xs
xsm
sm
md
lg

“นิพนธ์” ข้องใจอดีตบิ๊ก อสมท จับ “สรยุทธ” โกงช้า ชี้นโยบายตรวจสอบเหลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สรยุทธ สุทัศนะจินดา(แฟ้มภาพ)
นายกทีวีดาวเทียม แจงวุฒิฯ แจงตามข้อมูล “เฮีย ส.” โกงช่อง 9 เด็กไร่ส้ม-คน อสมท-บิ๊ก อสมท มีเอี่ยว ถามเหตุ “บุณฑณิก” รอ 22 เดือนถึงจับโกงได้ ชี้นโยบายตรวสอบอาจหลวม มีลักไก่โฆษณาเกิน ผู้บริหารไม่สนขอแค่รายได้เพิ่ม แถม พนง.ตรวจสอบน้อย และไม่แก้ไขถึงปัจจุบัน จวกกรรมกรข่าวไม่สะทกสะท้าน ยังหากินเครือ อสมท ต่อ

วันนี้ (13 พ.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการพิจารณา ศึกษา ติดตามและตรวจสอบการดำเนินงานด้านสิทธิและเสรีภาพ วุฒิสภา ที่มีนายมณเฑียร บุญตัน เป็นประธาน โดยมีการพิจารณาการใช้สิทธิเสรีภาพของสื่อกับจรรยาบรรณสื่อ กรณีศึกษาบริษัท ไร่ส้ม จำกัด กับจริยธรรมสื่อมวลชน ได้เชิญนายนิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียมแห่งประเทศไทย ในฐานะอดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยระบุว่าคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2550 ซึ่งบริษัท ไร่ส้ม ที่มีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นเจ้าของ ร่วมกับพนักงาน อสมท ทุจริต ทำให้ อสมท แจ้งความต่อ สน.ห้วยขวาง ว่าเกิดความเสียหายจากค่าโฆษณาคิดเป็นเงิน 138,790,000 บาท หลักฐานทั้งหมดได้ถูกส่งไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบและชี้มูลเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2555 ว่ามีความผิดจริง เป็นเหตุให้ อสมท ได้รับความเสียหายจริง

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า เมื่อความเป็นจริงการทุจริตนี้เกิดขึ้นได้ต้องมีมูลเหตุจาก 3 ฝ่ายด้วยกัน คือ 1. ฝ่ายบริษัทไร่ส้ม โดยมีมณฑา ธีรเดช เป็นผู้ส่งโฆษณาให้ อสมท ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้วว่าบริษัทไร่ส้มเป็นผู้สั่งโฆษณาเกินกว่าสัญญาจริง สร้างความเสียหายให้แก่ อสมท เป็นจำนวนเงิน 138 ล้านบาท 2. ฝ่ายพนักงาน อสมท โดยมีนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด เป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบรับโฆษณาและสั่งแพร่ภาพแต่ผู้เดียว เป็นผู้ที่นายสรยุทธลงลายมือสั่งจ่ายเช็คของบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ให้แก่นางพิชชาภา รวมเป็นเงินประมาณ 7.3 แสนบาท และ 3. ฝ่ายบริหาร อสมท จำกัด โดยมี น.ส.บุณฑณิก บูลย์สิน รักษาการผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการตลาด ซึ่งเป็นผู้ควบคุมและดูแลการปฏิบัติงานเป็นผู้ตรวจพบความผิดปกติในการโฆษณาระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 - 30 มิถุนายน 2549 จึงตรวจสอบและชี้ความผิดดังกล่าว และเมื่อตนอ่านเรื่องราวความเป็นมาทั้งหมดแล้วสงสัยว่า ทำไมที่ น.ส.บุณฑณิก ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ อสมท จึงไม่พบความผิดดังกล่าวตั้งแต่สัปดาห์แรก

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ระบบการควบคุมและตรวจสอบบกพร่องหรืออย่างไรจึงต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 22 เดือน กว่าจะพบความผิดสังเกตและแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อตรวจสอบเข้าไปลึกๆ ก็พบอีกว่า ทั้งคณะตรวจสอบคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดที่มี พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ และ ป.ป.ช.ไม่มีความเห็นประเด็น “ทุจริตเชิงนโยบาย” คนใน อสมท อธิบายว่าที่ น.ส.บุณฑณิก ผู้บริหาร อสมท ใช้เวลาตั้ง 22 เดือน เพราะก่อนหน้าที่จะโกงมีความผิดพลาดที่เกิดจากนโยบาย 2 ประการ 1. ก่อนหน้านี้ อสมท มีนโยบายให้โฆษณาได้ไม่เกินชั่วโมงละ 12.5 นาที นโยบายนี้ได้ถูกยกเลิกไปสมัยที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ เมื่อไม่จำกัดโฆษณาและมีรายได้เข้ามามากกว่าเดิมก็จะไม่พบความผิดสังเกต เช่น เดิมโฆษณาเต็ม เป็น 6 นาที 15 วินาที มีรายได้เงิน 1.5 ล้านบาทต่อวัน หากเพิ่มโฆษณาไปอีก 1 นาที รายได้เพิ่มเป็น 1.74 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่ไม่ผิดสังเกต หรือถ้าบริษัทไร่ส้มร่วมกับพนักงานเพิ่มโฆษณาไป 2 นาที แล้วรายงานว่ารายได้เพิ่ม 1 นาที ก็เป็นเรื่องที่ผู้บริหารคงไม่ได้มาลงในรายละเอียด เพราะถือว่ามีรายได้เพิ่มก็ดีแล้ว 2. ก่อนหน้านี้ฝ่ายการตลาดมีส่วนงานวิจัยและประเมินผล 8 อัตรา พนักงานส่วนนี้ถูกลดลงเหลือ 3 อัตรา เป็นผลให้ต้องยุบงานตรวจสอบ จึงไม่มีการตรวจสอบจำนวนนาทีของโฆษณาที่สั่งออกอากาศโดยนางพิชชาภา กับรายงานโฆษณาที่ออกอากาศไปแล้วซึ่งจัดทำโดยบริษัทภายนอกว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่ เป็นงานหนึ่งที่ถูกยุบ จึงทำให้ระบบการควบคุมดูแลเบื้องต้นขาดหายไป

นายนิพนธ์ยังกล่าวต่อว่า ตั้งแต่มีการทุจริตเกิดขึ้นถึงวันนี้ อสมท ยังไม่ได้มีการดำเนินปรับปรุงหน่วยงานด้านการตรวจสอบเพื่อป้องกันการโกงครั้งต่อๆ ไปแต่อย่างใด นายสรยุทธก็ย้ายจากช่อง 9 ไปอยู่ช่อง 3 ซึ่งเป็นโทรทัศน์เครือเดียวกับ อสมท และยังทำงานเป็นปกติสุขอยู่ที่ช่อง 3 แม้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแล้วก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น