xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ซัดดีเอสไอรับลูก พท.ล้ม ปชป. หวังเหลือพรรคเดียว-ชี้ระวังเขตการค้าในข้อตกลง TPP

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
หน.ปชป.จวก “ดีเอสไอ” ตั้งธงจัดการ ปชป. รับงานรัฐบาลไล่บี้ บีบห้ามยุ่งพรรคฝ่ายค้าน ย้อนแนวคิดพรรค “แม้ว” ต้องการเล่นการเมืองพรรคเดียว เชื่อสังคมไม่ยอม-เตือนข้อตกลงTPP กำหนดขอบเขตการค้าไม่ชัด หวั่นเกิดกระทบแผนแม่บทสถาบันการเงิน ชี้เป็นกระแสเหตุ “โอบามา” เยือนไทย รับช่วงเป็น รบ.ไม่กล้าเซ็นกลัวผิด ม.190 แนะต้องพร้อมก่อนที่จะตอบรับ

วันนี้ (14 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่พยายามจะตั้งข้อหาพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่ให้ความร่วมมือในการจัดส่งเอกสารการบริจาคเงินของพรรคย้อนหลัง 5 ปีว่า เป็นความพยายามที่จะใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้งฝ่ายตรงกันข้ามต่างๆ โดยเฉพาะการตั้งคดีว่าผู้ให้บริจาคทำผิด มีการเรียกเอกสารจากพรรคแบบไม่สมเหตุสมผล เช่น การขอย้อนหลัง 5 ปี ซึ่งพรรคก็ให้ความร่วมมือแต่ต้องใช้เวลา เพราะต้องขอสำเนาจาก กกต. จึงขอขยายเวลาไปถึงต้นเดือนธันวาคม ก็พยายามจะสรุปอ้างข้อกฎหมายว่าพรรคไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งที่ตนเคยทำหนังสือถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิดีดีเอสไอ ไปแล้วว่าไม่เป็นธรรม และยังมีโอกาสคุยโทรศัพท์กับคนที่ออกหนังสือด้วย แต่กลับไม่มีการอ้างถึงการหารือในวันนั้นว่าเคยตกลงกันอย่างไร แต่กลับตั้งธงว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งที่เชิญเจ้าหน้าที่พรรคก็ไปทุกครั้ง เราเพียงแต่ขอขยายเวลาในเรื่องเอกสารที่มีจำนวนมากเพราะย้อนหลังถึง 5 ปี โดยพรรคขอเวลาแค่เดือนเดียวแต่ดีเอสไอก็ไม่ยอม

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องดังกล่าวจะกลายเป็นเงื่อนไขในการออกหมายจับนายอภิสิทธิ์ และแกนนำของพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่น่าจะอยู่ในฐานะที่จะออกหมายจับ เพราะถ้ากลั่นแกล้งกันก็คงต้องร้องเรียนแล้วว่ามีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งก็ทำหนังสือถึงอธิบดีดีเอสไอไปแล้วครั้งหนึ่ง จึงต้องรอดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร และอยากทราบว่าดีเอสไอใช้มาตรฐานในการเรียกเอกสารจากพรรคประชาธิปัตย์เหมือนกับที่ใช้กับ กกต.หรือไม่ หรือพอพรรคประชาธิปัตย์เป็น ส.ส.ฝ่ายค้านจะพยายามทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ซึ่งตนไม่แน่ใจว่ารัฐบาลนี้เป็นประชาธิปไตยแค่ไหน เพราะรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยที่ชอบอวดอ้างตัวเองว่าเป็นนักประชาธิปไตย แต่วันมีอำนาจไม่ใช้อำนาจแบบนักประชาธิปไตย แต่ใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองคุกคามฝ่ายค้านจะกระทบไปถึงประชาชนที่มาบริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วมจนตกอยู่ในภาวะหวาดกลัว เพื่อสร้างความรู้สึกว่าอย่ามาเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์

เมื่อถามว่า เจตนาของทางพรรคเพื่อไทยที่ดำเนินการเช่นนี้ไม่ได้หวังเพียงแค่ล้มนายอภิสิทธิ์ แต่ต้องการล้มพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เขาพยายามทำทุกอย่างอยู่แล้ว เพราะพรรคเพื่อไทยกับไทยรักไทยในอดีตมีความคิดอุดมการณ์ที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอยู่อย่างหนึ่ง คือ เชื่อในระบบพรรคเดียว ซึ่งไม่มีประเทศไหนที่เป็นระบบพรรคเดียวแล้วเป็นประชาธิปไตย และเขาเห็นว่าพรรคเป็นอุปสรรคต่อเป้าหมายทางการเมือง ซึ่งต่างจากเวลาที่ตนมีอำนาจจะมองว่าแม้เห็นไม่ตรงกัน การเมืองคิดต่างกันแต่ต่างคนต่างมีบทบาทและหน้าที่ที่จะต้องทำ อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่าจะต้านทานอำนาจรัฐไม่ให้ล้มตนและพรรคประชาธิปัตย์ได้ เพราะไม่เชื่อว่าสังคมนี้จะปล่อยให้เกิดภาวะพรรคเดียวกินรวบ ลุแก่อำนาจ กลั่นแกล้งคน

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยังเตือนรัฐบาลให้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนที่จะยอมรับความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก (TPP) เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวมีมาตรฐานสูงกว่าอาเซียนมาก แม้ว่าการที่สหรัฐฯ เชิญไทยเข้าร่วมจะเป็นเรื่องที่ดีแสดงให้เห็นว่าเราอยู่ในความสนใจที่จะร่วมมือทางเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลต้องทราบว่าข้อตกลง TPP เป็นการเจรจาที่ครอบคลุมกว้างขวางกว่าเขตการค้าเสรีและเกี่ยวพันหลายเรื่อง เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา การเงิน และเรื่องอื่นๆ อีกมาก การจะร่วมไม่เป็นปัญหาแต่ต้องเตรียมกำหนดขอบเขตและกรอบการเจรจา ซึ่งในอดีตรัฐบาลชุดที่แล้วไม่ทำเพราะยังไม่มีความชัดเจนที่ TPP ทำให้การกำหนดกรอบการเจรจาค่อนข้างยาก จึงไม่สามารถขออนุมัติจากสภาได้เพราะกรณีนี้เข้าข่ายตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญที่จะต้องเสนอต่อรัฐสภาเพื่อพิจารณา แต่ในชั้นนี้คงเป็นเพียงแค่การแสดงเจตนาร่วมกันโดยไม่มีผลผูกพันใดๆ ต่อทั้งสองประเทศ

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า กติกาในการร่วมเจรจาและข้อตกลงที่จะสรุปของ TPP ขาดความชัดเจนหลายเรื่อง แม้แต่ประเทศที่เคยรับเชิญไปสังเกตการณ์แล้วอย่าง เกาหลี ญี่ปุ่น ก็ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาอีกมาก ตนไม่ได้คัดค้านแต่ต้องการให้รัฐบาลเตรียมการให้ดีเพราะยังตอบยากมากว่าเมื่อชั่งน้ำหนักแล้วผลดีและผลเสียต่อประเทศจะเป็นอย่างไร เนื่องจากกรอบความร่วมมือดังกล่าวไม่มีความชัดเจน อีกทั้งรัฐบาลต้องตระหนักด้วยว่า TPP ประกอบด้วยประเทศที่ไม่มีปัญหาเขตการค้าเสรี เช่น สิงคโปร์ บรูไน ชิลี นิวซีแลนด์ จึงตั้งส่วนนี้ขึ้นมาไปไกลถึงการเปิดเสรีทางการเงิน 100% มาตรฐานทรัพย์สินทางปัญญาสูงกว่ากติกาโลก ซึ่งประเทศไทยต้องพิจารณาว่า เรามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าเปิดเสรีทางการเงิน 100% ก็จะกระทบกับแผนแม่บทสถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยวางไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาเงินไหลเข้าจนเกิดฟองสบู่กลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการแสดงเจตนาจึงอยากให้รัฐบาลคิดล่วงหน้าว่า ถ้าจะตอบรับต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง โดยต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และที่รัฐบาลดำเนินการเรื่องนี้ก็อาจเป็นเพราะว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะเดินทางมาประเทศไทยจึงใช้โอกาสนี้ประกาศบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งตนคิดว่ากรณีนี้ไม่ได้มีเพียงแค่มิติทางด้านเศรษฐกิจ แต่ยังมีมิติด้านความมั่นคงด้วย เพราะข้อสังเกตของ TPP คือ หลักเดิมที่พยายามผลักดันให้อาเซียนไต่ไปถึงอาเซียนบวกสามบวกหกต้องเป็นแกนกลางในข้อตกลงความร่วมมือในภูมิภาค ซึ่งมติ ครม.วันเดียวกันยังมีการพูดถึง RCEP ซึ่งในขณะนี้จีนไม่ได้ร่วมอยู่ใน TPP ด้วย และญี่ปุ่น เกาหลี แม้จะเข้าไปร่วมบ้างแต่ก็ยังไม่ได้เป็นสมาชิก

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเกมสหรัฐฯ ที่จะบีบจีนทางด้านเศรษฐกิจเพื่อขยายอำนาจมายังภูมิภาคนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐเคยหาเสียงและพูดถึง TPP แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็น่าจะเป็นเพียงการแถลงข่าวร่วมว่ามีเจตนาที่จะตอบรับ ยังไปไกลกว่านั้นไม่ได้และไม่ผูกพันเนื้อหาสาระที่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจ เป็นเพียงเชิญร่วมเจรจาเท่านั้น แต่รัฐบาลต้องตั้งหลักว่าจะเจรจากรอบจะเป็นอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น