นายกรัฐมนตรีร่าเริง ขอบคุณ ส.ส.308 เสียงที่โหวตไว้วางใจ ปัดแลกเก้าอี้พรรคภูมิใจไทย ส่วนปัญหาขึ้นค่าแรง 300 บาทอ้างไม่กระทบแรงงาน-ภาคอุตสาหกรรม พร้อมมีมาตรการช่วยเหลือ ถามลอยกระทงบอกไม่ไป ไม่ได้นอนหลายวันแล้ว ขออนุญาตจำศีลอยู่กับบ้าน ฝากตำรวจดูแลความปลอดภัย
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 17.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมวุฒิสภานัดพิเศษ เพื่อเปิดอภิปรายทั่วไปคณะรัฐมนตรีโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 ถึงผลการอภิปรายของรัฐมนตรีตลอด 3 วันที่ผ่านมาว่า ต้องถือโอกาสนี้ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และพี่น้องประชาชนที่ได้ติดตามการอภิปราย ขอเรียนว่าในส่วนของการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกอย่าง ได้พยายามมุ่งมั่นที่จะทำงานต่างๆ และการทำงานที่มีข้อห่วงใยเรามีเจ้าหน้าที่ที่คอยรับเรื่องไว้ ทุกอย่างทุกเรื่องถ้าข้อใดที่เราสามารถนำมาพิจารณาได้ เราก็ต้องการที่จะให้ได้รับความร่วมมือและเปิดใจที่จะรับร่วมกัน ส่วนสิ่งต่างๆที่ต้องการให้รัฐบาลตรวจสอบ ยืนยันว่าพร้อมในการตรวจสอบเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชัน แต่บางอย่างที่เราได้รับมาอาจจะมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน คงจะให้เจ้าหน้าที่ขอรายละเอียดทั้งหมด เพื่อให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องเข้าไปทำงานและชี้แจงให้ทราบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า 308 คะแนนที่ได้มา โดยมีพรรคภูมิใจไทยร่วมด้วย ถือว่ามีนัยอะไรหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า คงจะอยู่ในดุลพินิจของผู้ที่ให้ ท่านคงฟังจากการอภิปราย โดยพิจารณาภาพรวม และเห็นว่าเป็นอย่างไร ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงและขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ดิฉันเองมีกำลังใจในการทำงานต่อไป เมื่อถามย้ำว่าคะแนนเสียงที่ได้มาครั้งนี้ เป็นสัญญาณอะไรเกี่ยวกับเก้าอี้ให้กับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยิ้มพร้อมกล่าวว่า เพิ่งจะปรับ ครม.อย่าเพิ่งพูดเลย เราเพิ่งจบการอภิปรายไปเอง
เมื่อถามว่า สำหรับรัฐมนตรีที่ไม่สามารถชี้แจงให้กระจ่างได้จะดำเนินการอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็ชี้แจงอยู่ บางส่วนก็จะให้นัดที่กระทรวงในการชี้แจงเป็นรายกระทรวงเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพราะว่าข้อมูลบางอย่างอาจไม่ตรงกัน และอาจคลาดเคลื่อน ก็จะให้รัฐมนตรีลงไปดูในรายละเอียด เราจะใช้ทุกวิถีทางในการให้ข้อมูล และพร้อมที่จะนัดกับสื่อมวลชนในการให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม
ส่วนปัญหาการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่จะเริ่มในวันที่ 1 ม.ค. ซึ่งค่อนข้างมีผลกระทบในวงการอุตสาหกรรม น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เรื่องค่าแรง 300 บาท เป็นการตกลงไตรภาคี และในส่วนข้อโต้แย้งต่างๆ เราคงไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ ในส่วนของบริษัทเอสเอ็มอีต่างๆ ที่มีผลกระทบรัฐบาลโดยมติ ครม.ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการในการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ซึ่งจะเข้าไปทำงานร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งเราจะทำการช่วยเหลือดูแล เพราะในส่วนของจังหวัดที่เราขึ้นในเฟสแรก เราได้มีมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือ ซึ่งกลุ่มตรงนี้เราจะนัดประชุมกับคณะกรรมการ นำโดย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่จะพูดคุยกันในกลุ่มของอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบว่าจะมีมาตรการอะไรในการช่วยเหลือดูแลบ้าง โดยจะทำควบคู่กันไป
เมื่อถามว่าจะเตรียมรับมืออย่างไรหากมีการขึ้นค่าแรงแล้วส่งผลให้แรงงานตกงานมากขึ้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ในภาพรวมจะไม่มีแรงงานตกงาน เพราะภาพรวมวันนี้เราต้องการฝีมือแรงงานมากขึ้นด้วยซ้ำไป ซึ่งในส่วนของแรงงานคงจะปรับไปตามอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่เราต้องทำควบคู่กันไป คือทำอย่างไรให้ฝีมือแรงงานมีคุณภาพที่ดีขึ้น แลบริษัทที่ใช้ฝีมือแรงงานนั้นมีคุณภาพและได้คุณภาพ ผลผลิตกลับมา ขณะเดียวกันการที่จะเพิ่มแรงงานต่างชาติต้องทำให้ถูกกฎหมาย เป็นระบบมากขึ้น ซึ่งเราจะต้องแก้ปัญหาทั้งระบบอีกครั้ง ขอเรียนยืนยันว่าในส่วนมาตรการขึ้นค่าแรง 300 บาท เป็นไตรภาคี ซึ่งรัฐบาลเองก็รับข้อห่วงใย และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับภาคเอกชนที่มีผลกระทบ และเราจะได้ช่วยกันดูว่าจะแก้ไขอย่างไรในแต่ละอุตสาหกรรม
เมื่อถามว่า หากภาคอุตสาหกรรมไม่สามารถรับภาระเรื่องการจ่ายค่าแรงได้ และนำเครื่องจักรเข้ามาใช้แทนแรงงาน รัฐบาลจะมีการรับมืออย่างไร นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ แล้วทุกอย่างนั้นไปควบคู่กัน เมื่อค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น สิ่งที่เราต้องทำคือทำอย่างไรให้มีผลผลิตมากขึ้น ขณะเดียวกันถ้าหาใช้เครื่องจักรเข้ามา เมื่อเครื่องจักรสามารถผลผลิตผลผลิตได้มากก็จะขายของได้มาก และจะมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจะควบคู่กันไป คงไม่มีใครลงทุนกับเครื่องจักรโดยที่ไม่มีรายได้เพิ่ม ทุกอย่างคงจะมีการศึกษาโครงการอย่างสมดุล เพราะการลงทุนต่างๆ เรามีมาตรการในการลงทุน ส่งเสริมการเพิ่มผลผลิต รวมถึงเรื่องการลดพลังงาน จะเห็นว่าเรามีทุกมาตรการในการดูแล
ในตอนท้ายเมื่อถามว่า วันนี้นายกฯ จะไปลอยกระทงที่ไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงไม่ไป เพราะไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชน จริงๆ ก็อยากไปลอยกระทง แต่ยังไม่ได้พักผ่อน คงจะอยู่ที่บ้าน ขออนุญาตเก็บตัวอยู่ที่บ้าน และเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ อยากเห็นประชาชนลอยกระทงด้วยความสดใส และปลอดภัย อย่างไรก็ตามได้ฝากทางหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน และอยากเห็นรอยยิ้มและบรรยากาศความสดใสของคนไทยตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ตลอดการให้สัมภาษณ์นายกฯ มีรอยยิ้มและสีหน้าสดใสอยู่ตลอดเวลา
