหน้าในเรื่องของกฎหมายล้างผิด แล้วสับสนมากครับ ขณะที่บอกว่า ให้ล้างผิด กฎหมายเขาจะล้างผิดทุกคน เพื่อกดดันให้ผมและคุณสุเทพ หรือพรรคฝ่ายค้านไปเออ ออ กับเขาด้วย เพราะขู่ว่าจะดำเนินคดีกับผมช่วงปิดสมัยนี้ ดีเอสไอ คึกคักมากครับ พอปิดสมัยประชุม จะเรียกไปให้การคนนั้นคนนี้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเหตุการณ์ปี 53 นะครับ ตอนนี้เรียกเรื่องเงินบริจาคน้ำท่วม เงินบริจาคเข้าพรรค เรื่องอะไรต่อมิอะไร เยอะแยะไปหมด ผมก็บอกว่ากดดันเท่าไหร่จะต่อรองอย่างไร ผม คุณสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่เล่นด้วยแน่นอน

แล้วเจตนาก็แปลก ปลุกระดมคนเสื้อแดง บอกว่าต้องเอาฆาตกรมาลงโทษ เสร็จแล้วก็บอกว่า จะออกกฎหมายล้างผิด คนกระทำผิดในทุกข้อหา รวมทั้งการฆ่าประชาชน เสร็จแล้วมาบอกกับเราบอกว่า กฎหมายนี้ดียังไง ให้ล้างผิดทุกฝ่าย แต่เสร็จแล้วก็มาขู่บอกว่า ไม่ให้ขึ้นศาลไทย จะไปศาลโลก
กำลังโหลดความคิดเห็น