“ชูวิทย์” ซัด “เหลิม” ลำเอียงปราบบ่อน-ทิ้งงานสร้างโรงพัก เจ้าตัวโต้สาบานรับเงินขอให้วิบัติ

มาแล้ว! คู่รักหักเหลี่ยมโหดในสภา ส.ส.รปท.อภิปรายรองนายกฯ ดูแล สตช. ลำเอียงปราบบ่อน เล่นพรรคเล่นพวก ปล่อยผู้รับเหมาทิ้งงานโรงพัก 369 แห่ง เทียบกับห้องทำงานเดือนเดียวเสร็จ ประดับห้องอย่างหรู วอน “ปู” เป็นพญาระกาแล้วไม่ต้องไว้ใจ ด้านรองนายกฯ สาบานถ้ารับเงินบ่อนให้ชีวิตวิบัติ ปัดเอี่ยวสร้างโรงพักอ้างสมัย ปชป. ส่วนห้องทำงานอ้างของตกแต่งเอาจากบ้าน กล้าพูดไม่มีเรื่องทุจริตในชีวิต

วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทยในฐานะฝ่ายค้านลุกขึ้นอภิปราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยก่อนเริ่มการอภิปรายนายชูวิทย์ได้นำพระแก้วมรกตมายืนยันว่าจะไม่พูดเรื่องส่วนตัว แต่เน้นการอภิปรายด้วยข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงเท่านั้น ทั้งนี้นายชูวิทย์ได้เปิดคลิปบ่อนการพนันใน จ.พิษณุโลก ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม รร.น่านเจ้า โดยอ้างว่าบันทึกไว้เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ทั้งนี้ สาเหตุที่ยังคงมีการเปิดบ่อนการพนันนั้นเป็นเพราะรองนายกรัฐมนตรีได้เคยพูดให้สัมภาษณ์ว่าคลิปไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานได้

“ร.ต.อ.เฉลิมเคยพูดว่าคลิปการพนันนั้นใช้จับไม่ได้ เพราะมีแค่คลิปและอุปกรณ์การเล่นการพนันเพียงอย่างเดียวไม่ถือว่าเป็นความผิด ทั้งๆ ที่คลิปของผมครบองค์ประกอบความผิด ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว มีทั้งไพ่ คนเล่น เงิน และพฤติกรรมการเล่น จะใช้ไม่ได้ได้อย่างไร ในเมื่อที่ผ่านมาการจับโจรใต้ก็ใช้คลิปจากกล้องซีซีทีวี หรือแม้แต่ตอนย้าย ผบ.ตร.ก็ยังบอกว่าคลิปชัดเจน ต้องย้ายต้องโดน แต่เมื่อย้าย ผบ.ตร.เสร็จแล้วได้เห็นคลิปกลับบอกว่าใช้ไม่ได้” นายชูวิทย์กล่าว

นายชูวิทย์ยังกล่าวถึงคลิปบ่อนรัชดาฯ ที่เคยนำออกมาเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือจากจเรตำรวจและ บช.น.ลงวันที่ 23 ส.ค.เรื่องคลิปบ่อนรัชดาฯ โดยเนื้อหาระบุว่าผลการตรวจสอบนั้นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสนใจ เอาใจใส่ต่อการปฏิบัติภารกิจ และสั่งให้ยุติเรื่อง ถือว่าคดีในทางวินัยนั้น เจ้าหน้าที่กลับให้ความช่วยเหลือกัน เห็นได้จากตำรวจดำเนินคดีอาญาต่อ โดยออกหมายจับเลขที่ 1072/2554 ลงวันที่ 2 ก.ย. 54 เพื่อจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดี นอกจากนี้ตำรวจยังเห็นควรสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 24 พ.ย.เรียกว่าคดีทางอาญาก็ดำเนินการไป แต่คดีทางวินัยกลับช่วยกันยุติเรื่อง แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ร.ต.อ.เฉลิมใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน แต่ใช้ไปใน 2 ทาง คือ ทั้งขาวและดำ หลังจากยุติเรื่องมีรถเบนซ์ที่ซื้อจากโชว์รูมพระราม 9 มูลค่า 3.8 ล้านบาท ขับไปวนเวียนอยู่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แสดงให้เห็นว่าระบบตำรวจไทยล่มสลายแล้ว

นายชูวิทย์ยังอภิปรายโจมตี ร.ต.อ.เฉลิมในโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ (ทดแทน) จำนวน 396 หลัง งบประมาณ 5,848 ล้านบาท โดยเริ่มโครงการตั้งแต่ 26 มิ.ย. 54 สิ้นสุดสัญญา 17 มิ.ย. 55 แต่มีการขยายเวลาการสิ้นสุดโครงการถึง 13 ม.ค. 56 รวมใช้เวลา 660 วัน แม้โครงการนี้จะอยู่ในอนุมัติในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ แต่อยู่ในความดูแลของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย 510 วันภายใต้การกำกับของ สตช.ที่ ร.ต.อ.เฉลิมดูแล แต่ขณะนี้เหลือระยะเวลาเพียง 43 วันที่โครงการจะสิ้นสุดลง สถานีตำรวจทั่วประเทศยังไม่แล้วเสร็จ กลับมีทั้งการทิ้งงาน ปล่อยพื้นที่รกร้างและหลายแห่งยังไม่เริ่มการก่อสร้าง ในขณะที่ห้องทำงานส่วนตัวของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ สตช.กลับตกแต่งแล้วเสร็จอย่างสวยงามด้วยงบประมาณ 2 ล้านกว่าบาทในระยะเวลาเพียง 1 เดือน โดยไม่ทราบว่าเป็นงบประมาณของใคร เป็นงบของ สตช.หรือเป็นงบนักเลงที่ไปใช้ให้คนอื่นสร้าง

นายชูวิทย์กล่าวด้วยว่า การทำหน้าที่ตรวจสอบบ่อนการพนันในฐานะฝ่ายค้านของตนถูกคุกคามถึง 8 ครั้งในระยะเวลาเพียง 2 เดือน โดยมีทั้งการนำประทัดยักษ์ ลูกเปตอง ลูกดัมเบรล ก้อนหิน และก้อนปูนขนาดใหญ่ปาใส่ประตูและกระจกโรงแรมของตน ทั้งนี้อยากฝากไปยังนายกรัฐมนตรีว่าอย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจเฉลิม จะจนใจเอง

“วันนี้นายกฯ เป็นพญาระกาแล้ว อย่าไปพึ่งใคร ให้พึ่งตัวเอง เพราะเห็นได้ว่าที่ตนพูดมาทั้งหมดนั้น ทำให้ผมไม่สามารถไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิมได้ เพราะหากอะไรที่เป็นประโยชน์ ร.ต.อ.เฉลิมจะใช้อย่างหนึ่ง แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ก็จะใช้อีกอย่างหนึ่ง” นายชูวิทย์กล่าว

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวชี้แจงหลังจากที่นายชูวิทย์อภิปรายว่าคลิปที่นายชูวิทย์นำเอามาอภิปรายนั้นมีไม่มากเท่าของตน เพราะบ่อนการพนันรัชดาฯ นั้นไม่เหมือนกับบ่อนที่อื่น เนื่องจากมีการเล่นกับแบบลาสเวกัส เหมือนบ่อนอาชีพ และทันทีที่ตนรับผิดชอบ อะไรที่เสื่อมเสียตนยอมไม้ได้ แต่บ่อนการพนันที่อื่นตนยอมรับว่ามี และเราก็ดำเนินการสืบสวนสอบสวน จับกุม ถ้านักการเมืองอย่างตนรับเงินจากบ่อนการพนันขอให้พบกับความหายนะในเร็ววัน

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ตนอยากจะสอนนายชูวิทย์ว่า ที่ผ่านมามีอาชีพอะไรมาก่อน ตนไม่ได้รังเกียจซ่อง และนายชูวิทย์เคยถูก ปปง.ยึดทรัพย์ฐานค้าประเวณี และบาร์เบียร์ก็ถูกศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 5 ปี แต่ตนก็เชื่อข้อมูลในฐานะที่นายชูวิทย์เป็น ส.ส.พรรคฝ่ายค้านในสภาฯ นายชูวิทย์อาจจะเข้าใจผิดว่านายกรัฐมนตรีพึ่งตน แต่อยากจะบอกว่านายกรัฐมนตรีไม่เคยพึ่งตน มีแต่ตนที่ไปพึ่ง เพราะเป็นถึงผู้นำประเทศ

“การที่นายชูวิทย์นำพระมาที่ประชุมก็ดีแล้ว ผมขออธิษฐานต่อหน้าพระองค์นี้ ถ้านักการเมืองอย่างผมรับเงินจากบ่อนการพนันขอให้พบกับความหายนะในเร็ววันนี้ และหากนักการเมืองคนใดที่อยู่ในสภาฯ ไปรับเงินจากบ่อนการพนันก็ขอให้พบกับหายนะเช่นกัน” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวต่อว่า มีเจ้าของอาบอบนวดบังคับผู้หญิงในอาบอบนวดค้าประเวณี เป็นความชั่วที่ผิดมากที่สุด เพราะเป็นการไปบังคับเขา ส่วนการพนันมีมานานแล้ว ไม่ได้มามีเมื่อนายชูวิทย์พูด มีบันทึกมาโดยตลอด และตนก็สั่งการเน้นย้ำในทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด การพนัน สถานบริการ และธุรกิจที่ผิดกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งตั้งแต่ตนเข้ามารับผิดชอบได้ 1 ปีเศษ ได้มีการติดตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ก.ตร.โดยสถิติในการจับกุมในรอบปีงบประมาณ 2555 พบว่าบ่อนการพนันที่สำคัญจำนวนทั้งหมด 48,501 ราย ผู้ต้องหาการพนัน 120,025 คน จับกุมความผิดของสถานบริการ 1,550 ราย และแหล่งอบายมุขที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อย ตรงไหนที่นายชูวิทย์บอกไม่ได้จับ นายชูวิทย์เอาข้อมูลมั่วๆ มาพูดเอามันแล้วไม่รับผิดชอบ และตนไม่เคยเอาผู้หญิงมากักขังและค้าประเวณี ตนมีแต่ทำหน้าที่จับกุมเท่านั้น และสถิติการค้าประเวณีก็อยู่ที่ 27,473 ราย และแบ่งออกเป็นผู้ต้องหา 28,059 คน

ส่วนกรณีห้องทำงานส่วนตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของ ร.ต.อ.เฉลิมนั้น ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า โต๊ะ เก้าอี้ ที่เห็นภายในห้องทำงานนั้นเป็นคนนำมาจากบ้านพักของตัวเอง เพื่อมาวางที่ห้อง ไม่เคยเบิกเงินของราชการ แม้กระทั่งเบี้ยเลี้ยงทางราชการตนก็ไม่เคยเบิก เคยใช้เพียงแค่ตั๋วเครื่องบินของสภาฯ เท่านั้น ส่วนคลิปรถเบนซ์ที่นายชูวิทย์นำมาเปิดนั้น คนอย่างตนเติบโตมาจากตำรวจถึงแม้ว่าตนจะไม่ร่ำรวยเหมือนนายชูวิทย์ แต่ขอให้ระบุมาว่าใครเป็นคนขับรถคันดังกล่าว เพราะตนไม่ได้นั่งรถเบนซ์ แต่นั่งเบนลีย์ของลูก และตนไม่เคยไปเอาผลประโยชน์อะไรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงด้วยว่า การจับบ่อนการพนัน จะบอกให้อุปกรณ์การเล่นพนันอย่างเดียวนั้นไม่สามารถเอาผิดได้ ต้องจับได้ในขณะลักลอบเล่นการพนัน และมีการเอาทรัพย์สินกัน ส่วนคลิปที่นายชูวิทย์นำมาเปิดในวันนี้ขอให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 รีบไปดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าคลิปที่นายชูวิทย์เปิดนั้นยังมีไม่เท่า 1 ใน 10 ของคลิปที่ตนมี

“ส่วนที่นายชูวิทย์ถูกข่มขู่ โดยคนร้ายบุกทุบและขว้างปาอาวุธที่โรงแรมเดวิส ที่นายชูวิทย์เป็นเจ้าของอยู่ถึง 8 ครั้งนั้น ผมไม่สามารถรู้ได้ ต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ หากตำรวจไม่รับดำเนินคดีก็ให้มาร้องที่นายกรัฐมนตรีหรือผมได้ จะดำเนินการให้ เพียงแต่เรื่องแบบนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องมาอภิปรายในรัฐสภา นอกเสียจากว่านายชูวิทย์อยากเด่นอยากดัง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวชี้แจงถึงเรื่องการจับกุมยาเสพติด ที่ตนเป็นคนเอาหลักฐานไปให้ทางการจีน จนสามารถดำเนินการจับกุมนายหน่อคำ และศาลมีคำสั่งประหารชีวิต เอาสมองส่วนไหนมาคิดว่าตนไม่ทำงานเรื่องนี้ ส่วนเรื่องการสร้างโรงพักนั้น ตนไม่เคยมีส่วนเกียวข้อง ถ้าไม่ชี้แจงจะมีการเข้าใจผิด เพราะเรื่องการทุจริตในชีวิตของตนไม่มี เรื่องนี้มีพ่อตานักการเมืองอนุมัติได้ไป เพราะมีนักการเมืองชั่วๆ เก็บต๋งไปแล้ว การก่อสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศเริ่มครั้งแรก สมัย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ขณะนั้น จนมาถึงสมัย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ดำเนินการสร้างจำนวน 396 หลัง ในปี 2552 พรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้กำกับดูแล สตช. โดยมีนักการเมืองไปขอร้องให้ สตช.ทำเรื่องเสนอ ครม.ทำการจัดสร้างอาคารและที่พัก จึงทำให้บริษัทเดียวได้รับไปจึงทำให้มีปัญหา ยืนยันว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ภายหลังการอภิปราย นายชูวิทย์ได้นำเอกสารที่อ้างว่าเป็นหลักฐานสำคัญในการแต่งตั้ง พล.ต.ต. ที่มีอักษรย่อ พ. ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการ ขึ้นเป็นผู้บัญชาการ ในขณะที่ศาลอาญามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี แม้ศาลจะให้รอลงโทษเป็นเวลา 2 ปีก็ตาม แต่ถือว่าเป็นการแต่งตั้งที่ไม่เหมาะสมและไม่โปร่งใส ส่วนคดีบ่อนกิ่งเพชรที่ตนยื่นฟ้อง พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 นั้น ยืนยันว่าเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2555 ศาลอาญาได้พิจารณาไม่รับฟ้อง และข้อมูลที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พูดระหว่างการชี้แจงการอภิปรายในรัฐสภาว่า คดีดังกล่าวนั้นศาลได้รับฟ้องไปแล้ว ถือเป็นข้อมูลที่บืดเบือน

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ยังยืนยันว่าคลิปต่างๆ ที่เกี่ยวกับบ่อนการพนันที่นำมาเปิดเผยนั้น เป็นคลิปที่เชื่อถือได้และเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีการกระทำความผิดและความผิดนั้นได้สำเร็จแล้ว รวมทั้งมีวันเวลาระบุไว้อย่างชัดเจน ซึ่งส่วนตัวไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงระบุว่า ไม่สามารถใช้คลิปวิดีโอเป็นหลักฐานการดำเนินคดีจับกุมผู้กระทำความผิดได้ ทั้งนี้คลิปก็เหมือนกับภาพที่ได้จากกล้องซีซีทีวีที่เจ้าหน้าที่ใช้จับกุมคนร้ายเช่นกัน