“เสธ.อ้าย” หยัน “แม้ว” โกหกเสียเคยตัว ยันไม่มีตังค์จ้างม็อบ อุบทีเด็ดไล่รัฐ

“ปธ.อพส.” แย้มเปิดคลิป “นช.แม้ว” และสาวกจาบจ้วงสถาบัน ยันไม่บุกสถานที่ราชการ แต่อาจล้อมพื้นที่ ลั่นไม่มีเงินจ้างหัวละพันห้า เย้ยโกหกเสียเคยตัว อุบทีเด็ดล้มรัฐบาล จ่อมีล่าชื่อไล่ ย้ำไม่มีจับตัวนายกฯ สับรัฐเอาตัวรอดใช้ พ.ร.บ.มั่นคงไม่คำนึงถึงชาติ ด้านที่ปรึกษากฎหมายสับละเมิดสิทธิสกัดคนร่วม แถมงัด พ.ร.บ.เยาวชนห้ามเด็กร่วมม็อบ ด้านก๊วนเด็กแดงใช้รถ ศธ.โผล่ยื่นหนังสือที่สนามม้าค้านชุมนุม

วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ราชตฤณมัยสมาคมฯ เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) แถลงถึงการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ว่า ระหว่างการชุมนุมจะมีการเปิดคลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง พูดจาจาบจ้วงสถาบัน โดยไม่มีการตัดต่อ และตนพร้อมที่จะเป็นผู้รับผิดชอบหากมีอะไรเกิดขึ้น และยังยืนยันว่าจะไม่มีการบุกเข้าทำเนียบรัฐบาล หรือสถานที่ราชการอย่างแน่นอน แต่อาจจะมีการล้อมในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลเพราะมีมวลชนจำนวนมาก

ทั้งนี้ พล.อ.บุญเลิศกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินมายังเวทีการชุมนุมที่สนามเทศบาลนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าผู้ชุมนุมได้รับการจ้างให้มาชุมนุมคนละ1,500 บาทนั้นว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่มีเงินมากขนาดนั้น พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนโกหกเสียเคยตัว อย่างไรก็ตาม การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นอยากให้รอดูว่าจะมีใครบ้างขึ้นเวทีปราศรัย และอะไรคือทีเด็ดในการล้มรัฐบาลที่ไม่สามารถเปิดเผยได้

เมื่อถามว่า ไม้เด็ดที่เตรียมล้มรัฐบาลเกี่ยวข้องกับการล่ารายชื่อถอดถอนรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.บุญเลิศกล่าวสั้นๆ ว่า “ก็มีส่วน” และยืนยันว่าจะไม่มีการใช้อาวุธและไม่มีการจับตัวนายกรัฐมนตรีแน่นอน

พล.อ.บุญเลิศกล่าวต่อว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ และการนำกำลังตำรวจทั่วประเทศเข้ามารักษาความปลอดภัยกว่า 18,000 นายนั้น แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลต้องการเอาตัวรอดโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของประเทศชาติและประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่ยังมีปัญหาอยู่ แต่รัฐบาลยังเกณฑ์ขึ้นมาปกป้อง ตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง ไม่คำนึงถึงชาติ และประชาชน เพราะเรายืนยันแล้วว่าจะชุมนุมอย่างสงบ

“รัฐบาลทำวิถีทางเพื่อสกัดกั้นคนที่จะมาร่วมชุมนุม รวมทั้งการอ้างหมายกำหนดของพระราชวัง ซึ่งได้มีการตรวจสอบแล้วว่าไม่เป็นความจริง” ประธาน อพส.กล่าว

ด้านนายประยงค์ ไชยศรี ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย อพส.กล่าวว่า รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในพื้นที่ 3 เขตแต่ในทางปฏิบัติกลับมีการสกัดกั้นผู้มาร่วมชุมนุมในทั่วประเทศ จึงถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน

“ตั้งแต่ประเทศมีการชุมนุมมาไม่เคยมีการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าชุมนุม แต่ครั้งนี้รัฐบาลกลับอ้าง พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2546 ในการห้ามเด็กต่ำกว่า 18 เข้าร่วมการชุมนุม ทั้งที่ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ราชประสงค์ก็มีการนำเด็กและคนแก่มาเป็นโล่กำบัง ซึ่งเยาวชนของกลุ่มเราก็เป็นเยาวชนจากสำนักสันติอโศกที่ต้องการเรียนรู้ชีวิตและระบอบประชาธิปไตย” นายประยงค์กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังแถลงข่าวมีนักศึกษาที่ใช้ชื่อกลุ่มไฟเขียวประเทศไทย ประมาณ 4-5 คน มายื่นหนังสือต่อพล.อ.บุญเลิศ เพื่อให้ยกเลิกการชุมนุม โดยถือป้ายที่เป็นรูปสัญญาณไฟจราจรสีเขียวและมีข้อความว่า “ขอให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อ” ซึ่งมีตัวแทนเยาวชน อพส.พร้อมการ์ด อพส.ออกมารับหนังสือ โดยทั้งสองฝ่ายมีการไม่พอใจกันและใช้ปากเสียงทะเลาะกันเล็กน้อย ก่อนจะแยกย้าย โดยมีรายงานว่ามีรถตู้โฟค์สีขาวของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีข้อความระบุข้างรถว่า กศน.จอมทอง มารับนักศึกษากลุ่มดังกล่าวออกไป โดยไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด