หน.รักประเทศไทย เผยหนุนฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาลแน่ มั่นใจข้อมูลชัดเจน โวรัฐบาลล้มทั้งยืนแน่ อีกด้านเผยตัดหาง “ชัยวัฒน์-โปรดปราน” ส.ส.พรรค อ้างคำไต่สวน กกต.ไม่มีมูลว่าถูกบังคับเซ็นใบลออก พ้น ส.ส.พรรคแล้ว ส่วนจะยังรับเงินเดือน-ทำหน้าที่อย่างไรให้ประธานสภาฯ พิจารณา
วันนี้ (7 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย แถลงข่าวยืนยันว่ายังสนับสนุนที่จะร่วมลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ซึ่งตนคงจะเปิดเผยรายละเอียดให้ข่าวได้ไม่มากเพราะเป็นพรรคเล็ก จำเป็นต้องฟังประธานวิปฝ่ายค้าน โดยตนได้ส่งข้อมูลให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้านแล้ว ซึ่งจะได้ไปรวมในญัตติเดียวของฝ่ายค้าน โดยตน และนายสมเพชร แต่งงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย จะลงชื่อตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 และ 159 เพื่อยื่นอภิปรายรัฐบาลด้วย มั่นใจว่าข้อมูลในการอภิปรายครั้งนี้ชัดเจน รัฐบาลถึงขั้นล้มทั้งยืนแน่
นายชูวิทย์ยังกล่าวถึงสถานะของสมาชิกพรรค คือนายชัยวัฒน์ ไกรฤกษ์ และนายโปรดปราน โต๊ะราหนี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ที่ได้เขียนใบลาออกจากสมาชิกพรรค โดยนายชัยวัฒน์ ได้ลาออก เมื่อวันที่ 11 ม.ค.55 และนายโปรดปราน ลาออกเมื่อวันที่ 10 ม.ค.55 แต่ต่อมาทั้งคู่ได้ทำหนังสือคัดค้านต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ไม่ได้ลาออกจริง ซึ่งขณะนี้ทาง กกต.ได้แจ้งผลการไต่สวนโดยยกคำร้องของทั้งคู่ พร้อมระบุผลการไต่สวนจากพยานหลักฐาน ฟังไม่ได้ว่านายชูวิทย์กระทำการตามที่ได้กล่าวหา
ทั้งนี้ มีพยานบุคคล และเอกสารยืนยันว่า นายชัยวัฒน์และนายโปรดปรานได้ลงลายมือชื่อ และลายมือเขียนในหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตามที่ปรากฏในหนังสือลาออกดังกล่าวจริง คณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงจึงมีมติเอกฉันท์ให้ยกคำร้องนี้ ดังนั้น แสดงให้เห็นว่าการลาออกมีผลแล้ว การที่ยังปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. รับเงินเดือน เบี้ยประชุม ใช้สิทธิเดินทางไปต่างประเทศ รวมทั้งหากทั้งคู่ไปลงชื่อสนับสนุนในการอภิปราย และลงมติให้แก่ฝ่ายรัฐบาล ถือว่าไม่อยู่ในความรับผิดชอบของพรรค เพราะสิ้นสุดการเป็น ส.ส.แล้ว หากมีความเสียหายเกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้พิจารณา