เก็บไว้ในใจ-รอจังหวะ !!

เกาะกระแส

00 เห็นการชุมนุมของประชาชนเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมานำโดย “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่แม้ว่ายุติลงในเวลาอันรวดเร็วเกินคาด สาเหตุอาจเป็นเพราะเกรงว่าพี่น้องที่มาร่วมจะเกิดอันตราย เมื่อมีแนวโน้มอย่างชัดเจนจาก “เจ้าหน้าที่รัฐตำรวจแดง” ที่วางกำลังทั้งเปิดเผยและซุ่มซ่อนอยู่ในที่มืดที่สูงแบบที่เห็นเงาวูบวาบ จนเห็น “รังสีอำมหิต” แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ หรืออีกสาเหตุหนึ่งก็คืออาจเป็นเพราะมีคนเข้าร่วมน้อยไม่เข้าเป้า ก็ว่ากันไป แต่หากมองอีกมุมหนึ่งก็เชื่อว่าการชุมนุมในวันดังกล่าวได้เห็น “ธาตุแท้” ของตำรวจที่ “เลือกข้าง” พร้อมที่จะปกป้องรับใช้ถวายชีวิตนักการเมืองที่เป็นรัฐบาลของครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น

00 จากพฤติกรรมของตำรวจทั้งระดับลูกน้องปลายแถวไล่เรียงขึ้นไปจนถึงระดับหัว ถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน.และบนสุดคือ ผบ.ตร.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว คนพวกนี้ได้ตอบแทนนายได้ถึงขนาด และไม่ผิดหวังที่ “มีวันนี้เพราะพี่(แม้ว)ให้” การระดมสีกากีเข้ามาป้องกันครอบครัวชินวัตรในตอนแรกพอพูดถึงตัวเลขจำนวนเท่านั้นเท่านี้กองร้อย จำนวนนับหมื่นคนยังนึกภาพความอลังการไม่ออก แต่พอได้เห็นภาพตำรวจในเครื่องแบบที่ออกมาตบเท้าโชว์ “ประกาศชัยชนะ”เต็มลานพระรูปก่อนปล่อยแถวกลับที่ตั้งทั่วประเทศเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ก็ได้แต่อึ้งพูดไม่ออก หลายความรู้สึกประดังพรั่งพรูออกมา แต่สรุปรวมก็คือ เลือกข้างให้เห็นชัดเจนแล้วว่า “กูคือตำรวจแดง”

00 แม้ว่า “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ จะประกาศยุติบทบาท เลิกยุ่งกับม็อบหันหลังให้การเมือง ก็เป็นเรื่องของเสธ.อ้าย แต่สำหรับพลังของพี่น้องประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมในวันนั้น หรือว่าให้กำลังใจอยู่ที่บ้านก็ยังต้องเดินหน้ากันต่อไป เพียงแต่จะต้องปรับจังหวะก้าว สะสมพลังรอให้สถานการณ์ให้ “สุกงอม” กันให้มากกว่านี้ อีกทั้งที่สำคัญ “อย่าไปหวังพึ่งพาอำนาจอื่น” เราต้องเดินนำหน้าเท่านั้น

00 จริงอยู่แม้ว่าการออกมาจะต้องมี “ความเกลียด” เป็น “แรงส่ง” อันสำคัญ แต่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ “เป้าหมาย” ต้องชัดและสำเร็จ และการจะต่อกรกับ ระบอบ “ทรราชทักษิณและหุ่นเชิด” เครือข่ายกลุ่มนี้ลงไปได้ก็ต้องปรับกระบวนกันใหม่ เพราะฝ่ายตรงข้ามเขาก็ปรับกระบวนไม่เหมือนเดิมแล้ว มีการอำพรางที่ดูซับซ้อนขึ้น แม้ว่าใครก็ตามที่ติดตามมาตลอดจะจับได้ไล่ทันไม่ยาก แต่ก็ยังเชื่อว่ามีอีกมากมายที่ยัง “มองไม่ออก”

00 การโค่นล้มรัฐบาลทรราช ต้องใช้เวลา แม้จะเจ็บปวด ต้องปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้แหละ ในเมื่อเราเห็นแนวโน้ม “หายนะ”รออยู่ข้างหน้า โดยเฉพาะอันเกิดจากน “โยบายมักง่าย” ทั้งหลายแหล่ เพราะทุกอย่างมันไม่มีทางเป็นความลับดำมืดไปได้ตลอดไปหรอก แต่กระบวนการ “ตรวจสอบ” โดยภาคประชาชนและสื่อบางสำนักที่กล้ายืนหยัดต่างหากที่จะบ่อนเซาะลงทุกวัน และเมื่อรู้เท่าทันแล้วก็ต้องเตรียมรับมือกับความเจ็บปวดที่จะมาถึงให้พร้อมด้วย เพราะหากพิจารณากันตามความเป็นจริงด้วยระยะเวลาผ่านมาแค่ “ปีกว่า” เท่านั้นแม้จะเห็นถึงความล้มเหลว-ห่วยแตกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จริง แต่มันก็ยังเป็นข้ออ้างในการขอโอกาสตามระบอบไปได้อีก แต่ตราบใดก็ตามที่มีความพยายามลบล้างความผิดให้คนโกงอย่าง ทักษิณ ชินวัตร เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะมาในรูปกม.ปรองดอง หรือการแก้ รธน.เมื่อนั้นแหละ จะเกิดความ “รู้สึกร่วม” จะประดังออกมาทุกทาง ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่มีกำลังตำรวจแดงแค่นี้ ต่อให้มีเพิ่มอีกเท่าก็เอาไม่อยู่ เชื่อเถอะ !!

00 ใครที่ได้เห็นได้ฟังการแถลงชี้แจงของ นายกฯปู คนสวยในสภาเมื่อวันที่ 26 พ.ย.แล้วบอกว่าเป็นการชี้แจงที่มีสาระได้น้ำได้เนื้อก็ต้องว่าเป็น “จำพวกหลง” แบบหน้ามืดแบบเข้าเส้น หน้ามืดตามัวและต้องปล่อยไปให้เข็ด แต่ถ้าใครที่มีสติรับรองว่านี่คือ “ใบเสร็จสำคัญ” อีกใบหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย พูดเหมือนคนไม่มีภูมิความรู้ พูดไปเรื่อยเปื่อย สักแต่ว่ามีคนเขียนให้อ่านโพย ตามบทกว้างๆ ไปมาสามวาสองศอกออกทะเลหายต๋อมไปเลย เมื่อเห็นแบบนี้บางทีอาจไม่จำเป็นต้องออกแรงอะไรมาก ทุกอย่างมันจะเปิดเผยประจานออกมาเอง เพียงแต่ต้องกัดฟันรออีกระยะหนึ่งเท่านั้น !!