เลขาฯ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยผลศาล ปค.พิจารณา 3จี ยังไม่คืบ ชี้ กต.ย้ำคืนหนังสือเดินทาง “ทักษิณ” ทำตามระเบียบ แต่เงียบเรื่องประสาน สตช.-ศาลฎีกาในปมหมายจับ-ห้ามบินนอกประเทศ เตรียมโยนผู้ตรวจฯ ตัดสินจะลุยหรือหยุด
วันนี้ (13 พ.ย.) นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนการจัดประมูลคลื่นความถี่ 3จี ว่าจนถึงขณะนี้ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็ยังไม่ได้รับการติดต่อ หรือแจ้งหมายศาลจากศาลปกครองแต่อย่างใด แต่ทางสำนักงานผู้ตรวจฯ ก็ได้มีการประสานกับทางศาลปกครองอยู่อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายเฉลิมศักดิ์ยังเปิดเผยกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินมีคำวินิจฉัยถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศขอให้พิจารณาทบทวนการคืนหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการคืนหนังสือเดินทางดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง พ.ศ. 2548 ว่า ขณะนี้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้มีหนังสือลงวันที่ 8 พ.ย. ชี้แจงกลับมายังผู้ตรวจแผ่นดินแล้ว หลังจากที่ได้ขอขยายระยะเวลาการชี้แจงนับแต่ได้รับหนังสือจากผู้ตรวจการแผ่นดินออกไปอีก 30 วัน โดยปลัดกระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่าการคืนหนังสือเดินทางให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นไปตามระเบียบฯ และเป็นการใช้ดุลพินิจทางปกครองโดยอำนาจของปลัดกระทรวงการต่างประเทศที่สุจริต ซึ่งหลังจากนี้ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะได้นำเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาเมื่อเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้ว
เมื่อถามว่า คำวินิจฉัยของผู้ตรวจระบุให้กระทรวงต่างประเทศประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่างทางการเมือง เพื่อขอทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่ศาลออกหมายจับในคดีที่ดินรัชดาฯ และถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ในหนังสือตอบของทางกระทรวงต่างประเทศได้แจ้งถึงผลการประสานงานหรือไม่ นายเฉลิมศักดิ์กล่าวว่า เท่าที่ดูข้อเท็จจริงที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอมาไม่ได้มีการระบุว่าได้มีการประสานไปยังหน่วยงานอื่นเพื่อขอทราบสถานะที่เป็นปัจจุบันของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งทางสำนักงานผู้ตรวจฯ ก็เห็นว่าเป็นประเด็นอยู่และคงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน
“ข้อเท็จจริงที่กระทรวงการต่างประเทศเพิ่มเติมมามีลักษณะเป็นการยืนยันว่าที่กระทรวงฯ ได้ดำเนินการไปนั้นได้ใช้ดุลพินิจเป็นไปตามระเบียบแล้ว ซึ่งก็ไม่มีเอกสารยืนยันอะไรเพิ่มเติมมา เพียงแต่เป็นการคอนเฟิร์มว่าที่ได้ปฏิบัติไปถูกต้องแล้ว” นายเฉลิมศักดิ์กล่าว และว่าหลังจากนี้ทางสำนักงานผู้ตรวจฯ ก็จะได้สรุปข้อมูลต่างๆ เสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา ซึ่งก็จะมีแนวทางปฏิบัติ 3 แนว คือ หากผู้ตรวจฯ พิจารณาข้อเท็จจริงที่กระทรวงการต่างประเทศตอบกลับมาแล้วเห็นว่าไม่ชัดเจน ก็อาจเชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงก็ได้ หรือถ้าเห็นว่าคำชี้แจงของปลัดกระทรวงต่างประเทศไม่ถูกต้องก็จะมีหนังสือแจ้งถึงรัฐมนตรีเพื่อให้ดูแลให้มีการปฏิบัติที่ถูกต้อง และถ้าผู้ตรวจฯ เห็นว่าคำชี้แจงของปลัดกระทรวงต่างประเทศรับฟังได้ก็อาจสั่งยุติเรื่อง