ดอกไม้ พท.ยินดี “ศันสนีย์” ขึ้นแท่น รมต. ยันไม่มีองครักษ์พิทักษ์นายกฯ เชื่อความสามารถแจงได้สบาย โว ปชช.รอฟัง แต่เตรียมโต้หากเล่นนอกประเด็น คุย รบ.มาจาก ปชต. ต่างชาติอยากร่วมงาน ผิดจาก รบ.ก่อน ขอม็อบ “เสธ.อ้าย” ชุมนุมสงบ แนะสู้ในสภาดีกว่า
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่ม ส.ส.หญิงพรรคเพื่อไทยประมาณ 10 คน นำโดยนางอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเด็กสตรีเยาวชนผู้สูงอายุ และผู้พิการ สภาผู้แทนราษฎร นางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์ ส.ส.เลย นางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น เป็นต้น เดินทางมามอบดอกไม้แสดงความยินดีแก่ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมมอบเข็มกลัด “ริบบิ้นสีขาว” เพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ในฐานะที่ น.ส.ศันสนีย์รับผิดชอบดูแลกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
จากนั้น นางอรุณีให้สัมภาษณ์กรณีที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 25-27 พ.ย.นี้ว่า ทาง ส.ส.หญิงของพรรคได้พูดคุยกันเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้ข้อสรุปว่าเรามีแนวทางชัดเจนว่าจะไม่มีการปกป้องนายกรัฐมนตรี เพราะนายกรัฐมนตรียินดีให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจเต็มที่และพร้อมที่จะตอบคำถามอยู่แล้ว ซึ่งหลักการทำงานในสภาฯ หากฝ่ายค้านทำผิดกรอบกติกาข้อบังคับของสภาฯ โดยนำเรื่องส่วนตัวมาพูด หรือเสียดสี ที่มีเนื้อหาไม่เกี่ยวข้องกับการอภิปราย เราก็พร้อมลุกขึ้นประท้วงและทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส.หญิง อย่างไรก็ตาม เดือน พ.ย.เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี จึงอยากให้กลุ่มคนที่จะมาชุมนุมต่อต้านรัฐบาลในวันที่ 24 พ.ย.ยึดหลักประชาธิปไตยและกรอบข้อบังคับตามกฎหมาย อย่าให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น แม้ว่าการชุมนุมจะเป็นสิทธิก็ตาม
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ถูกกลั่นแกล้งในสภาฯ นางเปล่งมณีกล่าวว่า ต้องดูเหตุการณ์ แต่ข้อมูลทุกอย่างเป็นข้อมูลที่เปิดเผย และเราก็รู้ข้อเท็จจริงอยู่แล้ว หากมีการกลั่นแกล้งเราก็ต้องลุกขึ้นตอบโต้ แต่ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี เพราะทุกคนทำตามหน้าที่ และข้อบังคับการประชุมสภาฯ มีอยู่แล้ว หากใครทำผิดก็ต้องลุกขึ้นประท้วง
ขณะที่นางมุกดากล่าวว่า พวกเรามั่นใจในความรู้ความสามารถและการทำงานของนายกรัฐมนตรีว่ามีพร้อม และทำงานด้วยตัวเอง สามารถตอบข้อซักถามของฝ่ายค้านได้ และมั่นใจว่าสังคมยอมรับในตัวนายกรัฐมนตรี จึงไม่อยากให้มาแช่แข็ง ดังนั้นขอวิงวอนให้สังคมช่วยกัน เพราะความรุนแรงไม่ช่วยอะไร ประเทศเรากำลังไปได้ดี ต่างชาติให้การยอมรับ
ทางด้านนางเปล่งมณีกล่าวว่า ส.ส.หญิงของพรรค ได้พูดคุยประเด็นที่มีบางฝ่ายออกมาพูดให้แช่แข็งประเทศเป็นเวลา 5 ปี โดยมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะจากที่ได้เดินทางไปดูงานหลายประเทศในฐานะ ส.ส.ทูตทุกประเทศต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารู้สึกภูมิใจที่ ส.ส.ทุกคนมาจากประชาธิปไตย และการเลือกตั้งโดยประชาชน ทำให้เขาทำงานร่วมได้เต็มที่ และให้เกียรติประเทศไทย ซึ่งผิดกับสมัยที่ผ่านมา ที่เขารู้สึกอับอาย และต้องร่วมกิจกรรมแบบหลบๆ ซ่อนๆ สิ่งนี้เป็นเสียงที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเดินมาถูกต้องแล้ว จึงอยากให้ใช้เวทีสภาฯสอบถามข้อสงสัยต่างๆ มากกว่าการมากดดันนอกสภาฯ ที่จะก่อให้เกิดแนวโน้มทำความรุนแรงจนทำให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไป เอาทหารมาควบคุมประเทศถึง 5 ปี เพราะแค่ 2 ปี 8 เดือนเรายังล้าหลังไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
ด้าน น.ส.ศันสนีย์กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้มาตามครรลองที่ถูกต้อง และนายกรัฐมนตรีก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ เราเชื่อว่าท่านนำพาประเทศให้เป็นไปตามกรอบกติกา และภายใต้กฎหมาย การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบในกติกา จึงอยากให้ประชาชนใช้เวลาฟังการอภิปรายในรัฐสภา เพราะเป็นการช่วยสร้างเครดิตให้ประเทศว่าเรายึดมั่นในหลักการ ตนยืนยันว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปราย มีคำตอบสำหรับประชาชนอย่างแน่นอน