xs
xsm
sm
md
lg

“ปานศิริ” สั่งทุก บช.จัดชุดขยายผลปราบยานรก

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.
พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับกองบัญชาการต่างๆ โดยสั่งให้ทุก บช.จัดชุดขยายผลการปราบปรามยาเสพติด ด้านโฆษก สตช.สั่งสันติบาลและภาค 5 ตรวจสอบข่าวลอบสังหารแม้ว เผยข่าวลอบสังหาร “เหลิม” ปูดเอง ส่วน ตร.ยังไม่มีรายงานเรื่องนี้แต่อย่างใด

วันที่ 5 พ.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รอง ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับกองบัญชาการต่างๆ

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร.แถลงภายหลังการประชุมว่า รอบ 1 เดือนที่ผ่านมาทาง ตร.ได้สรุปคดีที่สำคัญจำนวน 27 คดี โดย 21 คดีสามารถคลี่คลายได้แล้ว ส่วนอีก 6 คดียังอยู่ระหว่างการเร่งรัดคดี ประกอบด้วย 1. คดีจับไม้พะยูงในพื้นที่ บช.ภ.3-4 ที่ในที่ประชุมมีการกำชับให้ทาง บช.วิเคราะห์เส้นทางการขนไม้พะยูง รวมถึงวิเคราะห์ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูงขึ้นมาอีก 2. คดียิงกันในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จากการสอบสวนพบว่าเป็นปมการล้างแค้น ฉะนั้นทาง ผบ.ตร.จึงได้กำชับว่าอย่าให้เกิดเหตุทำนองนี้อีก เพราะบ้านเมืองต้องมีกฎหมาย และทาง พล.ต.อ.ปานศิริ ได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาขัดแย้งในพื้นที่ เช่น ก่อนเกิดเหตุต้องมีการสำรวจพื้นที่ให้ทราบถึงพฤติการณ์ความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ เมื่อพบปัญหาให้ตรวจสอบว่าดำเนินการตามกฎหมายอยู่ขั้นตอนใด จัดทำแผนเผชิญเหตุตามแผนกรกฎ 52

“ขณะเกิดเหตุนั้นให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการระงับเหตุให้อยู่ในแนววงจำกัด โดยยึดหลักการเจรจาต่อรอง ลดเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา หากเหตุการณ์บานปลายมีลักษณะรุนแรงให้ดำเนินการตามแผนกรกฎ 52 ส่วนหลังเกิดเหตุหากพบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด โดยให้ผู้บังคับบัญชาระดับ บช.ภ., บก.ภ.จว.ควบคุมกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เร่งรัดการดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้การสอบสวนต้องให้ได้มาซึ่งความจริง” โฆษก ตร.กล่าวพร้อมระบุว่าแผนดังกล่าวจะให้แต่ละพื้นที่ยึดเป็นแนวปฏิบัติ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า 3. คดีที่เกี่ยวข้องระหว่างการหาเสียงที่ จ.ลพบุรี 4. คดีการค้าประเวณีที่ สภ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ที่ต้องดำเนินคดีให้สอดรับกับนโยบายการค้ามนุษย์ของรัฐบาล 5. คดีที่คนร้ายปาหินใส่โรงแรมเดวิส กทม.ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ 6. คดีขมขู่ทวงหนี้เผารถยนต์ในพื้นที่ สภ.บางละมุง

นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้พูดคุยถึงการเร่งรัดดำเนินการตาม 5 มาตรการนโยบายของ ผบ.ตร.ประกอบด้วย 1.การจัดตั้ง ศปก.ทุกระดับให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ม.ค. 2556 ซึ่งจะเป็นศูนย์ที่ช่วยเร่งรัดการปราบปรามอาชญากรรม 2. ระบบการแจ้งเหตุอาชญากรรม 191 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ สทส. 3. การวางระบบเครือข่ายป้องกันอาชญากรรม โดยเรื่องนี้ทาง พล.ต.ท.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ผู้ช่วย ผบ.ตร.ดูแลอยู่ ส่วนข้อที่ 4. เป็นการทำบันทึกข้อตกลงกับสถานบริการ 5. การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากสถานประกอบการ ซึ่งเรื่องนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เริ่มต้นทำเป็นแบบอย่างแล้ว

“โดยปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในสถานบริการได้เน้นย้ำใน 3 ส่วน คือ ต้องไม่ให้เด็กต่ำกว่า 18 ปีเข้าไปใช้บริการ และต้องไม่มียาเสพติดในสถานที่ประกอบการ ไม่ให้มีการค้าประเวณี รวมถึงต้องเปิดปิดตามเวลา” โฆษก ตร.กล่าว

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันทาง พล.ต.อ.ปานศิริ ได้สั่งให้ทุก บช.ตั้งชุดสืบสวนขยายผลในการแก้ปราบปรามปรามยาเสพติด โดยโยงไปถึงนอกราชอาณาจักรด้วย นอกจากนี้ชุดวิเคราะห์อาชญากรรมของแต่ละ บช.จะต้องมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานรวมอยู่ด้วย ที่จะต้องมีการประสานกับเจ้าหน้าที่นิติเวชตามโรงพยาบาลต่างๆ เข้ามาร่วมในชุดสืบสวนด้วย สำหรับการแก้ไขปัญหาแก๊งรถซิ่งให้ยึดต้นแบบในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร และเมื่อมีการจับกุมผู้ขับขี่ให้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหากับผู้ปกครองตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน ทั้งนี้หากพื้นที่ใดปล่อยให้มีเหตุอาชญากรรมซ้ำๆ ในลักษณะเดิม ก็จะมีผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายด้วย

พล.ต.ต.ปิยะยังกล่าวถึงกรณีมีการจับอาวุธสงครามจำนวนมากบริเวณชายแดนไทย-พม่า โดยมีกระแสข่าวเชื่อมโยงว่าอาจจะเป็นแผนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาทำบุญใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงรายว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบด้านการข่าวว่าการจับอาวุธดังกล่าวจะมีความเกี่ยวข้องกับการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ แต่ขณะนี้ได้สั่งการให้ตำรวจสันติบาล และตำรวจภูธรภาค 5 เข้าไปตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ยืนยันว่ามีข่าวลอบสังหารจริงนั้นเป็นเพียงการข่าวของทางรองนายกฯ ส่วนของตำรวจยืนยันว่ายังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้แต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น