xs
xsm
sm
md
lg

สมาคมนักข่าวฯ ยื่นผู้ตรวจฯ สอบ ตร.กร่างทำร้าย 3 ช่างภาพสื่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผานิต นิตทัณฑ์ประภาศ (แฟ้มภาพ)
สมาคมนักข่าวฯ ยื่นหนังสือผู้ตรวจการฯ สอบตำรวจห้าวทำร้าย 3 ช่างภาพสื่อช่วงชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ขณะที่กลุ่มนักวิชาการศาสนายื่นสอบ กสทช.ออกประกาศฯ ขัด กม. ลดจำนวนคลื่นเพื่อพระพุทธศาสนา

วันนี้ (30 พ.ย.) นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปานี นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนางผานิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมายหรือไม่ และมีการปฏิบัติหน้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนหรือไม่ กรณีการชุมนุมของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยนายชวรงค์กล่าวว่า ในการชุมนุมดังกล่าวปรากฏข้อเท็จจริงว่า ช่างภาพสื่อมวลชนทั้งหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ อย่างน้อย 3 ราย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังประทุษร้ายและจับกุม ซึ่งทราบว่าเป็นบริเวณเต็นท์พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุมขังไว้บนรถควบคุมผู้ต้องหา ขณะที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่บันทึกภาพเหตุการณ์ชุมนุม ทั้งที่ช่างภาพคนดังกล่าวได้พยายามจะชี้แจงแล้วว่าเป็นสื่อมวลชน การกระทำดังกล่าวจึงถือเป็นการขัดขวาง คุกคามการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนที่มีหน้าที่ต้องนำเสนอต่อประชาชนตามสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อันเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามมาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญ

ด้านนางผานิตกล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน
จะพิจารณาวินิจฉัยได้หรือไม่

ขณะเดียวกัน นางดาราวรรณ เด่นอุดม แกนนำกลุ่มนักวิชาการเพื่อการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนางผานิต นิตทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงาน กสทช. กรณีออกประกาศหลักเกณฑ์การอนุญาตทดลองประกอบกิจการกระจายเสียง 2555 ขัดต่อกฎหมาย

นางดาราวรรณกล่าวว่า ประกาศ กสทช.ขัดต่อกฎหมายทั้ง มาตรา 63 ของ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ รัฐธรรมนูญมาตรา 37, 47 ,70 และมาตรา 77 รวมทั้งไม่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขัดต่อมาตรา 74 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 2553 ที่กำหนดว่ารัฐต้องจัดสรรคลื่นความถี่เพื่อให้ประโยชน์สำหรับการทะนุบำรุงศาสนา และรัฐต้องให้การอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน แต่ กสทช.กลับจะมีการลิดรอนพื้นที่การรับฟังธรรมของประชาชนลงไปอีกโดยมีนโยบายบังคับให้สถานีวิทยุเพื่อพระพุทธศาสนาในสังกัดมหาเถร สมาคมทุกแห่งลดกำลังส่งเหลือเพียง 500 วัตต์ เสาอากาศสูงเพียง 60 เมตร และยังมีนโยบายลดจำนวนคลื่นในแต่ละจังหวัดลงเหลือเพียง 1-2 คลื่นเท่านั้น ทั้งที่พระพุทธศาสนาเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องได้รับการจัดสรรคลื่นเป็นกรณีพิเศษเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตด้านศีลธรรมของคนในชาติมากกว่าความบันเทิงที่คลื่นวิทยุสถานีอื่นๆ มุ่งเน้น ด้านนางผานิตกล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะพิจารณาวินิจฉัยได้หรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น