ส.จ.มหาสารคาม แฉแบ่งโซนทุจริตเอสเอ็มแอลทั่วอีสาน ไฟเขียวแก๊งแดงตั้งก๊วนหากิน แหกตาทำประชาคมปลอมลายเซ็นให้หัวคิว กก.หมู่บ้าน ขอถนนได้ปุ๋ยชีวภาพคุณภาพแย่ เครื่องเสียงห่วย แถมหลอกเป็นเงิน “ทักษิณ” ติดรูปหราก่อนแจก โชว์ภาพลูก “วิเชียร ขาวขำ” ร่วมสวาปาม เสียงบประมาณยับ เชื่อทำเป็นขบวนการมีการเมืองระดับชาติหนุน ชี้ชาวบ้านเริ่มตาสว่างปลดป้ายหมู่บ้านแดงทิ้งแล้ว เผยพิรุธ “วรวัจน์” แก้ระเบียบเปิดช่องเบิกจ่ายง่ายขึ้น ปชป.รับลูกเตรียมส่ง ป.ป.ช.ตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า วันนี้ (29 พ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม. นำนายธนา ปักกาโร ส.จ.นาดูร จ.มหาสารคาม แถลงข่าวเปิดโปงการทุจริตโครงการเอสเอ็มแอล โดยระบุว่ามีขบวนการเสื้อแดงแอบอ้างเป็นคนของสำนักนายกรัฐมนตรี บอกชาวบ้านว่าเงินทั้งหมดเป็นเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ใช่มาจากภาครัฐ และมีการนำเสนอเงินให้กับกรรรมการหมู่บ้านที่มีสิทธิเบิกจ่ายเงิน 3 คน 5,000-10,000 บาทแลกกับการไปเบิกเงิน แต่สิ่งของที่ได้กลับมาจะไม่ตรงกับที่ชาวบ้านต้องการ เช่น กรณีนี้ชาวบ้านต้องการถนน แต่กลับมีการนำปุ๋ยชีวภาพและเครื่องเสียงไปแจกแทน และยังมีการถ่ายเอกสารการทำประชาคมปลอมลายเซ็นเบิกจ่ายด้วย ซึ่งมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 11 หมู่บ้าน เกิดความเสียหายแล้ว 3.3 ล้านบาท
นายธนากล่าวว่า ได้ร้องเรียนตั้งแต่ระดับอำเภอไปจนถึงจังหวัดและ ส.ส.ในพื้นที่ คือ นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ซึ่งเป็น รมช.เกษตรฯ แต่เรื่องก็เงียบ แม้กระทั่งไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่รับแจ้งความ โดยอ้างว่าประชาชนไม่ใช่ผู้เสียหาย ต้องให้ตัวแทนจากสำนักงานกองกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง หรือ สคบ. เป็นผู้แจ้งความ โดยทาง สคบ.ได้ส่ง ผอ.ฝ่ายกฎหมายมาตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง จึงมีการสั่งระงับเงินที่เหลือทั้งหมด 200 กว่าล้านบาทที่จะแจกจ่ายไปยังหมู่บ้านต่างๆ ในจังหวัดมหาสารคาม แต่จนถึงขณะนี้เมื่อมีการติดตามเรื่องก็ไม่มีความคืบหน้า และตัวแทนของ สคบ.ก็ไม่มีการไปแจ้งความต่อตำรวจแต่อย่างใด จึงทำให้ตนไม่มีที่พึ่ง จึงร้องเรียนด้วยการส่งเอสเอ็มเอสไปในรายการของบลูสกาย จนกระทั่งนำเรื่องมาร้องเรียนต่อนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม. เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ช่วยเป็นตัวแทนร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.ด้วย
“เรื่องนี้ทำเป็นขบวนการ มีลูกชายของนักการเมืองใหญ่ อดีต ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ซึ่งขณะนี้ยังเป็นใหญ่อยู่ในอุดรธานี คือ นายวิเชียร ขาวขำ นายก อบจ.อุดรธานี เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โดยจะเข้าไปหมู่บ้านที่เป็นกลุ่มของคนเสื้อแดง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเงินที่ได้นั้นเป็นเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีการนำภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดหน้าถุงปุ๋ย ก่อนที่จะเอาออกตอนแจกด้วย แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีความเข้มแข็งเขาก็ไม่รับ เพราะไม่ตรงกับที่ทำประชาคมไปว่าต้องการถนน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว นายธนาได้นำภาพที่อ้างว่าเป็นลูกชายนักการเมืองระดับชาติ และนายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ นายกสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกร เดินทางไปยังหมู่บ้านเพื่อนำของไปแจกมาแสดงด้วย โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่ชาวบ้านกำลังเลี้ยงอาหารกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว นอกจากนี้ยังนำคลิปวิดีโอที่มีการนำปุ๋ยไปส่งแต่ชาวบ้านไม่ยอมรับมาแสดงเป็นหลักฐานด้วย
ทั้งนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เปลี่ยนแปลงระเบียบการเบิกจ่าย ทำให้คนเหล่านี้หากินได้โดยง่าย จากเดิมที่จะต้องมีตัวแทนระดับอำเภอเข้ามาตรวจสอบเป็นแค่ประธานกรรมการหมู่บ้านเซ็นก็เบิกจ่ายได้แล้ว โดยขบวนการนี้จะมีนางนกต่อสำคัญ ชื่อ บัวไข ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้ทำเป็นขบวนการตั้งแต่กลุ่มคนเสื้อแดง นักการเมืองระดับชาติ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. เพราะตนได้ขอดูกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ว่ามีการไปรับเงินของกรรมการหมู่บ้านจริงหรือไม่ แต่ ธ.ก.ส.ไม่ยินยอม
“เมื่อไปร้องผู้ว่าฯ คนเหล่านี้ข่มขู่ชาวบ้าน ถ้าเป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็บอกจะย้ายภายใน 2 วัน ชาวบ้านไม่เคยได้แตะเงิน แค่เซ็นเบิกจ่าย กรรมการจะได้ค่าหัวคิวรายละ 5,000-10,000 บาทและคนเหล่านี้จะนำถุงดำไปรอรับเงิน แต่เมื่อของมาถึงชาวบ้านก็จะมีปัญหา เพราะไม่ตรงกับที่ทำประชาคมเอาไว้ นอกจากนี้ยังมั่นใจว่าปุ๋ยชีวภาพที่นำมาแจกนั้นไม่ได้มาตรฐาน และกำหนดราคา 500 บาทต่อถุง ซึ่งสูงเกินความเป็นจริงที่ต้นทุนไม่เกิน 200 บาท เช่นเดียวกับเครื่องเสียงจากจีนแดงที่ไม่มีคุณภาพ บางหมู่บ้านแค่เปิดเครื่องก็ไหม้แล้ว เท่ากับว่าโครงการนี้มีการทุจริตแบบแบ่งโซนทางภาคอีสาน ซึ่งจังหวัดที่มีปัญหามาก คือ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และมหาสารคาม แต่ผมเชื่อว่าแพร่ระบาดไปทั่ว และที่แรกที่เกิดปัญหา คือ จังหวัดแพร่ ที่นายวรวัจน์เป็น ส.ส. ซึ่งหากเปรียบเทียบจากสิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่ผม เท่ากับว่ามีการทุจริตถึง 50% ถ้าจังหวัดอื่นประสบปัญหาแบบนี้ทั่วประเทศก็จะทำให้งบเอสเอ็มแอล 20,520 ล้านบาท รั่วไหลไปกับการทุจริตและความเดือดร้อนของชาวบ้านถึง 50% ของเงินงบประมาณทั้งหมดที่เป็นภาษีของประชาชน”
นายธนากล่าวด้วยว่า ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ของตนมีกว่า 2 หมื่นคน และ 90% เป็นคนเสื้อแดง เมื่อมีการนำของไปแจกก็จะนำป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงไปติดไว้ด้วย แต่ตอนนี้ใน 11 หมู่บ้าน มี 10 หมู่บ้านที่ปลดป้ายหมู่บ้านเสื้อแดงลงแล้ว เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนอย่างมากเฉพาะที่ อ.นาดูรได้งบ 3.3 ล้านบาท แต่เสียหายไปกับขบวนการโกงกินแล้วกว่า 2 ล้านบาท การที่ตนออกมาต่อสู้เรื่องนี้ก็เพื่อความถูกต้อง และยังมีการโทรศัพท์ขู่ฆ่าหากยังไม่เลิกต่อสู้ด้วย ซึ่งตนขอบอกตรงนี้เลยว่า หากตนเป็นอะไรไปไม่มีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องนี้เท่านั้น ทั้งนี้ตนไม่กลัวและจะไม่หยุดการตรวจสอบ เพราะเรื่องการทุจริตเป็นสิ่งที่ออมชอมไม่ได้ แม้ว่านายแสงประทีป บุญน้อม นายอำเภอนาดูร จะพยายามให้ออมชอมด้วยการให้รับของไปก็ตาม ตนยอมรับการทุจริตและขบวนการต้มตุ๋นเช่นนี้ไม่ได้
ด้านนายองอาจกล่าวว่า ทางหัวหน้าพรรคและพรรคได้รับเรื่องร้องเรียนทำนองเดียวกันมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีกรณีนี้ที่มีหลักฐานชัดเจนก็จะรวบรวมทุกเรื่องที่ร้องมายังประชาธิปัตย์ ไปยื่นให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบพร้อมกับเรื่องจำนำข้าวในสัปดาห์หน้า