“เหลิม” นั่ง ปธ.ประชุม สมช. รับลูก “อดุลย์” ยื่น ครม.ชุดเล็กตัดสินเรื่อง พ.ร.บ.ความมั่นคง เผยกองทัพพร้อมร่วมถก “ภราดร” แจง ดุสิต-พระนคร-ป้อมปราบศัตรูพ่าย เข้าข่ายประกาศใช้ ยึดภาพลักษณ์ประเทศอาจใช้ไม่นาน ชูเจรจามากกว่าลุยปราบ ปัดขู่ผู้ชุมนุม ยันต้องใช้เหตุ กม.ปกติมีข้อจำกัด อ้างข่าวเอ็ม79 แค่เบื้องต้น
วันนี้ (22 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงเพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ซึ่งนัดชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงในวันที่ 24 พ.ย. โดยมีหน่วยงานความมั่นคงทั้งจากกองทัพ ตำรวจ และพลเรือนเข้าร่วม จากนั้น พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า การประชุมวันนี้เป็นการประเมินก่อนที่จะเกิดการชุมนุม ซึ่งได้ข้อยุติของแนวโน้มสถานการณ์ว่าจะมีความเข้มข้น เพราะประชาชนที่มาร่วมชุมนุมคาดว่าจะมีปริมาณมาก โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายและจะเป็นผู้ติดตามสถานการณ์
เลขาฯ สมช.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)เสนอในที่ประชุมขออนุมัติเพื่อเตรียมใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ซึ่งวันนี้จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดเล็ก 9 คนในเวลา 11.00 น.เพื่อพิจารณาเห็นควรว่าจะต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯตามที่ สตช.ร้องขอหรือไม่ และหากมีการประกาศแล้วจะมีระยะเวลากี่วันที่เหมาะสม ซึ่งพื้นที่ที่กำหนดไว้ในเบื้องต้นประมาณการไว้ใน 3 เขต ได้แก่ เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
เมื่อถามว่า ประเมินว่าสถานการณ์จะตึงเครียดถึงต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.เลยหรือ พล.ท.ภราดกล่าวว่า ความตึงเครียดนั้นมี แต่ในส่วนนี้เป็นความพร้อมในการจัดระเบียบที่มีหน่วยงานราชการเกี่ยวข้องหลายหน่วยจึงจำเป็นต้องให้อำนาจ ผบ.ตร.ในการบูรณาการและสิ่งสำคัญคือการจัดเส้นทางจราจรซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้
ต่อกรณีมีรายงานการเตรียมใช้อาวุธเอ็ม79 ในการชุมนุม ทาง สมช.ได้รับการรายงานหรือไม่นั้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า ตรงนี้เป็นข่าวสารชั้นต้นแต่ยังไม่สามารถตรวจค้นพบ เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้จำเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงได้หรือยัง พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ในการประเมินข่าวสารข้อเท็จจริงที่ปรากฏมีหลักฐานที่สามารถใช้ได้แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรีชุดเล็กว่าจะใช้หรือไม่ โดยถ้าประกาศก็จะประกาศในเร็ววันนี้ และประกาศในระยะสั้นที่จะเป็นเพียงการประกาศว่าจะใช้วันไหนถึงวันไหนเท่านั้น โดยตามขั้นตอนถ้า ครม.เห็นชอบก็มอบหมายให้ กอ.รมน.ที่มีคณะกรรมการอยู่แล้วประชุมเพื่อกำหนดมาตรการตามที่ ผบ.ตร.เสนอ ซึ่งอำนาจของ พ.ร.บ.ที่จะประกาศนี้มีอำนาจจำกัดเพียงแค่บูรณาการในพื้นที่ไม่ถึงกับต้องปิดสถานีโทรทัศน์หรือวิทยุ
เมื่อถามว่า แสดงว่าสถานการณ์เริ่มเปลี่ยนไปสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สงบหรือไม่ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า จากที่ผู้ชุมนุมกล่าวมาและจากการเคลื่อนไหวเห็นว่ามีมวลชนค่อนข้างมาก ซึ่งตอนนี้การเตรียมการน้ำหนักคือใช้การป้องกัน ใช้ระบบการพูดคุยเจรจา ดังนั้นจึงต้องปรับเรื่องสถานที่ให้ดี ยืนยันว่าเป็นการใช้เพื่อป้องกันมากกว่าใช้เพื่อปราบปรามระงับยับยั้ง เมื่อถามต่อว่า เป็นการติดดาบเพื่อขู่ผู้ชุมนุมหรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ไม่ใช่แต่เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุม เพราะเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการชุมนุมจะบูรณาการจัดการได้ ไม่ใช่การระงับยับยั้ง เมื่อถามว่าแสดงว่ากฎหมายที่มีอยู่ไม่สามารถจัดการได้ เลขาฯ สมช.กล่าวว่า กฎหมายที่มีอยู่นั้นมีจำกัดการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เมื่อถามว่า ที่ประชุมมีการนำดาวเทียมเพื่อติดตามสถานการณ์หรือไม่ ภราดรกล่าวว่า รับทราบว่ามีการติดต่อ ซึ่งในส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งมาตรการ อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า มีการประเมินภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ หากมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง พล.ท.ภราดรกล่าวว่า ตรงนี้มีการตระหนักกันมาก อาจมีการกระทบต่อภาพลักษณ์ การประกาศจึงประกาศใช้ในระยะสั้นและสื่อให้เห็นว่าเป็นการป้องปรามเท่านั้น ส่วนแนวคิดการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงจะสุ่มเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงหรือไม่นั้น พล.ท.ภราดรกล่าวว่าคงไม่ เพราะนโยบายของรัฐบาลชัดเจนที่จะใช้กระบวนการสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาและสั่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่มีการใช้อาวุธเด็ดขาด ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้อุปกรณ์รักษาความสงบเพียงโล่กับกระบองเท่านั้น
ล่าสุดมีรายงานว่า ครม.ได้มีมติประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 แล้ว โดยประกาศใช้ในพื้นที่ 3 เขตของกรุงเทพมหานคร คือ เขตพระนคร เขตดุสิต และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ตั้งแต่วันที่ 22-30 พ.ย.