ศิษย์เก่า ตท.5 และ ตท.10 เครือข่าย “นช.แม้ว” ออกโรงต้าน “เสธ.อ้าย” ชุมนุมไล่รัฐบาล อ้างเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พร้อมไล่ให้ลาออกจากประธานศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร ยันไม่เกิดศึกสายเลือกนักเรียนเตรียมทหาร “ชัยสิทธิ์” ญาติ “ทักษิณ” โผล่ร่วม ประกาศบุกเจรจา “เสธ.อ้าย” ไม่สนแม้เคยเป็นผู้บังคับบัญชามาก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก รร.มิราเคิลแกรนด์ วันนี้ (9 พ.ย ) พล.อ.ธนู ศรียากูล ประธานศิษย์เก่าเตรียมทหารรุ่น 5 (ตท.รุ่น 5) พร้อมด้วยเพื่อน ตท.5 เช่น พล.อ.อดิศักดิ์ รัตนรามา พล.อ.อภิชาติ ทิมสุวรรณ และ พล.ท.มนัส เปาริก อดีตนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ รวม 30 นาย เพื่อหารือ และกำหมดท่าทีต่อการเคลื่อนไหวของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานศิษย์เก่า ตท.1 ในฐานะประธานองค์กรพิทักษณ์าสยาม ที่ประกาศชุมนุมขับไล่รัฐบาล
พล.อ.ธนู กล่าวว่า การกระทำของ พล.อ.บุญเลิศ เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง อยากให้นักเรียนเตรียมทหาร ทำอะไรด้วยความถูกต้อง เหมาะสม และตรงไปตรงมาด้วยความเป็นธรรม ส่วนตัวก็เคารพ เสธ.อ้าย และอยากให้ เสธ.อ้าย เปลี่ยนใจจากการกระทำที่คิดจะล้มล้างรัฐบาล เพราะถือว่าเป็นการต่อต้านระบอบประชาธิปไตย และการออกมาครั้งนี้ไม่ใช่การเปิดศึกของเตรียมทหารแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าความคิดของทหารเริ่มแตกแยก แต่ทหารส่วนใหญ่ต้องการความเป็นกลางมากกว่า
พล.อ.ธนู กล่าวว่า การออกมาครั้งนี้ของพวกเราแค่ต้องการร้องเรียนให้ เสธ.อ้าย คิดทบทวนใหม่ในสิ่งที่ถูกต้อง และรับฟังความคิดเห็นของรุ่นน้องเตรียมทหาร หากคิดแบบนี้ลาออกจากการเป็นประธานมูลนิธิศิษย์เก่าเตรียมทหารดีกว่า ไม่อยากให้ประชาชนขัดแย้ง และทหารขัดแย้งกันมันไม่ดี หากทหารต่างคนต่างคิดแล้วเมื่อมีสงครามระหว่างประเทศ การป้องกันประเทศของกำลังทหารก็จะอ่อนลง
“ถ้าพี่คิดเช่นนี้ ผมว่าพี่ลาออกจากการเป็นประธานมูลนิธิดีกว่า เพราะเป็นแล้วมาทำสิ่งไม่ถูกต้องมาทำหน้าที่ผิดๆ จะทำให้นักเรียนเตรียมทหารแตกแยกกัน หากเตือนแล้วไม่ฟังก็แล้วแต่พี่ แต่คิดว่าพี่คงจะฟังน้องๆ บ้าง เพราะที่พวกเรามาพูด เราพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มาด่ามาว่ากัน ควรคิดให้เหมาะสมและยอมรับในประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ประเทศชาติจะได้เจริญ”
ส่วนที่ เสธ.อ้าย บอกว่า จะแช่แข็งประเทศไทย 5 ปีนั้น พล.อ.ธนู กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ประเทศไทยแย่ลง เศรษฐกิจแย่ลง ประชาชนจะมีความลำบากมากขึ้น สมัยก่อนตนมีญาติหลายคนที่เรียนมหาลัย คนที่เรียนเก่งๆ สอบได้ที่ 1 ก็ถูกมหาลัยส่งให้ไปเรียนเมืองนอก พอประเทศไทยมีการปฏิวัติมีระบบรัฐประหารเข้ามา ต่างประเทศเขาก็ไม่รับนักศึกษาเหล่านั้นเข้าไปเรียน การปฏิวัติทำให้สูญเสียหลายสิ่งหลายอย่าง มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก มีแต่แย่ลง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม ไม่ได้ต้องการปฏิวัติจากกำลังทหาร แต่ต้องการปฏิวัติด้วยพลังประชาชน พล.อ.ธนู กล่าวว่า เป็นสิทธิของ เสธ.อ้าย แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ที่ออกมาพูดว่าไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ ถือเป็นความคิดที่ดีเยี่ยมน่ายกย่อง เป็นความคิดเห็นเช่นเดียวกับตนเอง ทหารไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง เข้ามายุ่งเฉพาะส่วนตัวได้ แต่ไม่ควรประชาสัมพันธ์เรียกร้องให้คนมาชุมนุมทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม หากอยากเล่นการเมือง ก็ควรลงเล่นการเมือง ไม่ควรไปยุยงส่งเสริมให้ประชาชนทำสิ่งไม่ดี หากยอมฟังความคิดเห็นกันบ้างก็คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าไม่ยอมรับความคิดเห็นตรงนี้ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“มีเพื่อนๆ เตรียมทหารหลายคนบอกผมว่าอยากชุมนุม แต่ผมเตือนไปว่าอย่าเพิ่งทำ และเมื่อความคิดเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่ายแล้ว ผมคิดว่าฝ่ายที่ตรงไปตรงมาอย่างผมน่าจะมีเยอะกว่า”
จากนั้นอดีตศิษย์เก่าเตรียมทหาร นำโดย พล.อ.ธนู ได้อ่านแถลงการณ์คัดค้าน พล.อ.บุญเลิศ ที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล โดยมีเนื้อหาสรุปว่า อยากเรียกร้องให้ พล.อ.บุญเลิศ ยุติการเคลื่อนไหวดังกล่าว เพราะจะเป็นการสร้างความแตกแยกในสังคม และไม่สนับสนุนแนวคิด พล.อ.บุญเลิศ ที่เรียกร้องให้ทหารออกมายึดอำนาจล้มล้างรัฐบาล ปิดประเทศแช่แข็งระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ในฐานะศิษย์เก่าเตรียมทหาร จะไม่ยอมให้คนที่คิดเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย มาเป็นผู้นำ ดังนั้น อยากให้ พล.อ.บุญเลิศ ลาออกจากประธานศิษย์เก่านักเรียนเตรียมทหาร เพื่อรักษาชื่อเสียงเกียรติภูมิไม่ให้เสื่อมเสียจากพฤติกรรมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.ธนู อ่านแถลงการณ์อยู่นั้น พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ญาติผู้พี่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางเข้าร่วมงานดังกล่าว หลังก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่าจะไม่เดินทางมาร่วม
ทั้งนี้ ภายหลังอ่านแถลงการณ์เสร็จ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยยืนยันว่า การออกมาครั้งนี้ เพื่อต้องการเตือนสติ พล.อ.บุญเลิศ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ต่อการปลุกระดมมวลชนเพื่อมาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อีกทั้ง พล.อ.บุญเลิศ ไม่ได้มีมวลชนจริง หากออกมาเคลื่อนไหวจนทำชาติเสียหาย พล.อ.บุญเลิศ ก็ไม่สามารถรับผิดชอบไหว
“เสธ.อ้าย ไม่ได้มีมวลชนเป็นของตัวเอง หากจะวัดกำลังกัน มั่นใจว่า ผมมีมากกว่าอย่างแน่นอน และไม่ต้องเสียเงินเกณฑ์มา เพราะคนที่มาล้วนแต่บริสุทธิ์ใจทั้งสิ้น และหากจะเอาม็อบข้างถนนมากดดันรัฐบาล ผมไม่ยอมอย่างแน่นอน และอยากเตือนว่า อย่าตกเป็นเครื่องมือให้กับผู้ที่ผิดหวังทางการเมือง และขอย้ำหากจะจัดชุมนุมจริง ก็เป็นสิทธิที่จะกระทำได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย”
พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่กังวลหากเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างประชาชน แล้วทหารจะออกมาปฏิวัติ เพราะทหารสมัยนี้อยู่ในสายตาของตนมาตลอด และถือว่าเป็นรุ่นที่รักประชาธิปไตย ทั้งนี้ ไม่เห็นด้วยกับการที่ พล.อ.บุญเลิศ เรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ แต่อาจจะมีการพูดคุยกับ พล.อ.บุญเลิศ อีกครั้งถึงเรื่องดังกล่าว ในฐานะที่เคยเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาตนมาก่อน และขอยืนยันอีกครั้งว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้เป็นการขู่ หรือปีนเกลียวรุ่นพี่