xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทร.ไม่ห่วงม็อบ “เสธ.อ้าย” ไม่รู้เรือรบนิวเคลียร์สหรัฐฯ เทียบท่าในไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเรืองรมย์ (แฟ้มภาพ)
ผบ.ทร.ไม่ห่วงการชุมนุมม็อบ “เสธ.อ้าย” มั่นใจไม่รุนแรง ไม่รู้เรือรบนิวเคลียร์สหรัฐฯ ทอดสมอในไทย พร้อมระบุหากมีจริงกรมข่าวฯ ต้องรู้ รับที่ผ่านมาเรืองต่างชาติขอมาจอดเพื่อส่งกำลังบำรุงบ่อย ทั้งสหรัฐฯ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ วอนประชาชนในพื้นที่พังงาเข้าใจการทำงานกองเรือภาคที่ 3 ตรวจสิ่งของผิดกฎหมายและยาเสพติด


พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเรืองรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานในพิธีทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันกองทัพเรือครบรอบ 106 ปี ว่า กองทัพเรือมีอายุครบ 106 ปี โดยยึดจากวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดโรงเรียนนายเรืออย่างเป็นทางการ ณ ราชวังเดิม ธนบุรี และทรงพระราชทานพระราชหัตถเลขาในสมุดเยี่ยมของโรงเรียนนายเรือ ที่มีใจความว่า “วันที่ 20 พ.ย . รศ. 125 เราจุฬาลงกรณ์ ปร. ได้มาเปิดโรงเรียนนี้ ได้มีความปลื้มใจซึ่งได้เห็นการทหารเรือมีรากหยั่งลงแล้ว จะเป็นที่มั่นสืบไปในภายหน้า”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันกองทัพเรือต้องวางตัวในบทบาทอย่างไร พล.ร.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันตนคิดว่าเรามีบทเรียนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบทเรียนที่ทุกคนต้องศึกษาที่จะทำอย่างไรให้ประเทศชาติของเรารอดจากความขัดแย้งต่างๆ ตนคิดว่าเราเป็นพี่น้องกัน คนไทยด้วยกัน ในส่วนของกองทัพเรือก็คงจะต้องเป็นหลักเพราะทหาร กองทัพ สถาบัน เป็นหลักในความมั่นคงของประเทศชาติ

ส่วนการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 พ.ย.นี้นั้น พล.ร.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า จากที่ติดตามสถานการณ์ ตนทราบว่าผู้ที่ชุมนุมมีขอบเขตว่าจะเริ่มและเลิกชุมนุมเมื่อไหร่ และจะไม่เคลื่อนไหวไปสร้างความเดือดร้อนตามสถานที่ราชการต่างๆ คิดว่าเป็นสิ่งที่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยสามารถทำได้ ถ้าไม่ก้าวล่วงกฎหมายและสร้างความเดือดร้อนให้ส่วนราชการต่างๆ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นห่วงหรือไม่ว่าสถานการณ์จะบานปลายจนเกิดการปะทะกันของม็อบต่างๆ โดยเฉพาะมือที่สาม พล.ร.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า หลายฝ่ายก็มีความเป็นห่วงในแนวเดียวกัน ซึ่งเราก็เห็นว่าจะไม่เห็นภาพเช่นนั้น ที่ว่าจะมีมือที่ 3 หรืออะไรต่างๆ เกิดขึ้น เพราะว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน และเป็นพี่น้องกันทั้งนั้น

พล.ร.อ.สุรศักดิ์กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาส ผอ.สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ออกมาระบุว่ากองทัพสหรัฐฯ ขอตั้งฐานทัพเรือในไทย เมื่อไม่ได้จึงใช้บริษัทเอกชนบังหน้าเข้ามาเช่าที่ในท่าเรือแหลมฉบัง และขนเรือรบมาจอดประจำการฝั่งไทย โดยอ้างว่าเป็นเรือเพื่อใช้สำหรับช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทั้งที่เป็นเรือรบนิวเคลียร์ที่มีอยู่ 1 ใน 6 ลำของโลกว่า ตนไม่ทราบ แต่ที่ผ่านมาเรือไม่ว่าจะเป็นของชาติใด เวลามาก็จะต้องมีช่องทางติดต่อ ผ่านทางกรมข่าวของกองทัพเรือ ซึ่งเราจะทราบตลอด ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งเรือสัญชาติสหรัฐฯ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ที่มาส่งกำลังบำรุง เนื่องจากเวลาเดินทางไกล ทั้งน้ำ น้ำมัน อาหาร ที่จะซื้อและการปล่อยกำลังพลเพื่อพักผ่อน และทัศนศึกษาเป็นเรื่องปกติ ซึ่งทหารเรือทราบกันดีว่าเวลาจะไปไหนต้องมีการแจ้งให้ทราบ หากเขาไม่สนับสนุนเรื่องน้ำ น้ำมัน ไม่ขายให้เรา มันก็ไปไม่ได้ ซึ่งต้องมีการประสานกันก่อน

พล.ร.อ.สุรศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวประมง กับกองเรือภาคที่ 3 จ.พังงา ในการตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายว่า จากที่เราได้ติดตามเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการกองทัพเรือ ในการตรวจสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด ซึ่งกฎหมายได้มอบอำนาจให้กับกองทัพเรือ เมื่อมีการข่าวเราก็ต้องปฏิบัติ ทั้งนี้ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ให้ความร่วมมือ จากที่ต้องตรวจช้าก็สามารถทำได้รวดเร็วมากขึ้น หากไม่มีปัญหาอะไรจะได้อำนวยความสะดวกซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ขอให้เข้าใจเจตนารมณ์ของข้าราชการกองทัพเรือ เราปฏิบัติตามกฎหมายเพราะไม่เช่นนั้นก็จะไม่มีหน่วยงานใดที่จะปกป้อง และป้องกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าผู้มีอิทธิพลในพื้นที่พยายามกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ พล.ร.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีใครกดดันเจ้าหน้าที่ได้ ตนยืนยันว่าไม่มี เพราะเราทำหน้าที่และมีกฎหมายรองรับ ทุกครั้งที่เราออกปฏิบัติหน้าที่จะมีกฎหมายรองรับ และปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนเพราะว่าเราก็อยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ การประสานการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในการเข้มงวดกวดขันในการกระทำผิดกฎหมายนั้นได้ดำเนินการอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง ทางทะเลเป็นหน้าที่ของกองทัพเรือ บนบกเป็นหน้าที่ของกองทัพบกรับผิดชอบ มีการแบ่งพื้นที่กันอยู่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น